อาการพิการทางสมองเป็นโรคภัยที่เกิดขึ้นกับเด็กน้อยคนหนึ่งที่ไม่สามารถควบคุมการทำงานของแขนขาได้ ได้แต่นอนอย่างเดียวเวลาไปไหนจะต้องใช้วิธีการนอนหงายและไถเอาเท่านั้นและด้วยวัยอันเพียงน้อยนิดของริต้าลูกสาวคนโตของคุณอังคะณา ทำให้คนเป็นแม่ต้องทำทุกวิถีทางเพียงเพื่อให้ลูกสาวคนนี้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น บวกกับช่วยเหลือตัวเองได้ในยามโตก็พอ
ริต้าต้องทำกายภาพบำบัดที่ศูนย์สิรินธรอยู่เป็นประจำ และในขณะนั้นคุณอังคะณาก็ได้รับคำแนะนำจากคุณลุงท่านหนึ่งให้อ่านหนังสือ จึงได้พบเรื่องราวของน้องเอเธนส์ที่ดื่มน้ำปรับโมเลกุลจึงลองสั่งมาให้ริต้าดื่มเพื่อเป็นทางเลือกควบคู่ไปกับการทำกายภาพบำบัด
“ครั้งแรกที่ริต้าดื่มนั้น ดื่มครั้งละครึ่งแก้ว วันละ 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น เกิดมีอาการหลายอย่าง ทั้งอาการผื่นแดงขึ้นที่คอจนถึงปาก มีอาการคันร่วมด้วย ท้องเสียง่วงนอนทั้งวัน มีอาการแบบนี้อยู่ 2 วันเต็ม พอวันที่ 3 ริต้ามีอาการหิวทั้งวัน ปกติน้ำหนักตัวของริต้าแค่ 7-8 กิโลกรัม และกินนม 3-4 ออนซ์ เข้าวันที่4-5 เขาก็กินข้าวได้เยอะขึ้นกว่าปกติ คือจากที่กินเพียง 2 มื้อก็มาเป็น 3 มื้อ และยังเคยกินนมครั้งละ 6 ออนซ์ ติดๆ กัน 2 แก้วก็ร้องขอกินทั้งวัน”
“เดือนที่ 3 อาการหอบหืดก็ดีขึ้น จากปกติจะต้องใช้ยาพ่นหอบสัปดาห์ละหนึ่งถึงสองครั้งและที่สังเกตเห็นอีกอย่างคือการนอนก็ดีขึ้นเป็นเวลา ราวๆ 2-3 ทุ่มก็จะหลับแล้วตื่นนอนอีกครั้งตอนตี 1 เพื่อกินนม และจะหลับยาวถึง 6 โมงเช้า นอนกลางวัน 1 ชั่วโมง ปกติแล้วเขาจะไม่ค่อยนอน นอกจากนี้อาการท้องผูกก็หายไปและขับถ่ายวันละ 2 เวลา ”
“ตอนนี้ ริต้า หน้าตาสดใสมาก มีสีเลือดฝาด น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเป็น 14 กิโลกรัม กล้ามเนื้อแขนขาแข็งแรงขึ้นมาก อารมณ์ก็ดีขึ้น ยิ้มแย้มแจ่มใส ยิ่งเวลามีคนมาคุยด้วยริต้าก็จะสนใจฟัง เวลาพาริต้าไปทำกายภาพบำบัด ครูฝึกยังทักว่าริต้าหน้าตาสดใส อารมณ์ดี ให้ความร่วมมือในการฝึกดี สนใจสิ่งรอบข้างมากขึ้น กล้ามเนื้อแขนขาแข็งแรงขึ้น น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ”
เพราะความเป็นแม่ นอกจากเห็นลูกมีพัฒนาการดีขึ้นแล้ว ยังต้องเสาะแสวงหาสถานที่เพื่อบำบัดและรักษาให้ลูกดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง คุณอังคะณาได้ทางเลือกใหม่อีกทางหนึ่งนอกจากการทำกายภาพบำบัดที่ศูนย์สิรินธรคือการรักษาด้วยวิธีชีวโมเลกุลหรือเซลล์ซ่อมเซลล์ ที่ศูนย์โมเลกุลแห่งเอเชีย การเข้ารับการรักษาครั้งนี้คุณอังคะณาก็ยังให้ริต้าดื่มน้ำปรับโมเลกุล ควบคู่ไปกับการรักษาด้วย
