xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” โผล่กวนประสาท แต่เด็กไม่รู้จัก !?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทักษิณ ชินวัตร และ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
เมืองไทย 360 องศา

อาจจะเรียกว่า “ตกยุค” ไปอีกคนแล้วก็ได้ สำหรับ นายทักษิณ ชินวัตร หรือ “แม้ว” หรือ นิกเนมใหม่แบบฝรั่งว่า “โทนี่” เพราะได้ฉวยโอกาสในช่วงวันเกิดของตัวเองในเดือนกรกฎาคม ใช้สื่อโซเชียลฯ ผ่านช่องทางของเครือข่ายออกมาแสดงความคิดเห็น เสนอแนะโน่นนี่นั่นสารพัด
ทั้งในเรื่องการเสนอให้เจรจา “ลัดคิว” นำเข้าวัคซีนมาฉีดให้กับคนไทย การเสนอให้ร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งลักษณะที่เสนอแนะออกมา หากพิจารณาในรายละเอียดก็ไม่ถือว่า “มีอะไรใหม่” และหากจะว่าไปแล้ว ก็เป็นเพียงข้อเสนอ “พื้นๆ” ที่คนอื่นได้พูด ได้แนะนำมาก่อน

แต่ที่ใหม่แบบแปลกๆ ก็คือ “เสนอให้ลัดคิว” เจรจานำวัคซีนเข้ามานี่แหละ ที่อาจสะท้อนให้เห็นถึง “ภูมิหลัง” ของเขาได้ดีไม่น้อย เพราะมักจะออกไปเชิง “ใต้โต๊ะ” อยู่ตลอดเวลา

อย่างไรก็ดี ประเด็นที่น่าพิจารณาไปมากกว่านั้น ก็คือ การเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นจำเลยหนีคดีทุจริตหลายคดีในต่างประเทศ มักใช้จังหวะเคลื่อนไหวทางการเมือง และดิสเครดิตฝ่ายตรงข้าม ขณะเดียวกันก็หวังสร้างภาพลักษณ์ให้กับตัวเองอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิดระบาด และเป็นช่วงที่รัฐบาลนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำลังเจอศึกหนัก ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นหลักหมื่นมานานหลายสัปดาห์แล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะสามารถลดตัวเลข และการควบคุมการระบาดระลอกใหม่นี้ได้ในช่วงเวลาอันใกล้นี้เลย

แน่นอนว่า มันก็ยิ่งเป็นจังหวะที่ นายทักษิณ ชินวัตร จะต้องโหมดิสเครดิต พล.อ.ประยุทธ์ กันทุกทาง จริงบ้างเท็จบ้าง หรือความจริงเพียงนิดเดียว แต่ขยายความให้เป็นอีกเรื่อง รวมไปถึงบิดเบือนจนกลายเป็นเรื่องใหม่ ซึ่งในทางการเมืองอาจมองเป็นเรื่องปกติ เพราะจะต้องมีการตอบโต้กันไปมาอยู่แล้ว

แต่ที่น่าสังเกตก็คือ แม้ว่าในช่วงเวลาสำคัญสำหรับเจ้าตัว คือ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ใช้จังหวะช่วงวันเกิด วันที่ 26 กรกฎาคม ครบ 72 ปี ที่น่าจะ “ปล่อยทีเด็ด” ออกมาให้ “ปัง” อย่างน้อยก็ต้องทำให้บรรดา “ฝ่ายสนับสนุน” จะต้องซี๊ดปากกันบ้าง แต่ลองพิจารณาให้ดีจะเห็นว่า “ทุกอย่างเงียบกริบ” มีเพียงแต่เป็นแค่การนำเสนอข่าวคราวจากสื่อทั่วไปแบบธรรมดาเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรใหม่ชวนให้พูดถึงในวงกว้าง

