ส.ส.เมืองคอนปชป. เตือน "ประยุทธ์" อย่าขยายความขัดแย้งในสังคมไทย ชี้เปลี่ยนสถานะจากคนกลางมาเป็นคู่ขัดแย้งเองยากที่จะหยุดปัญหาได้ แนะต้องยึดความเท่าเทียม ยุติธรรมถอดชนวนด้วยตัวเอง
วันนี้ (14 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ทุกฝ่ายเลิกทะเลาะกันว่า ปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมืองได้เกิดขึ้นมาหลังจากระบอบทักษิณขึ้นมาครองอำนาจเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ มีผลประโยชน์ทับซ้อนและทุจริตเชิงนโยบาย แทรกแซงองค์กรอิสระ และจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ทำให้คนไทยทั่วประเทศยอมรับไม่ได้ ต้องออกมาต่อต้าน จนเกิดการชุมนุมของประชาชนเป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งของคนในชาติ และได้พัฒนาความขัดแย้งเรื่อยมาจนถึงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เมื่อ คสช.เข้ามายึดอำนาจบริหารประเทศภายใต้กฎหมายพิเศษมาเป็นเวลา5ปี จึงเกิดคู่ขัดแย้งใหม่ จากระบอบทักษิณ กับกลุ่มคนไทยที่ไม่เอาระบอบทักษิณ ที่มีพรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้นำฝ่ายค้าน มาเป็นระบอบทักษิณ กับระบอบพล.อ.ประยุทธในปัจจุบัน
“ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ ในฐานะคู่ขัดแย้งขั้วใหม่ จะต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อไม่ให้ความขัดแย้งขยายผลลุกลามไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใต้บังคับบัญชาของท่าน ก็ควรกำชับให้ทำหน้าที่ภายใต้บทบาทที่อยู่ในกรอบของกฎหมาย และต้องไม่ใช้กลไกรัฐเข้าไปแทรกแซง เล่นงานฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่เป็นธรรม “
นายเทพไทกล่าวว่า จากสถานการณ์การเมืองที่ ตัวพล.อ.ประยุทธ เคยมีสถานภาพเป็นคนกลางทางการเมือง จนเปลี่ยนสถานะใหม่มาเป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง ก็เป็นเรื่องยากสำหรับการออกมาเรียกร้องให้คู่ขัดแย้งของท่าน หยุดทะเลาะ หรือหยุดแสดงความเห็นทางการเมืองที่เห็นต่างกับท่านได้ ถ้าจะหยุดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ รัฐบาลต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ถอยตัวเองออกมาจากการเป็นคู่ขัดแย้งกับทุกฝ่าย และต้องปฎิบัติต่อทุกฝ่ายภายใต้กฏหมายอย่างเท่าเทียมกัน
“ผมเชื่อว่าไม่มีคนไทยคนไหนที่อยากให้ความขัดแย้งเกิดขึ้นในบ้านเมืองอีกแล้ว เมื่อ พล.อ.ประยุทธ ตกเป็นคู่ขัดแย้งเสียเองแล้ว เป็นหน้าที่ของท่านจะถอดชนวนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นออกมาได้อย่างไร พล.อ.ประยุทธคนเดียวเท่านั้นจะเป็นผู้รู้สถานการณ์ของบ้านเมืองในขณะนี้ได้ดีที่สุด”นายเทพไทกล่าว