“พาริต้าเข้าไปรักษาที่นี่เมื่อเดือนพฤษภาคม 2554 การรักษาครั้งแรกไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด ครั้งที่สองเห็นผลชัดคือจากที่เขาเคยน้ำลายไหลอยู่ตลอด น้ำลายก็ไม่ไหล แผลในปาก ก็ยังหายสนิท อารมณ์ดีขึ้น นอนหลับสนิท และนานขึ้นมาก ครั้งที่สาม คอแข็งขึ้น หลังแข็งขึ้น ลุกขึ้นนั่งได้นานขึ้นเพราะ ปกติลูกจะลุกขึ้นนั่งได้ก็จะต้องพุ่งไปข้างหน้าหรือหงายหลังล้มแรงมาก เวลาดูซีดีเพลง ที่มีภาพและเสียง ดูเหมือนว่าเขาจะรู้ว่าจบตอนไหน หรือจบแผ่นก็จะบอกด้วยการส่งเสียงร้องโวยวายเพราะเขายังพูดไม่ได้ ครั้งที่สี่ เขาเริ่มหัดพูด เวลาพูดก็ชอบมองปากแม่แล้วพูดแต่ไม่มีเสียง เริ่มใช้มือคว้าของได้ จับขวดนมใส่ปากได้ ลุกขึ้นนั่งได้ไวขึ้นและนั่งได้นานขึ้น เวลาหิวก็จะส่งเสียงบอกได้แล้ว ครั้งที่ห้าแขนขาเขาเริ่มแข็งแรงขึ้นคอตั้งตรงขึ้น หลังแข็งขึ้นแต่บางครั้งก็ยังนั่งหลังงออยู่ และพยายามพูดบ่อยมากจะพูดได้ทีละคำ เข้าใจคำพูดของแม่มากขึ้น เข้าใจคำสั่งที่แม่สั่ง รู้จักเลือกเสื้อผ้าเองรู้จักว่าชอบอันไหนไม่ชอบอันไหน สื่อสารได้มากขึ้น ”
“ดิฉันดีใจมากที่สมองของริต้าใช้งานได้ดีและมีความจำดีขึ้นด้วยสามารถชี้ภาพสัตว์อย่างเช่น แมว หมา วัวและรู้จักสิ่งรอบข้างมากขึ้นสนใจสิ่งรอบตัวมากขึ้นรู้จักเล่นกับน้องสาวด้วยเพราะปกติริต้าจะไม่เล่นกับน้องสาว”
ทุกวันนี้ริต้าอายุ 4 ขวบ 6 เดือนและมีน้องสาวอายุ 1 ขวบ 6
“ลูกสาวคนเล็กเคยมีปัญหาเรื่องท้องผูกอย่างมากเมื่อให้ลูกดื่มน้ำปรับโมเลกุลแทนน้ำธรรมดาและชงนมให้เขากินทุกวันนี้เขาขับถ่ายดีขึ้นท้องไม่ผูกแล้วกินเก่งฉลาดมากๆ รู้มากกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน”
ไม่มีความสุขใดของคนเป็นแม่เท่ากับการเห็นลูกของตัวเองมีสุขภาพดีและไม่เป็นภาระให้กับสังคม
ประสบการณ์ตรงของคุณ อังคะณา โนะคุน ดูแลสุขภาพด้วยการดื่มน้ำที่เพียงพอ
ที่มา : สำนักพิมพ์ Health Channel
หมายเหตุ : บทความที่ลงในเว็บไซต์นี้เป็นความคิดเห็นของเจ้าของเรื่องเท่านั้น ภาพและข้อความต่างๆที่ปรากฏผู้อ่านควรใช้ดุลยพินิจในการอ่าน
ไม่มีน้ำ ไม่มีชีวิต
น้ำไม่ใช่ยา
น้ำคุณภาพส่งเสริมสุขภาพ
Without water, there is no life…(Peter Agre,Nobel 2003)
แจกฟรีซีดี และหนังสือความลับของน้ำ
โทร: 0-2862-2688
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)