ด้วยภาระหน้าที่บวกกับความรับผิดชอบธุรกิจส่วนตัวในการบริหารและเป็นเจ้าของโรงเรียนเอกชน ทำให้คุณลำเพยพรรณมิอาจหลีกเลี่ยงความเครียด และความเหนื่อยล้าจากการทำงานไปได้ เธอทำมาตั้งแต่อายุ 20 ปี ถึงวันนี้ ต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องสุขภาพที่ถาโถมรุมเร้าอย่างต่อเนื่องอันเนื่องมาจากช่วงวัยทอง ที่มีการพักผ่อนไม่เพียงพอ
เริ่มจากโรคที่หนึ่ง กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เวลาปัสสาวะจะมีอาการแสบมีเลือดปะปนออกมา ด้วย ปวดอย่างมากถึงกับต้องนำส่งโรงพยาบาล “คุณหมอฉีดยาแก้ปวด และให้ยามากิน ต้องไปหาหมอทุกเดือนเพื่อตรวจ ดูอาการ”
โรคที่สอง มดลูกอักเสบมีเลือดออกทางช่องคลอด ตรวจภายในและอัลตร้าซาวด์ แล้ว ระบุว่าสาเหตุเป็นเพราะขาดฮอร์โมนจึงทำให้ผนังกระเพาะปัสสาวะโพรงมดลูกอักเสบ “คุณหมอได้ให้ฮอร์โมนเพื่อเสริมร่างกายมาทาน แต่ร่างกายกลับไม่รับฮอร์โมนทุกชนิด ไม่ว่าจะชนิดแปะหน้าท้องหรือแม้กระทั่ง ฮอร์โมนที่มีราคาแพงก็ตาม ด้วยเหตุนี้จึงไม่มียาใดๆช่วยรักษาอาการที่เป็นอยู่ได้”
โรคที่สาม กล้ามเนื้อหัวใจโต เป็นระหว่างที่เป็นมดลูกอักเสบอยู่นี้เอง “ปวดจี๊ดบริเวณหัวใจมีอาการเหนื่อยแน่นหน้าอกและหายใจไม่คล่องต้องตรวจร่างกายด้วยการเดินสายพานและเข้าอุโมงค์จากนั้นหมอให้ ยามารับประทาน และรอดูอาการ ”
โรคที่สี่ที่ตามมา คือ เข่าเสื่อม เป็นพร้อมกับโรคที่สาม “คุณหมอให้แคลเซียม และยาแก้ปวดคลายกล้ามเนื้อมากิน เป็นเวลาถึง 3 ปี แต่ดูเหมือนอาการของโรคเข่าเสื่อม กลับทรุดลงกว่าเก่าจน เข่าเริ่มชนกันจึงตัดสินใจทำการผ่าตัดเปลี่ยนเข่า”
โรคที่ห้า มีอาการไหล่ ติดโดยมีอาการยกแขนไม่ได้ ปวดหัวไหล่ปวดต้นแขนเป็นในช่วงที่รอการ ผ่าตัดเข่า “ปวดถึงขนาดที่ว่าไม่สามารถใส่เสื้อได้ด้วยตนเอง ต้องทำกายภาพบำบัดร่วมกับการฉีดยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้ปวดอาการไหล่ติดค่อยๆดีขึ้นเป็นลำดับ แต่ก็ยังไม่หายขาดเสียทีเดียว “
โรคที่หก ไข้หวัดรุนแรงคุณลำเพยพรรณ ต้องเข้าออกโรงพยาบาลทุกเดือนและเริ่มรู้สึกท้อแท้กับ ชีวิตอย่างมาก “คุณหมอแจ้งว่าเป็นไวรัสชนิดที่รุนแรงมาก เข้าไปทำลาย กระเพาะอาหาร ทำลายหลอดลม และโพรงจมูกทำให้ไม่สามารถรับประทานอาหารได้เลยน้ำหนักลดลง ใบหน้าดำ ร่างกายซูบผอม ไม่มีแม้เรี่ยวแรงเดินรักษาไข้หวัดรุนแรงอยู่ 6 เดือน”
ความเจ็บป่วยที่รุมเร้าอยู่ครบทั้งหกโรค วูบ หนึ่ง คุณลำเพยพรรณคิดว่าคงมีเวลาเหลืออยู่ในโลกนี้น้อยเต็มทีจึงหาที่พึ่งสุดท้ายให้ธรรมะช่วยเยียวยา และรักษาจิตใจ เธอจึงมุ่งหน้าปฏิบัติธรรม ด้วยการสวดมนต์ และนั่งกรรมฐานแต่ก็ต้องหยุดไปชั่วขณะ เพราะเกิดไม่สบาย
“ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมได้เจอ สามี - ภรรยาคู่หนึ่ง อายุ 84 ปี มีผิวพรรณสดใส เดินคล่องแคล่ว ใบหน้าสีชมพูเหมือนคนสุขภาพดีทั่วไป และมีดวงตาที่สดใสทั้งสองท่าน มาเยี่ยมที่บ้านและได้เห็นไวท์บอร์ดที่ดิฉันเขียนกำหนดการที่จะต้องไปพบหมอทุกๆเดือนตามระยะที่กำหนดท่านจึง แนะนำให้รู้จักกับน้ำปรับโมเลกุลและนำน้ำปรับโมเลกุล มาให้ดื่ม 2 ขวด“
