xs
xsm
sm
md
lg

ลอยกระทงสยอง! เด็กตายเฉลี่ย 13 ศพต่อปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เตือนระวังภัยคืนลอยกระทง เด็กเสี่ยงจมน้ำตายมากสุดในรอบปี เผยเฉลี่ยมีเด็กจมน้ำตาย 13 ศพต่อปี ทั้งพลัดตกและแย่งเก็บเงินในกระทง แถมเด็กตายเพราะอุบัติเหตุจราจรมากกว่าปกติเพิ่ม 1 เท่าตัว อีก วอนผู้จัดงานลอยกระทงกั้นสถานที่-มีเสื้อชูชีพป้องกันก่อนเกิดเหตุ ขณะที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมนานาชาติ ชุมชนปลอดภัยเพื่อเด็ก 26 ประเทศร่วมงาน

รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลลอยกระทง เป็นช่วงเวลาที่เด็กไทยมีความเสี่ยงจะเสียชีวิตจากการจมน้ำสูงที่สุดในรอบปี โดยสถิติ 4-5 ปี ที่ผ่านมา ในคืนวันลอยกระทงจะมีเด็กจมน้ำเสียชีวิตทันที 5 ศพ และในวันรุ่งของวันลอยกระทงจะพบเด็กเสียชีวิตอีก 8 ศพ หรือเฉลี่ย 13 ศพ เด็กที่จมน้ำเกิดจาก 2 สาเหตุหลัก 1.การพลัดตกน้ำเพราะมีผู้คนจำนวนมากเบียดเสียดกัน 2.การที่เด็กลงไปในน้ำเพื่อเก็บเศษเงินในกระทง ซึ่ง 89% เป็นเด็กอายุน้อยกว่า 10 ปี และ 38% จมน้ำทั้งๆ ที่มีผู้ใหญ่เฝ้าดูอยู่

“องค์การอนามัยโลกเคยมีรายงานออกมาระบุว่า ไทยเป็นประเทศที่มีเทศกาลสนุกสนานทางน้ำค่อนข้างมาก แต่ยังขาดความระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยเท่าที่ควร ทั้งทางทะเล เรือ ผู้ที่รับผิดชอบสถานที่จัดงานจึงควรมีระบบป้องกันอย่างรัดกุม อาทิ ทำสิ่งกีดขวางป้องกันเด็กตกน้ำ หากมีการลงเรือต้องเตรียมเสื้อชูชีพให้เพียงพอกับผู้โดยสาร และมีการรณรงค์เรื่องมาตรการความปลอดภัยไม่น้อยกว่าเทศกาลอื่นๆ การจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กไทยอันดับหนึ่ง มีเด็กเสียชีวิต 1,400-1,500 คนต่อปี หรือวันละ 4 คน โดยการติดตามข้อมูลใน 5 ที่ผ่านมา สถิตินี้ไม่เคยลดลงเลย”รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าว

รศ.นพ.อดิศักดิ์ กล่าวอีกว่า อุบัติการจราจรทางบกเป็นอีกหนึ่งความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวัง เพราะจะเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว ในวันลอยกระทง โดยพบเด็กเสียชีวิตเฉลี่ย 4.5 คน จากสถิติในวันอื่นๆวันละ 2 ราย จึงไม่ควรให้เด็กเดินทางตามลำพัง และผู้ปกครองไม่ควรประมาทหากขับขี่ยานพาหนะ ต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ การเมาแล้วขับเป็นสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุได้มากที่สุด ขณะที่อันตรายจากการเล่นประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ ก็เป็นสาเหตุการบาดเจ็บจนต้องมารับการรักษาในห้องฉุกเฉิน 13,000 รายต่อปี ซึ่งข้อมูลของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พบมีผู้บาดเจ็บจากพลุและประทัดในปี 2547 จำนวน 502 ราย เสียชีวิต 9 ราย โดย 44.3% ของผู้บาดเจ็บรุนแรง เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี

“การเล่นพลุ หรือประทัดนี้ ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ประชาชนรวมไปถึงเด็กๆ ยังแอบซื้อมาเล่นกัน จึงขอความร่วมมือผู้ปกครองอย่าให้ลูกหลานเล่นพลุหรือประทัดใดๆ เลย เพราะไม่ใช่ของเล่น แต่เป็นวัตถุระเบิด น่ายินดีว่าสถิตินี้ลดลงในปี 2548-2549 เพราะการเข้มงวดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องความไม่ปลอดภัยของเด็ก เป็นปัญหาระดับโลก ที่ทุกประเทศกำลังร่วมกันป้องกัน โดยเป็นครั้งแรกที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมนานาชาติ ภูมิภาคเอเชียครั้งที่ 4 เรื่องชุมชนปลอดภัย ที่มีผู้เข้าร่วม 26 ประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น ไต้หวัน รวมถึงชาติยุโรปอย่างสวีเดน ที่เป็นผู้นำเรื่องนี้จะมาแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกัน เพื่อสร้างชุมชนที่ปลอดภัยให้เด็ก ในวันที่ 21-24 พ.ย.นี้ ที่หอประชุมกองทัพเรือ กทม.”นพ.อดิศักดิ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น