นายพลส้มหวานอ่วม! “สุทิน-เป๊ปซี่” ตีขนาบ ไล่บี้ “เลิกเกณฑ์ทหาร” ชะตากรรมหลัง “ยุบพรรค” ยศหลุด?

'ลุงสุทิน' ยกเหตุการณ์สหรัฐสังหารเบอร์ 2 อิหร่าน ถามนายพลส้มหวาน ยังจะเลิกเกณฑ์ทหารอยู่ไหม ด้าน “เป๊ปซี่” ตีข่าว อาฟเตอร์ช็อกหลายแมกนิจู๊ด จาก “ยุบ อนค.” คดีล้มล้างการปกครองฯ อาจกระทบถึงยศทหารด้วย

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งวันนี้(4 ม.ค.63) เฟซบุ๊ก Sutin Wannabovorn ของนายสุทิน วรรณบวร อดีตผู้สื่อข่าวประจำสำนักข่าวต่างประเทศ โพสต์หัวข้อ “ไอ้กันลอบสังหารเบอร์สองอิหร่าน อีก 1 ปี เกณฑ์ทหาร ทันการณ์ไหม”

โดยระบุว่า “นายพลส้มเน่าหัวล้านไม่ผ่าน ร.ร. เสธฯ ยังไม่ต้องเกณฑ์ทหารตอนนี้ใช่ไหม เพราะไอ้กันบอกว่า ที่มันลอบฆ่าผู้นำทหารอิหร่านนั้น “ไม่ใช่ก่อสงคราม แต่เป็นการระงับสงคราม”

นายพลส้มเน่าหัวล้านไม่ผ่าน ร.ร. เสธฯ เคยเสนอให้เกณฑ์ทหารก่อนเกิดสงครามหนึ่งปี ตอนนี้มีแต่เค้าลางสงครามบานปลาย ตามนโยบายส้มเน่ายังไม่ให้เกณฑ์ทหารใช่ไหม?"

วันเดียวกัน(4 ม.ค.63) เฟซบุ๊ก Sermsuk Kasitipradit ของนายเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ หรือ “เป๊ปซี่” ผู้สื่อข่าวอาวุโส โพสต์ข้อความระบุว่า

"หลังยุบอนค.ข้อหาล้มล้างการปกครอง 21 ม.ค. น่าจะมีหนาวสะท้านถึงอดีตทหารใหญ่ รองเลขาสมช.ร่วมขบวนการล้มล้างการปกครองฯ สายข่าวทะลวงไส้แง้ม อาจมีอาฟเตอร์ช็อคหลายแมกนิจู๊ด ถึงยศทางทหารที่ได้มา..ปะติดข้างฝาไว้เลย..ไม่ใช่การขู่นะแจ๊ะ”


นอกจากนี้ นายเสริมสุข ยังแสดงความคิดเห็นต่อโพสต์ดังกล่าวอีกว่า “แยกแยะไม่ได้ ไปร่วมโหวตพรก.กำลังพลหน้าตาเฉย เป็นถึงอดีตทหารใหญ่ ขนาดคุณศรีนวล ส.ส.เชียงใหม่ภูมิใจไทย ยังแยกแยะออก ฟังมาว่ามีหนาวสะท้านหลังยุบพรรค”

สำหรับ “นายพลส้มหวาน” เมื่อวันที่ 2 ม.ค.63 ยังสนุกกับแผนการรบในปี 63 อยู่เลย ทำชี้ให้เห็นทำอย่างไรจะชนะด้วย

โดย พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความระบุว่า

“มารู้จักยุทธวิธีการรบกันบ้างดีกว่า ไม่ได้พูดถึงมานานแล้ว ใช้ได้ทั้งสงครามตามแบบ นอกแบบ หรือการเมือง

คำที่เขาใช้คือ เข้าตีด้วยกำลังมากกว่า ณ ตำบล เวลา แตกหัก ไม่ว่าจะเป็นตอนบุก ตอนร่นถอย หรือตอนตั้งรับ

ถ้าข้าศึกกำลังมาก ก็ทำให้เหมือนกำลังน้อย เช่น ล่อให้เข้ามาในที่แคบกลายเป็นกำลังด้านหน้าน้อย หรือล่อให้แยกกำลังไกลกันออกไปจนบาง เราก็มองหาที่บัญชาการรบแล้วรวมกำลังให้มากกว่าเข้าโจมตีที่หมายแคบๆนั้น เมื่อศูนย์กลางแพ้ ที่เหลือก็แพ้หมด

มองภาพใหญ่หน่อย เวลาประเทศต่างๆจะร่วมมือกันสู้กับอีกฝ่าย เขาก็จะพยายามรวมกำลังให้เหนือกว่าและแยกศัตรูให้เป็นส่วนๆ ไม่สามัคคีกัน ยิ่งยุให้ทะเลาะกันได้ยิ่งดี พอเกิดการรบจริงก็จะเกี่ยงกัน เราก็เข้าตีตรงหัวใจของกำลังนั้น

เพื่อให้เข้าใจง่ายๆก็คือ หาแนวร่วมหรือพันธมิตรจากทุกฝ่าย ไม่เว้นแม้แต่คู่แข่งเก่า เพื่อให้มากพอสู้เอาชนะศัตรูปัจจุบันให้ได้ เป็นเป้าหมายสูงสุด นั่นคือทำให้เราตัวใหญ่ที่สุด ศัตรูตัวเล็กที่สุด

สงครามเก้าทัพไทยก็ชนะด้วยการดึงให้ศัตรูมาอยู่ที่แคบระหว่างเขา ไม่ยอมให้ออกมาที่ราบ มามากก็เหมือนมาน้อย ส่งคนไปปล้นตัดกำลังเสบียง ยิงปืนใหญ่ ยิงไฟจากบนเขามาครอกกำลังทหาร ไม่ช้าก็ต้องถอยกลับไป

การเมืองก็เช่นกัน ดูเหมือนฝ่ายตรงกันข้ามมีรอยไปกันไม่ได้ ก็ต้องแยกให้ศัตรูโดดเดี่ยว อย่าผลักฝ่ายเราไปเป็นฝ่ายเขา หาพันธมิตรที่แข็งแกร่งกว่าฝ่ายเขาเอามาคาน จะมาจากในหรือนอกประเทศหรือแม้แต่ภัยธรรมชาติ ก็มีผลต่อสงครามทั้งนั้น

ปีใหม่นี้ ท่าทางจะสนุกครับ เพราะมีแต่ประชาชนเท่านั้นที่สู้กับเผด็จการ นับวันแต่จะขยายตัวมากขึ้นไม่ยอมถอยครับ"

อย่างนี้โพสต์ของ “ลุงสุทิน-ลุงเป๊ปซี่” ก็ไร้ความหมาย เพราะอย่าคิดว่าท่านนายพลจะกลัว แถมยังท้าทายที่จะสู้รบกับอำนาจโดยไม่ท้อถอย

ฟังอย่างนี้ทำให้อดคิดถึง “เสธ.แดง” พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล กุนซือฝ่ายทหารของ “นปช.” หรือคนเสื้อแดง ไม่ได้ เพียงแต่ยังไม่รู้เท่านั้น ว่าชะตากรรมจะเหมือนกันหรือไม่!?