xs
xsm
sm
md
lg

กสม.สรุปเหตุชุมนุมทั้งปี 63 มีกระทบกระทั่ง ติงการฉีดน้ำผสมสารเคมีสลายชุมนุมแยกปทุมวัน เป็นการกระทำที่เกินสมควรแก่เหตุ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คณะกรรมการสิทธิฯ สรุปเหตุชุมนุมทั้งปี 63 มีกระทบกระทั่ง ติงการฉีดน้ำผสมสารเคมีสลายชุมนุมแยกปทุมวัน กระทำเกินสมควรแก่เหตุ ดีอีเอสไล่ปิดบัญชีโซเชียลฯ อาจกระทบสิทธิการแสดงความเห็น-เข้าถึงข้อมูล ห่วงวาทกรรมสร้างความเกลียดชัง

วันนี้ (11 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. ได้เผยแพร่รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2563 โดยในการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในสถานการณ์เฉพาะเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองของนักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชน โดยระบุว่า สำหรับสถานการณ์การชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองจากการติดตามและเฝ้าระวัง พบว่าไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแม้จะมีการกระทบกระทั่งกันอยู่บ้างระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลความสงบเรียบร้อยในบางกรณี แต่ทั้งสองฝ่ายพยายามใช้ความอดทนอดกลั้นเพื่อไม่ให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น อย่างไรก็ดี มีการชุมนุมสองกรณีที่บริเวณแยกปทุมวันและหน้ารัฐสภาที่รัฐใช้มาตรการยุติการชุมนุมโดยการฉีดน้ำแรงดันสูงซึ่งมีการผสมสารเคมีเข้าใส่ผู้ชุมนุม โดยเฉพาะการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่แยกปทุมวัน กสม.เห็นว่ายังไม่ปรากฏลักษณะที่แสดงให้เห็นถึงการใช้ความรุนแรงจนถึงขั้นต้องใช้มาตรการสลายการชุมนุม การฉีดน้ำผสมสารเคมีจึงเป็นการกระทำที่เกินสมควรแก่เหตุ

อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมรัฐยังคงทำหน้าที่ดูแลการใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบของประชาชน โดยไม่ได้แทรกแซงการใช้เสรีภาพดังกล่าว แม้ในบางกรณีผู้จัดการชุมนุมไม่ได้แจ้งการชุมนุม ตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 แต่การชุมนุมยังคงดำเนินต่อไปได้ ในส่วนของการกระทำผิดระหว่างการชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ชุมนุมและออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งหลังจากสอบปากคำผู้ชุมนุมจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างดำเนินคดี ซึ่งสอดคล้องกับพันธกรณีของไทยตามกติกา ICCPR แต่พบปัญหาอุปสรรคการจำกัดการแสดงความคิดเห็น และการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยพบว่าเดือน ก.ค.-ธ.ค. 2563 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้บูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและยื่นคำขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์เป็นจำนวน 50 คำสั่งศาล 1,145 URLs การกระทำดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นหรือการเข้าถึงข้อมูลของประชาชนที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญ

นอกจากนั้น การใช้คำพูดที่สร้างความเกลียดชัง (hate speech) ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีความแตกต่างทางความคิดเห็น การใช้วาจาสร้างความเกลียดชังต่อฝ่ายที่มีความเห็นตรงข้ามปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงภาพวาดการ์ตูนล้อเลียน ภาพถ่าย คลิปวิดีโอ ทั้งนี้ อาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรงและอาจลุกลามบานปลายได้ โดยเฉพาะในสื่อออนไลน์มีผู้นำเนื้อหาที่มีระดับความรุนแรงและลักษณะการสื่อสารความเกลียดชังไปเผยแพร่ในวงกว้าง อาจทำลายวัฒนธรรมแห่งการเคารพซึ่งกันและกันคุกคามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ นำไปสู่การทำลายบรรยากาศแห่งการใช้เสรีภาพในการแสดงออกของบุคคล รวมทั้งกรณีการชุมนุมเพื่อแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่ผ่านมาหลายครั้งผู้ชุมนุมนัดรวมตัวที่สถานีรถไฟฟ้าส่งผลให้มีการปิดสถานีรถไฟฟ้าชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกคน และพบว่ามีการทำลายทรัพย์สินเสียหาย


กำลังโหลดความคิดเห็น