“ดิฉันดื่มขวดแรกแล้วนอนตื่นเช้ามา ความรู้สึกที่แฝงในใจมันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก เช่น รู้สึกมีความสุขสดชื่นเบิกบาน จิตใจไม่ห่อเหี่ยวสิ้นหวัง”
เมื่อดื่มน้ำปรับโมเลกุลหมด 2 ขวดคุณลำเพยพรรณได้สั่งน้ำปรับโมเลกุลไปดื่ม 3 ลังต่อจากนั้นได้ตัดสินใจซื้อเครื่องมาใช้ที่บ้าน
“ก่อนหน้านี้ดิฉันต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่ประมาณ 5 ปี ติดต่อกัน อาการต่างๆ ก็ยังไม่หายเมื่อดื่มน้ำ ปรับโมเลกุลแล้วสุขภาพจิตใจกลับคืนมาดีได้อย่างอัศจรรย์ โรคทุกโรคที่รุมเร้าอยู่ก็หายไปโดยที่ไม่ต้องผ่าเข่าไม่ต้องผ่าตา”
“ดิฉันไปให้หมอจักษุตรวจลูกตาก็ปรากฏว่าไม่ได้เป็นต้อกระจกเป็นเพียงตาอักเสบและแพ้แสงแดดมีเพียงหินปูนเกาะผนังเปลือกตาเท่านั้นอาการ ไหล่ติดก็ไม่ต้องทำกายภาพอีก”
“ก่อนหน้านี้หมอให้ยาลดความดันสูงมากินแต่หลังจากดื่มน้ำปรับโมเลกุลไปได้ 5 - 6 เดือน ความดันก็ไม่สูงเลย แม้จะลองงดยาความดันไปประมาณ 1 เดือน ความดันก็ยังปกติ”
หลังจากที่สุขภาพของ คุณลำเพยพรรณ ดีขึ้นแล้วจึงเริ่มออกกำลังกายด้วยการวิ่ง วันละ 30 นาที หลังจากออกกำลังกายเสร็จก็จะดื่มน้ำปรับโมเลกุล 1 แก้ว ว่ายน้ำสัปดาห์ละ 3 วัน ๆ ละครึ่งชั่วโมงตามคำแนะนำของหมอกระดูก
“ทุกครั้งที่ตื่นนอน และอาบน้ำเสร็จ จะนำขวดสเปรย์ใส่น้ำปรับโมเลกุลไว้มาฉีดบริเวณใบหน้าและลำตัว หลังจากสระผมและเช็ดผมให้แห้งหมาดๆแล้ว ก็จะนำสเปรย์มาฉีดที่ผมให้ทั่วและทิ้งไว้ให้แห้ง สเปรย์ผมไปได้ประมาณ 1 เดือนรู้สึกว่าผมขึ้นมาอีกมากมาย จนร้านทำผมทักว่าไปเอาอะไรใส่ผมมา”
นอกจากตัว คุณลำเพยพรรณแล้วเธอยังให้ลูกสาวที่ป่วยเป็นโรคแพ้ไขมันตัวเองได้ลองดื่มเพราะตอนที่ประจำเดือนใกล้มาบริเวณแขนขา ใบหน้าของลูกจะเห่อขึ้นบวมช้ำเป็นวงสีแดง เป็นอย่างนี้อยู่ทุกเดือนไปรักษาที่โรงพยาบาลโรคผิวหนังมาแล้ว 2 ปี ก็ยังไม่หายส่วนลูกสะใภ้ที่ทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวัน มีอาการปวดต้นคอตึงกล้ามเนื้อ
“ดิฉันก็แนะนำให้เขาทั้ง 2 คนดื่ม น้ำปรับโมเลกุล ปรากฏว่าอาการของทั้งคู่ก็หายเป็นปกติแล้ว”
นอกจากนี้ คุณลำเพยพรรณ ยังนำ น้ำปรับโมเลกุลไปให้คนป่วยที่มีแผลจากการเป็นโรคอีสุกอีใส ทา ควบคู่ ไป กับ ยา แก้ อักเสบ
“คนป่วย คนนี้มีอายุ 40 ปีแล้ว หน้าตาเขามีแต่แผลเต็มไปหมดมีเลือด น้ำเหลือง เยิ้มๆ ดิฉันลองให้เขาเอาผ้าที่อบด้วยความร้อนแล้วชุบน้ำ ปรับโมเลกุลมาปิดบริเวณแผลเป็นภายใน 2 วัน อาการแผลผื่นแดงก็จางลงอย่างเห็นได้ชัดเจนแต่ก็ยังให้เขาทำไปเรื่อย ๆจนทุกวันนี้แผล ตามลำตัวใบหน้าเขาก็เรียบไม่ขรุขระ “
ประสบการณ์ตรงของคุณ ลำเพยพรรรณ เนียมพลอยดูแลสุขภาพด้วยการดื่มน้ำที่เพียงพอ
ที่มา : สำนักพิมพ์ Health Channel
หมายเหตุ : บทความที่ลงในเว็บไซต์นี้เป็นความคิดเห็นของเจ้าของเรื่องเท่านั้น ภาพและข้อความต่างๆที่ปรากฎผู้อ่านควรใช้ดุลยพินิจในการอ่าน
ไม่มีน้ำ ไม่มีชีวิต
น้ำไม่ใช่ยา
น้ำคุณภาพส่งเสริมสุขภาพ
Without water, there is no life…(Peter Agre,Nobel 2003)
แจกฟรีซีดี และหนังสือความลับของน้ำ
โทร: 0-2862-2688
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)