สธ. ชี้ “วัดพระธรรมกาย” นำเข้าเครื่องปรับบรรยากาศ “Hyperbaric Chamber” ไม่ผิด เหตุใช้รักษาคนเดียว พร้อมมีแพทย์ดูแลสามารถทำได้ เว้นซื้อมาใช้บริการคนอื่น เผย เซานาในวัดพระธรรมกาย หากไม่ขออนุญาตถือเป็นสปาเถื่อน
จากกรณีพบเครื่อง Hyperbaric Chamber ซึ่งจัดว่าเป็นเครื่องมือแพทย์ และต้องใช้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อยู่ในห้องของพระธัมมชโย ถือว่าเข้าข่ายมีความผิดหรือไม่
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า เครื่องที่ปรากฏอยู่นั้น จะเป็นเครื่องลักษณะบุคคลเดียวเข้าไปได้ ซึ่งเครื่องที่ใช้ในโรงพยาบาลจะเป็นเครื่องขนาดใหญ่เข้าได้ถึง 4 คน ซึ่งใน สธ. มีที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต วัตถุประสงค์มุ่งเน้นรักษาผู้ป่วย “โรคน้ำหนีบ” และเป็นอีกทางเลือกในการรักษาแผลเบาหวาน ส่วนที่มีการนำไปใช้เรื่องผิวพรรณให้เต่งตึง ไม่ใช้วัตถุประสงค์ในการรักษาหลัก อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามฝ่ายกฎหมายในการขึ้นทะเบียน พบว่า หากนำเครื่องนี้ไปใช้เพื่อใช้บริการจะทำไม่ได้ เพราะไม่ใช่สถานพยาบาล จะมีความผิดตามกฎหมาย แต่หากเป็นการรักษาผู้ป่วยรายเดียว และมีแพทย์ดูแลใกล้ชิด กฎหมายได้ให้ข้อยกเว้นความผิดไว้
ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผอ.สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงกรณีมีการเปิดเซานาภายในวัดพระธรรมกาย ว่า ตาม พ.ร.บ. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559 กำหนดให้ผู้ที่เปิดร้านสปา เซานา นวดเพื่อสุขภาพ จะต้องขออนุญาตจาก สบส. ก่อน มิเช่นนั้น ถือเป็นสถานบริการเถื่อน มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท ถ้าไปเปิดในวัด หรือวัดจะทำการเปิดเองก็ต้องขออนุญาตไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เพื่อขอใช้ธรณีสงฆ์ ไม่ว่าจะเปิดโดยเอกชนหรือวัดเปิดเองก็ต้องขออนุญาต ที่สำคัญ คือ ไม่ใช่กิจของสงฆ์ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเรื่องเกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ปทุมธานี ต้องดูว่าเจ้าหน้าที่ของจังหวัดจะลงไปดูหรือไม่ หรือจะร้องขอให้ สบส. ลงไปดูก็ได้