“ธนาธร”ยันให้พรรคกู้เงินไม่ผิด เหตุเงินกู้ไม่ใช่รายได้ เคยชี้แจง กกต.ไปแล้วเมื่อ 2 เดือนก่อน ถ้าพิจารณาว่าเงินกู้เป็นรายได้จะผิดหลักบัญชีทั้งหมด
วันนี้(21 ก.ย.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เตรียมนำคำร้องกรณีนายธนาธรปล่อยเงินกู้ให้พรรคอนาคตใหม่ เข้าที่ประชุมสัปดาห์หน้า ว่า เงินกู้ไม่ใช่รายได้ จึงเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหาอะไร ไม่ห่วงและเตรียมความพร้อมไว้หมด หาก กกต. พิจารณาว่าเงินกู้เป็นรายได้จะทำให้หลักบัญชีของบริษัทและองค์กรต่างๆ ผิดไปทั้งหมด ซึ่งเป็นการผิดหลักบัญชีอย่างมาก
“เงินกู้ไม่ถือเป็นรายได้อยู่แล้ว และผมได้ชี้แจงกับ กกต. ไปหมดแล้วตั้งแต่ 2 เดือนที่ผ่านมา แต่ตอนที่มีไปเดินเรื่องเงินกู้ใหม่ๆ เป็นการให้ข้อมูลตามที่ กกต. เรียกให้เข้าไปชี้แจงเท่านั้น”นายธนาธรกล่าว
ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นคำร้องต่อ กกต.เมื่อ 21 พ.ค. 2562 ที่ผ่านมาให้ตรวจสอบกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปบรรยายที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย หรือ เอฟซีซีที (FCCT) ในหัวข้อ อะไรคืออนาคตของพรรคอนาคตใหม่ (What is the future of Future Forward?) เมื่อวันพุธที่ 15 พฤษภาคม 2562 ตอนหนึ่งได้กล่าวถึงการบริหารการเงินของพรรคอนาคตใหม่ ว่า เพื่อให้พรรคสามารถเดินหน้าในช่วงการเลือกตั้งได้ ปัจจุบันตนจึงให้เงินทางพรรคยืมไปแล้วน่าจะประมาณ 105 หรือ 110 ล้านบาท และต่อมา น.ส.พรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ทพูดในรายการ “ฟังหูไว้หู” เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2562 ทางช่อง 9 MCOT HD โดยระบุว่า พรรคอนาคตใหม่ ทำสัญญากู้ยืมประมาณ 250 ล้านบาท พร้อมคิดดอกเบี้ย ซึ่งการทำนิติกรรมดังกล่าว ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 ม.62 ไม่ได้บัญญัติไว้ให้ทำได้ ซึ่งกรณีดังกล่าว กกต.ได้เรียกนายศรีสุวรรณ ไปให้ข้อมูลแล้ว
ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏข้อเท็จจริงจากการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.ของนายธนาธรว่านายธนาธรได้ให้พรรคอนาคตใหม่กู้เงิน 2 สัญญา รวมเป็นเงิน 191.2 ล้านบาท นายศรีสุวรรณจึงเตรียมนำพยานหลักฐานไปยื่นเพิ่มเติมให้กับ กกต.เพื่อดำเนินการไต่สวน สอบสวน และเอาผิด นายธนาธร และกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ตาม ม.66 วรรคสอง ประกอบ ม.125 ซึ่งอาจต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมืองมีกําหนด 5 ปี และให้เงินทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ส่วนที่เกินกว่า 10 ล้าน ที่กําหนดไว้ตามมาตรา 66 ให้ตกเป็นของกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองได้ โดยสมาคมฯจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันจันทร์ที่ 23 ก.ย. 62 เวลา 10.00 น.