"สมศักดิ์" ชู “ครอบครัว” เป็นจุดเริ่มต้นเกราะป้องกันยาเสพติด ปล่อย รบ.ทำอย่างเดียวสำเร็จยาก ต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน ยก “กองทุนแม่ของแผ่นดิน” ช่วยเข้าถึง 1.8 หมื่นหมู่บ้าน เหลือโซนสีแดงอีก 6 พันหมู่บ้านที่ต้องเร่งเข้าถึง ดัน “กลุ่มลุ่มน้ำโขง” ร่วมกันทลายแหล่งผลิต ยันกำไร EM ช่วยลดนักโทษล้นคุก
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่รัฐสภา เกียกกาย มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่ 2 เป็นประธานในการประชุม วาระกระทู้ถามสดถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เรื่อง การแก้ไขปัญหายาเสพติด โดย นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ถามว่า หลังจากการแถลงนโยบายของรัฐบาล มีชาวบ้านสอบถามว่า รัฐบาลมีแนวทางการแก้ไขและปราบปรามยาเสพติดอย่างไร เพื่อให้ลูกหลานรอดพ้นยาเสพติด รวมทั้งหน่วยงานบำบัดยาเสพติดหรือเรือนจำมีมาตรฐานหรือไม่ เพราะเคยมีคนเข้าสถานบำบัดแล้วเสียชีวิต
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม รับมอบหมายจากนายกฯ มาตอบกระทู้ถามสดว่า การแก้ปัญหายาเสพติดนั้น คงพึ่งรัฐบาลอย่างเดียวไม่ได้ การป้องกันนั้นสำคัญมาก ตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง รมว.ยุติธรรมระยะสั้นๆ แต่ได้เห็นปัญหาอันยิ่งใหญ่ นักโทษส่วนใหญ่ในเรือนจำเป็นนักโทษเกี่ยวกับยาเสพติด ดังนั้นหากเราไม่ร่วมมือกันการแก้ปัญหาคงไม่ราบรื่น ตนอยากเรียนว่า แนวทางสำคัญที่สุดของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) คือการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงาน เช่น กรมพัฒนาชุมชน และกรมปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น ที่ช่วยกันระดมกำลังให้พี่น้องประชาชนในหมู่บ้านจับมือกันด้วยความรัก ให้กำลังใจกันในครอบครัว หากเราเข้าใจเข้าใจกันในครอบครัวจะเป็นจุดเริ่มต้นในการป้องกัน
“ขณะนี้เรามีกองทุนแม่ของแผ่นดินของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ให้จัดตั้งกองทุนในหมู่บ้าน หากบ้านไหนปลอดยาเสพติดก็มีการมอบธงให้ซึ่งตรงนี้ใช้เงินน้อยมาก ขณะนี้ทั่วประเทศไทย 84,000 หมู่บ้าน มีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่ 24,000 ตรงนี้กองทุนแม่ของแผ่นดินได้เข้าถึงไป 18,000 หมู่บ้าน ยังขาดอีกประมาณ 6,000 หมู่บ้านที่เรากำหนดสีแดงไว้ในการแก้ไขและป้องกัน นอกจากนี้ตนยังให้นโยยาบกับ ป.ป.ส.ว่าให้ไปชักนำหรือดำเนินการ เช่น การสกัดการขนส่งยาเสพติดทางชายแดน โดยให้หมู่บ้านเป็นตัวช่วยป้องกัน ตนเชื่อว่าจะทำให้ดีขึ้น ผู้ค้าผู้ขายจะลดลงอย่างแน่นอน” นายสมศักดิ์ ระบุ
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การปราบปรามยาเสพติดรัฐบาลใช้กฎหมายทุกมิติ ส่งผลให้เกิดการระงับผู้ค้าผู้ขายในระยะสั้นๆ ซึ่งลดลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ และดำเนินการจับกุมได้ถึง 9,800 ราย ส่วนแหล่งผลิตรัฐบาลให้ความสำคัญกับกลุ่มลุ่มน้ำโขงที่ร่วมมือกับปราบปรามจับกุมร่วมกับกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยการจับกุม ยาบ้า ยาไอซ์ กัญชาและยาเค รวมทั้งเคมีภัณฑ์อีกจำนวนมหาศาล เป็นการลดทอนการผลิตยาเสพติดได้จำนวนมาก