xs
xsm
sm
md
lg

“เชาว์” ติง “จิรายุ” ใช้ตำแหน่ง ปธ.กมธ.พร่ำเพรื่อตีกินทางการเมือง-โจมตีศาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อดีตรองโฆษก ปชป.เตือน “จิรายุ” อย่าใช้ตำแหน่งประธาน กมธ.พร่ำเพรื่อหวังตีกินทางการเมือง แนะควรเข้าใจกระบวนการศาลและบทบาทหน้าที่ของตนเอง อย่าโหนกระแสโจมตีศาลเหมือนที่เคยทำมาในอดีต

วันนี้ (8 ต.ค.) นายเชาว์ มีขวด ทนายอาสา อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเตือนหลายฝ่ายว่าอย่าเอากรณีนายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลชั้นต้นจังหวัดยะลา ที่พยายามยิงตัวตาย มาตีกินทางการเมือง เพราะดูจะลุกลามบานปลายกันไปใหญ่ เช่น นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานกรรมาธิการองค์กรศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ สภาผู้แทนราษฎรออกมาให้ข่าวว่าเตรียมเสนอวาระในการประชุมกรรมาธิการในการประชุมวันที่ 17 ตุลาคมนี้เพื่อพิจารณาแก้ไขพระธรรมนูญศาลยุติธรรมเรื่องห้ามมิให้ตรวจร่างก่อนอ่านคำพิพากษา

ขณะที่คณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) หน่วยที่รับผิดชอบได้แต่งตั้งอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้และรายงานให้ ก.ต.ทราบภายใน 15 วัน ท่ามกลางความร้อนแรงหลายฝ่ายก็หยิบยกเอาประเด็นนี้มาวิพากษ์วิจารณ์ขยายวงกว้างไปเป็นประเด็นทางการเมืองและโจมตีกระบวนการยุติธรรมกันอย่างขาดเหตุผล อย่างกรณียิ่งเลอะเทอะกันไปใหญ่

นายเชาว์กล่าวว่าอย่าลืมว่าศาลเป็นหนึ่งในอำนาจสามฝ่ายที่ถ่วงดุลกันตามรัฐธรรมนูญ และก็มีอยู่เพียงอำนาจเดียวที่ยังพอเป็นที่พึ่งให้กับสังคมได้ แม้การแก้ไขหรือเสนอกฎหมายจะเป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ที่ผ่านมาสภาก็ไม่เคยไปก้าวก่ายกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารคดีของศาล เป็นหน้าที่ของสถาบันศาลที่จะพิจารณาว่าจะปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในส่วนใดบ้าง สภาผู้แทนราษฎรมีหน้าที่เพียงให้ความสะดวกเท่านั้น ที่สำคัญแนวคิดเรื่องให้ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนมีอิสระในการพิจารณาพิพากษาคดี เคยใช้มาแล้วตามรัฐธรรมนูญ 2540 ปรากฏว่ามีข้อบกพร่องเยอะมากมีสถิติว่าคำพิพากษาของศาลชั้นต้นถูกกลับและแก้ไขโดยศาลสูงมีมากจนผิดปกติเพราะขาดประสบการณ์ในการในการพิจารณาคดีความเสียหายจึงตกกับประชาชนหรือคู่ความในคดี จึงมีการแก้ไขกลับมาใช้ระบบตรวจคำพิพากษาแบบเดิมที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมิใช่เป็นการแทรกแซงการพิจารณาพิพากษาคดีแต่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้เกิดความละเอียดรอบคอบถูกต้องมากยิ่งขึ้น

“การเสนอให้แก้ไขกฎหมายพระธรรมนูญศาลยุติธรรมเพื่อให้องค์คณะผู้พิพากษาใช้ดุลพินิจอย่างอิสระ โดยมิได้ศึกษาข้อมูลและขาดความรู้ความเข้าใจระบบการตรวจสำนวนและร่างคำพิพากษา จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล ความเสียหายก็จะตกแก่ประชาชนผู้มีอรรถคดี ดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต จึงขอให้นายจิรายุได้เข้าใจในกระบวนการที่ผ่านมาและบทบาทอำนาจหน้าที่ของตนเองให้ถูกต้อง อย่าใช้ตำแหน่งประธานกรรมาธิการพร่ำเพรื่อโหนกระแสเรื่องนี้เป็นประเด็นการเมืองก้าวก่ายการทำงานของศาลหรือตีกินโจมตีกระบวนการยุติธรรมว่าสองมาตราฐานเหมือนที่เคยทำมาในอดีต” นายเชาว์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น