อีกด้านหนึ่งอาจเป็นเพราะเขา “ตกยุค” ไปแล้ว เพราะหากพิจารณาจากช่วงอายุ ก็ถือว่า เข้าสู่ผู้สูงอายุแล้ว แต่ถึงอย่างไรการ “สูงวัย” ก็ไม่ใช่ข้อจำกัดในเรื่อง “แนวคิด” เพราะหลายคนที่เป็นนักการเมืองชั้นนำ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้สูงอายุ เป็นผู้ได้รับการเคารพนับถือในแบบ “ผู้นำทางจิตวิญญาณ” ก็มี


สำหรับ นายทักษิณ ชินวัตร นาทีนี้หากพิจารณาจากปฏิกิริยาจากสังคมถือว่าได้ผ่านจุด “พีก” สุดมาไกลมากแล้ว เพราะหากพิจารณาจากสถานการณ์และความเคลื่อนไหวทางการเมืองในเวลานี้ก็คงเห็นความจริงที่ว่านั้น เพราะหากเข้าใจตรงกันว่า พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคตัวแทน เป็นเครือข่ายของเขาในสภา สำหรับการช่วงชิงอำนาจรัฐคืนมา ก็ต้องบอกว่ายังไม่มีกระแสชี้นำสังคมให้คล้อยตามได้มากนัก

หากระบุว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในช่วง “ขาลง” แต่ขณะเดียวกัน สำหรับ พรรคเพื่อไทย และเครือข่าย รวมไปถึงตัวของนายทักษิณ ชินวัตร ก็ยังไม่ใช่ “ขาขึ้น” อยู่ดี อย่างน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับบรรยากาศในช่วงราวสิบกว่าปีก่อน ที่สำหรับ นายทักษิณ ชินวัตร ที่สามารถ “ชี้นกเป็นไม้” ได้ไม่ยาก หรือแม้แต่ในช่วงที่เขาหลบหนีออกนอกประเทศใหม่ๆ ก็ยังถือว่ามีอิทธิพลทางการเมืองสูงมาก พิสูจน์ได้จากกการเลือกตั้งทุกครั้งที่พรรคการเมืองของเขาได้รับชัยชนะได้ไม่ยาก สามารถชี้นิ้วให้ใครเป็น “นายกฯหุ่นเชิด” ก็ได้

มาวันนี้ไม่ต้องพูดถึงพรรคเพื่อไทยกันแล้ว เพราะแทบไม่มีบทบาทที่เป็นเนื้อหาสาระที่จับต้องได้ นอกจากเรื่องการ “ด่ารายวัน” ของ ส.ส.ในพรรคบางคนเท่านั้น


ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ นายทักษิณ ชินวัตร ดังกล่าว รวมไปถึงก่อนหน้านี้ที่มีการพูดแบบ “โยนหิน” ออกมาในลักษณะที่ว่า “จะกลับไทยแน่” แต่ขออุบไว้ก่อนว่าเป็นเมื่อใด โดยเฉพาะการหยั่งท่าทีเสียงตอบรับ ในเรื่องให้มาช่วยเหลือแก้ปัญหาโรคระบาดโควิด แต่เมื่อพิจารณาจากจังหวะเวลา และแนวทางข้อเสนอแนะต่างๆ ที่ออกมาแล้วมันดูเป็นเรื่องธรรมดา “และซ้ำซ้อน” กับคนอื่น หรือแม้แต่ทุกเรื่องที่รัฐบาลก็ได้ทำไปแล้ว ทุกอย่างจึงดูเรื่อยเปื่อย ไม่ค่อยน่าสนใจ

ขณะเดียวกัน แนวทางของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ในเวลานี้ ยังไปคนละทางกับพวก “สามนิ้ว” และเครือข่ายของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในกลุ่มก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล ที่ถือว่า “ทับเส้น” กัน มันก็ย่อมเดินทางเดียวกันไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะถึงอย่างไรทาง นายทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวยังไม่อยากแตกหักกับแนวคิดเรื่อง “สถาบันฯ” ประกอบกับในยุคปัจจุบัน ที่บรรดาเด็กๆ รุ่นใหม่พวกนี้เกิดไม่ทันยุค ทักษิณ ชินวัตร ก็ยิ่งไม่รู้จัก ก็ยิ่งไปกันใหญ่ ตกยุคถาวร !!



กำลังโหลดความคิดเห็น