xs
xsm
sm
md
lg

อธิการฯ ม.รังสิต จวกห้ามขายเหล้าแค่ 300 ม.อย่าทำ จี้คุม 3 กม. ทปอ.หนุนห้ามขายพ่วงพนัน-คาราโอเกะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เคาะห้ามขายเหล้ารอบสถานศึกษา 300 เมตร 3 ก.ค.นี้ "หมอสมาน" เชื่อไม่กระทบร้านค้า ด้านอธิบการฯ ม.รังสิตโพสต์เฟซบุ๊กจวก "รัชตะ" แก้ปัญหาได้แค่นี้ อย่าทำ เชิญคนอื่นมาทำหน้าที่แทน ชี้ควรควบคุมที่ 3 กิโลเมตร  ขณะที่ ทปอ.หนุนห้ามขายเหล้าระยะ 300 เมตรรอบมหา'ลัย พร้อมร่วมมือไม่ให้มีการขาย-เสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้บริหารในการจัดเลี้ยงของมหา'ลัย
     
วันนี้ (21 มิ.ย.) นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (สคอ.) กรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีมติออกประกาศห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยและอาชีวศึกษา 300 เมตร ตลอด 24 ชั่วโมง จากนี้จะเสนอเรื่องไปยังคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติพิจารณา ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ หากมีมติเห็นชอบก็จะเสนอต่อนายกรัฐมนตรีลงนามเพื่อประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งหลังจากประกาศบังคับใช้แล้ว จะให้เวลาร้านค้าต่างๆ ในการปรับตัวและเตรียมพร้อมอีก 30 วัน  ทั้งนี้ ขอย้ำว่าห้ามร้านค้าจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ได้ห้ามขายสินค้าอื่นๆ อย่างร้านอาหาร ภัตตาคารสามารถจำหน่ายได้เหมือนเดิม ยกเว้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น จึงไม่ได้เป็นการจำกัดสิทธิการค้าขายแต่อย่างใด ส่วนร้านสะดวกซื้อก็ยังเปิดได้ ยกเว้นห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เช่นกัน

" ร้านค้าที่เปิดหรือจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยตั้งอยู่ใกล้กับสถานศึกษาต่างๆ ร้านพวกนี้ทราบดีอยู่แล้วว่า ภาครัฐมีการผลักดันเรื่องนี้มานาน เพื่อป้องกันเยาวชนดื่ม แต่บางกลุ่มก็มองว่าต้องห้ามที่เยาวชน ก็ถูก แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะการดำเนินการควบคุมการดื่มเหล้า จำเป็นต้องทำหลายๆ มาตรการ ซึ่งศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) ศึกษาพบว่า หากไม่มีการควบคุมดังกล่าว ร้านเหล้ารอบสถานศึกษาจะเกิดขึ้นใหม่เรื่อยๆ อย่างช้าสุด 5 ปีมีร้านเหล้าเกิดขึ้นอีก 2 เท่าตัว เมื่อเป็นเช่นนี้ผลกระทบย่อมเกิดขึ้นกับเยาวชน  ทั้งการเสี่ยงทะเลาะวิวาท และซ้ำร้ายอาจถึงแก่ชีวิตด้วยซ้ำ " นพ.สมาน กล่าวและว่า ทั้งนี้ เมื่อกฎหมายผ่าน จะร่วมกับสถาบันการศึกษาต่างๆ กรมสรรพสามิต และกระทรวงมหาดไทย เพื่อหารือกับร้านค้าต่างๆ ในเรื่องของการเตรียมพร้อมปรับตัว ซึ่งหากไม่ดำเนินการตามกฎหมายจะมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ร้านค้าและผู้ประกอบการบางส่วนมองว่าไม่มีการหารือก่อนผลักดันกฎหมาย  นพ.สมาน กล่าวว่า ร้านค้าเหล่านี้ทราบดีอยู่แล้วว่าการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใกล้สถานศึกษาเสี่ยงถูกควบคุม เพราะไม่ได้เพิ่งจะผลักดัน แต่พูดกันมากว่า 7 ปี แล้วเพียงแต่ไม่สามารถควบคุมเป็นกฎหมายได้  ดังนั้น การออกกฎหมายใดก็ตามย่อมมีผลกระทบ แต่ก็ต้องมาประเมินว่าคุ้มค่าหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ชัดเจน แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการนโยบายฯ พิจารณาวันที่ 3 ก.ค.นี้

" การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียง 300 เมตร ผมว่าไม่น่ากระทบมาก เพราะสถาบันการศึกษาหลายแห่งพบว่า ร้านขายเหล้าหลายร้านไม่ได้อยู่แค่ในรัศมีดังกล่าว แต่ไกลกว่านี้ด้วยซ้ำ เพียงแต่ใน กทม. ความหนาแน่นของประชากรมาก พื้นที่จำกัด จึงครอบคลุมพื้นที่ไม่มาก แต่ในต่างจังหวัดอาจได้มากขึ้นเป็นกิโลเมตรด้วยซ้ำ ดังนั้น ร่างกฎหมายนี้ที่กำหนดควบคุมเพียง 300 เมตรรอบสถานศึกษาทั่วราชอาณาจักรไทย จึงไม่น่าเป็นปัญหากับร้านค้ามากนัก ที่สำคัญร้านค้าใหม่ๆ จะได้ทราบด้วยว่าควรเปิดร้านเหล้ารอบสถานศึกษาในระยะเท่าไร น่าจะดีกว่า ต้องมาเสี่ยงเปิดและต้องมาปิดร้าน หาร้านใหม่ ซึ่งสิ้นเปลือง " นพ.สมาน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนเพจเฟซบุ๊กของมหาวิทยาลัยรังสิต ชื่อ "RANGSIT UNIVERSITY ,THAILAND" โดย นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์ข้อความลงในแฟนเพจว่า เรียนท่านรัฐมนตรีว่าการ สธ.  ถ้าท่านจะกำหนดห้ามขายเหล้าในเขตรัศมี 300 เมตร ห่างจากสถานศึกษา ก็อย่าลำบากกำหนดให้เปลืองสติปัญญาเลย  เพราะมันไร้สาระ ท่านไม่ทราบหรือว่า 300 เมตรมันแค่ไหน ถ้าท่านไม่กล้า หรือกลัว หรือเกรงใจ ที่จะกำหนดให้ร้านเหล้าห่างจากรัศมี 3 กิโลเมตร ก็เสนอคนที่เป็นห่วงใยเยาวชนของชาติ ไม่ต้องการให้ร้านเหล้ามาทำลาย และมอมเมาเยาวชนของชาติสั่งการเถอะ  ร้านเหล้าเป็นปฏิปักษ์โดยตรงกับการศึกษา ต้องการทำลายประเทศไทยกันไปถึงไหน การศึกษาประเทศอื่นเขาก้าวหน้ากันมากมาย ประเทศไทยล้าหลังกว่าแล้วยังต้องมีมารผจญโดยความเห็นชอบสนับสนุนจากราชการอีกหรือ ท่านปฏิรูปอะไรให้ได้ซักอย่างเถอะ

วันเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยนครพนม (นพ.) ศ.ดร.ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) กล่าวภายหลังประชุม ทปอ.ว่า ที่ประชุมได้หารือกรณีดังกล่าวแล้วเห็นด้วยอย่างยิ่ง ว่าจะต่อต้านไม่ให้มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เบียร์ วิสกี บรั่นดี ไวน์ เป็นต้น และอยากเชิญชวนประชาชน นิสิต นักศึกษา ผู้ปกครองร่วมกันรณรงค์เป็นภาคีเครือข่ายไม่ให้มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา เพื่อสร้างให้เยาวชนเป็นคนดีและห่างไกลอบายมุข อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมหาวิทยาลัยไม่มีอำนาจไปดำเนินการตามกฎหมายกับสถานประกอบการรอบมหาวิทยาลัย จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาต ดูแลการบังคับใช้กฎหมายให้เคร่งครัด และไม่ใช่แค่เพียงห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่านั้น อยากให้สั่งห้ามไปถึงร้านคาราโอเกะ สนุกเกอร์ พนันบอล และโคโยตี้ด้วย ซึ่งการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กลุ่มหนึ่งเสนอให้มีการเปิดบ่อนกาสิโนเสรีนั้น ตนในฐานะนักวิชาการก็เสนอให้รัฐบาลศึกษาข้อดี ข้อเสียให้รอบด้าน ซึ่งอาจจะสามารถทำได้โดยจำกัดพื้นเป็นบางจังหวัด ไม่ใช่เปิดเป็นบ่อนเสรีทั่วประเทศ

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น