ศาลปกครองสงขลา สั่งระงับรื้อโฮมสเตย์ชาวประมงริมทะเลสาบสงขลา ชี้หากมีผลบังคับใช้ทันทีเกิดผลกระทบร้ายแรง ยากต่อการเยียวยา
วันนี้ (11ก.ย.) ศาลปกครองสงขลา มีคำสั่งระงับการบังคับตามคำสั่งของผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลาที่ให้นายเดชา มีสุวรรณ ชาวประมงเลี้ยงปลากะพงในกระชังริมทะเลสาบสงขลา ต.เกาะยอ อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา ดำเนินการรื้อสิ่งปลูกสร้างโฮมสเตย์ล่วงล้ำลำน้ำ ให้แล้วเสร็จภายใน 140วัน ไว้ก่อนเป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา ในคดีที่นายเดชา มีสุวรรณ ยื่นฟ้องผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสงขลา และผู้อำนวยการสำนักงานภูมิภาคที่ 4 กรณีมีคำสั่งให้นายเดชารื้อสิ่งปลูกสร้างโฮมสเตย์ล่วงล้ำทะเลสาบสงขลาไม่ชอบด้วยกฎหมายและเลือกปฏิบัติ
ทั้งนี้ศาลปกครองสงขลา เห็นว่า การให้คำสั่งดังกล่าวมีผลใช้บังคับในทันทีจะทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ประชาชนกลุ่มที่พิพาท ที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลังมากกว่าผลกระทบรุนแรงต่อสังคม ประกอบกับเมื่อพิจารณาคำชี้แจงของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองซึ่งระบุว่า เมื่อพิจารณาจากสภาพโฮมสเตย์ แล้ว มีที่ตั้งใกล้ริมฝั่งทะเลสาบสงขลาโดยเป็นพื้นที่น้ำตื้นเขินอันประชาชนไม่สามารถใช้ในการสัญจรทางน้ำได้ จึงมิได้ขัดต่อการใช้ประโยชน์ร่วมกันในพื้นที่ดังกล่าว และไม่มีลักษณะเป็นร่องน้ำทางเรือเดิน จึงไม่เป็นอุปสรรคหรือกีดขวางต่อการสัญจรทางน้ำ รวมทั้งกิจการโฮมสเตย์ของนายเดชา ได้จัดทำระบบบำบัดสิ่งปฏิกูลอย่างดี จึงถือได้ว่ามีการรักษาความสะอาด ป้องกันมิให้เสียหายหรือทำลายต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมของทะเลสาบสงขลา
นอกจากนี้ โฮมสเตย์ที่พิพาทมิได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด หากแต่เกิดจากการดัดแปลงจากขนำที่ชาวประมงใช้เฝ้าดูแลปลาในกระชัง อันมีลักษณะเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลสาบสงขลาอยู่มานานแล้วควบคู่กับวิถีชุมชนชาวเกาะยอ การทุเลาการบังคับตามคำสั่งรื้อถอนนี้มีผลให้โฮมสเตย์ของนายเดชาจะยังมิได้ถูกบังคับรื้อถอนแม้ครบกำหนดระยะเวลาที่กำหนดไว้แล้ว จึงไม่ส่งผลกระทบต่อที่สาธารณประโยชน์หรือสิ่งแวดล้อมถึงขนาดเป็นอุปสรรคต่อการบริหารของรัฐในการดูแลรักษาที่อันเป็นสาธารณประโยชน์ของแผ่นดิน