คปค. ขอ สปส. ปลดล็อกเพิ่มเติมอีก 3 โรคที่ประกันสังคมไม่คุ้มครอง ทั้งการรักษาภาวะมีบุตรยาก การรักษาที่ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาทดลอง และการผสมเทียม
ความคืบหน้ากรณีมี 14 โรค และการบริการที่ไม่สามารถเบิกตามสิทธิประกันสังคมได้ ซึ่งสำนักงานประกันสังคมแจงว่า มีการปลดล็อกแล้ว 8 โรค แต่ยังไม่ครอบคลุม 6 โรค คือ 1. การกระทำใดๆ เพื่อความสวยงามโดยไม่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ 2. การรักษาที่ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาการค้นคว้าทดลอง 3. การรักษาภาวะมีบุตรยาก 4. การตรวจใดๆ ที่เกินความจำเป็นในการรักษาโรคนั้น 5. การเปลี่ยนเพศ และ 6. การผสมเทียม ทั้งนี้ เป็นไปตามความเหมาะสมตามหลักการทางการแพทย์และสอดคล้องกับระบบประกันสุขภาพภาครัฐอื่นๆ ของประเทศไทย
วันนี้ (10 ต.ค.) เครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.) กว่า 30 คน นำโดย นายมนัส โกศล ประธาน คปค. และ นายภาคภูมิ สุกใส ผู้ประสานงานสภาองค์การลูกจ้างพัฒนาแรงงานแห่งประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) เพื่อขอให้มีการพิจารณาขยายความคุ้มครองและให้บริการ 14 กลุ่มโรคเพิ่มเติม โดยมี น.ส.อำพันธ์ ธุววิทย์ ผู้ตรวจราชการสำนักงานประกันสังคม เป็นผู้รับมอบ
น.ส.อัมพันธ์ กล่าวว่า เมื่อดูตามข้อเรียกร้องของเครือข่ายแล้วฯ ต้องเรียนว่า ก่อนหน้านี้ ทางสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้มีการพิจารณาให้สิทธิผู้ประกันตนได้รับบริการการรักษาแล้วจำนวนหนึ่ง อาทิ โรคเดียวกันที่ต้องใช้เวลาในการรักษาตัวใน รพ. 180 วัน ยกเว้นกรณีที่มีความจำเป็นตามดุลพินิจของแพทย์ การบำบัดทดแทนไตกรณีไตวายเฉียบพลัน หรือ เรื้อรัง การปลูกถ่ายอวัยวะ ทันตกรรม แว่นตา เปลี่ยนอวัยวะ บริการระหว่างพักฟื้น ส่วนที่เหลือนั้นขอรับข้อเสนอไว้เพื่อพิจารณาอีกครั้ง
ด้าน นายภาคภูมิ กล่าวว่า เครือข่ายฯ ได้มีการพิจารณากันเป็นการภายในมีเรื่องที่เครือข่ายเห็นด้วยกับ สปส. ว่า ไม่ควรให้สิทธิ เช่น การศัลยกรรมความงาม การตรวจรักษาเกินความจำเป็น การเปลี่ยนเพศ เป็นต้น ดังนั้น ในจำนวน 14 กลุ่มโรคนั้นมีอยู่ 11 กลุ่มโรคที่อยากให้ สปส. ปลดล็อก แต่ล่าสุดทราบว่าทาง สปส. ปลดล็อกแล้วบ้างแต่ยังเหลืออีก 3 กลุ่มโรคที่อยากให้พิจารณาปลดล็อกเพิ่มเติม คือ 1. การรักษาภาวะมีบุตรยาก 2. การรักษาที่ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาทดลอง และ 3. การผสมเทียม