“นักวิชาการ” ฟันเปรี้ยง หากทำได้ 3 เรื่อง พรรคก้าวไกล มัดใจฝั่งอนุรักษนิยมยอมรับได้แน่ “อานนท์ นำภา” แกนนำม็อบ “3 นิ้ว” ส่งสัญญาณเตือน หากยื้อหรือยึดอำนาจ “ด้อมส้ม” หลายล้านลงถนนใน 15-20 นาที พรึบ!
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (14 มิ.ย. 66) รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Suvinai Pornavalai ระบุว่า
“เหตุ 3 ประการที่ก้าวไกลอาจตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ
อาจารย์ไพศาล พืชมงคล เขียนโพสต์วันนี้ (13 มิถุนายน 2566) มีใจความตอนหนึ่งว่า ...
“...พรรคก้าวไกลอาจจะจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ ด้วยเหตุ 3 ประการ
(1) เรื่องมาตรา 112
(2) เรื่องการต่อยอดยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก ซึ่งกำลังก่อให้เกิดความไม่สบายใจแก่ประเทศเพื่อนบ้าน และกลุ่มประเทศ sco (องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้)
(3) การสนับสนุนจาก ส.ว.ไม่พอ ได้เสียงสนับสนุนไม่ถึง 376
แต่เรื่องสำคัญที่สุดคือ "อิทธิพลของพวกซ้ายจัดที่รับใบสั่งจากต่างชาติ" ซึ่งเป็นอันตรายต่อพรรค โดยตรง
เพราะพรรคการเมืองของประชาชนนั้น จะต้อง
(1) มีจุดยืนอยู่กับผลประโยชน์ของประชาชนไทย
(2) เป็นปากเสียงของประชาชนไทย
(3) ทำการต่อสู้เพื่อประโยชน์ของประชาชนไทย
นั่นคือ ต้องไม่ใช่เพื่อชาติมหาอำนาจ!!
ดังนั้น พรรคก้าวไกลจะต้องดำรงรักษาความเป็นพรรคการเมืองของประชาชนใน 3 ประการนี้ให้ได้
และจะต้องไม่ให้อิทธิพลของคนที่อยู่ใต้อาณัติของต่างชาติมีบทบาทในพรรคโดยเด็ดขาด ...”
ผมเห็นด้วยกับข้อความข้างต้นของอาจารย์ไพศาล พืชมงคล ทุกตัวอักษรนะ
ถ้าพรรคก้าวไกลจะทำให้ผมและคนฝั่งอนุรักษนิยม ยอมรับ “ความเป็นพลังก้าวหน้า” และ “ความเป็นพรรคการเมืองของประชาชน” ของพรรคก้าวไกลได้
ก่อนอื่น พรรคก้าวไกลต้องเคลียร์ตัวเอง ใน 3 เรื่องก่อน คือ
(1) พรรคก้าวไกลจะต้องไม่แตะมาตรา 112 ไม่ว่าในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้ถูกมองว่าเป็น “พรรคล้มเจ้า”
(2) พรรคก้าวไกลจะต้องไม่ทำตัวชักศึกเข้าบ้าน เพื่อไม่ให้ถูกมองว่า เป็น “พรรคหุ่นเชิดของมหาอำนาจตะวันตก” หรือ “พรรคขายชาติ”
(3) พรรคก้าวไกลจะต้องต่อสู้เพื่อประโยชน์ของประชาชนไทยในระยะยาวและยั่งยืนอย่างแท้จริง
มิใช่เสนอนโยบายที่มอมเมาประชาชนด้วยแนวทางประชานิยมที่สุดโต่งและสิ้นคิด เพื่อไม่ให้ถูกมองว่าเป็น “พรรคสามานย์”
หากพรรคก้าวไกลสามารถเคลียร์ตัวเองใน 3 ข้อข้างต้นได้ ผมก็พร้อมที่จะสนับสนุนพรรคก้าวไกลให้เป็น “พรรคการเมืองของประชาชน” อย่างแท้จริง
แต่การที่พรรคก้าวไกล จะกลายมาเป็นพรรคการเมืองของประชาชนจริงๆ ได้ ...ผมไม่เห็นทางอื่นเลย
นอกจากต้องขจัด “อิทธิพลของพวกซ้ายจัดที่ยังกุมการนำของพรรคและรับใบสั่งจากต่างชาติอยู่” ออกไปก่อนเท่านั้น
ขณะเดียวกัน นายอานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร ทนายประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
“เผื่อเอาไปประกอบการตัดสินใจ ถ้าจะเลือกแนวทางยื้อหรือยึดอำนาจ
คนสนับสนุนก้าวไกลใน กทม.และ ปริมณฑล หลายล้าน ลงถนนเขานัดกันตามแนวรถไฟฟ้าเหมือนตอนตุลา 63
ใช้เวลา 15-20 นาที พรึบ!”