ประธาน กมธ.ปราบปรามทุจริต เชิญ “สมชัย” ร่วมให้ข้อมูลวุฒิปลอม ‘ธรรมนัส’ พร้อมคุ้ยต่อคดียาเสพติด เตรียมบินไปหาข้อมูลต่างประเทศ ขอดูคำพิพากษาศาลออสเตรเลีย พร้อมขอ “ประธานชวน” เพิ่มอนุ กมธ.เป็น 3 ชุด
วันนี้ (2 ต.ค.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเตรียมพร้อมตรวจสอบการปลอมวุฒิการศึกษาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร จะเข้ามามีส่วนให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นายสมชัยเป็นผู้ที่หวังดีต่อบ้านเมือง เมื่อเห็นความไม่สุจริตหรือไม่ถูกต้องจึงต้องเข้ามาให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงเรื่องนี้ต่อ กมธ.ป.ป.ช. เพื่อใช้ในการตรวจสอบวุฒิการศึกษาของ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งเป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกับที่ กมธ.กำลังดำเนินการอยู่
ส่วนกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัสแจ้งว่ายังไม่ให้ความสำคัญต่อการเข้ามาชี้แจงต่อ กมธ.นั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ขณะนี้เรายังไม่ได้เรียนเชิญ ร.อ.ธรรมนัสมาให้ข้อมูล เพราะตามขั้นตอนต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนก่อน จากนั้นจึงเชิญผู้ที่ถูกร้องมาให้ถ้อยคำ นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัสยังมีเรื่องยาเสพติดที่กำลังดำเนินการควบคู่ และกำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ โดยขณะนี้เป็นช่วงปลายปีงบประมาณ และความจริงคือช่วงที่ต้องเริ่มต้นงบประมาณใหม่ แต่การพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2563 ยังไม่เข้าสู่สภาฯ ทำให้การนำงบประมาณมาใช้ก็ลำบาก ทาง กมธ.เราก็แจ้งไปว่าหากยังใช้งบประมาณไม่ได้ ก็ขอใช้เงินส่วนตัวตนออกไปก่อนก็ได้ เช่น การเดินทางไปต่างประเทศของคณะทำงาน เพราะช่วงที่ตนเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) หากใครไปราชการก็ยืมเงินตนไปก่อนแล้วค่อยนำใบเสร็จมายื่นทีหลัง
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวย้ำในกระบวนการสืบสวนสอบสวนว่า จำเป็นต้องหาข้อมูลจากต่างประเทศแน่นอน โดยเฉพาะคำพิพากษาของศาลที่ออสเตรเลีย รวมไปถึงเรื่องวุฒิการศึกษาด้วย ขณะนี้กำลังแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษเพื่อส่งเรื่องไปที่นั้น ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ หาก ร.อ.ธรรมนัสไม่ชี้แจงต่อสังคมให้ชัดเจนก็เป็นเรื่องของท่าน แต่เรายืนยันว่าจะดำเนินเรื่องอย่างเร็วที่สุด ซึ่ง กมธ.ได้ประชุมแล้ว 4 ครั้ง และคิดว่าวันนี้อาจจะทำเรื่องเพื่อขออนุมัตินายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ตั้งคณะอนุกรรมาธิการเพิ่มเป็น 3 ชุด เพราะคณะอนุกรรมาธิการ 2 คณะ ถือว่าไม่เพียงพอ