ขณะนี้ตัวเลขการปราบปรามดีขึ้น แต่ยืนยันว่าการร่วมแก้ปัญหายาเสพติดต้องร่วมกันทั้งรัฐบาลและประชาชน ส่วนเรื่องสถานบำบัด มีการดำเนินการ 3 ระบบ คือ ระบบสมัครใจ บังคับและต้องโทษ โดยอยู่ในการควบคุมของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งวางมาตรฐานได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังมีของกรมควบคุมการประพฤติและกรมพินิจ ตนขอให้ทุกท่านวางใจถึงมาตรฐานและเราจะปรับและพัฒนาขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ราชการรับเงินดูแลนักโทษหรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้น เราขอให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน 1386 เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างโดยเราจะลงโทษอย่างเด้ดขาด ส่วนการทำไม่ให้นักโทษกลับไปทำผิดอีก เรามีกำไร EM ที่เชื่อว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดปัญหานักโทษล้นคุก เช่น นักโทษชั้นดีที่กำลังจะพ้นโทษ หรือนักโทษคดีเล็กๆน้อยๆ เราจะให้เขากลับสู่ชุมชนโดยใส่กำไรควบคุมดูแล ซึ่งรายละเอียดตรงนี้ยังมีอีกมากมาย หากใครสนใจตนพร้อมที่จะพาไปดูตัวอย่าง.
เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่รัฐสภา เกียกกาย มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่ 2 เป็นประธานในการประชุม วาระกระทู้ถามสดถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เรื่อง การแก้ไขปัญหายาเสพติด โดย นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ส.ส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ถามว่า หลังจากการแถลงนโยบายของรัฐบาล มีชาวบ้านสอบถามว่า รัฐบาลมีแนวทางการแก้ไขและปราบปรามยาเสพติดอย่างไร เพื่อให้ลูกหลานรอดพ้นยาเสพติด รวมทั้งหน่วยงานบำบัดยาเสพติดหรือเรือนจำมีมาตรฐานหรือไม่ เพราะเคยมีคนเข้าสถานบำบัดแล้วเสียชีวิต
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม รับมอบหมายจากนายกฯ มาตอบกระทู้ถามสดว่า การแก้ปัญหายาเสพติดนั้น คงพึ่งรัฐบาลอย่างเดียวไม่ได้ การป้องกันนั้นสำคัญมาก ตนเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง รมว.ยุติธรรมระยะสั้นๆ แต่ได้เห็นปัญหาอันยิ่งใหญ่ นักโทษส่วนใหญ่ในเรือนจำเป็นนักโทษเกี่ยวกับยาเสพติด ดังนั้นหากเราไม่ร่วมมือกันการแก้ปัญหาคงไม่ราบรื่น ตนอยากเรียนว่า แนวทางสำคัญที่สุดของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) คือการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงาน เช่น กรมพัฒนาชุมชน และกรมปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น ที่ช่วยกันระดมกำลังให้พี่น้องประชาชนในหมู่บ้านจับมือกันด้วยความรัก ให้กำลังใจกันในครอบครัว หากเราเข้าใจเข้าใจกันในครอบครัวจะเป็นจุดเริ่มต้นในการป้องกัน
“ขณะนี้เรามีกองทุนแม่ของแผ่นดินของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ให้จัดตั้งกองทุนในหมู่บ้าน หากบ้านไหนปลอดยาเสพติดก็มีการมอบธงให้ซึ่งตรงนี้ใช้เงินน้อยมาก ขณะนี้ทั่วประเทศไทย 84,000 หมู่บ้าน มีปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่ 24,000 ตรงนี้กองทุนแม่ของแผ่นดินได้เข้าถึงไป 18,000 หมู่บ้าน ยังขาดอีกประมาณ 6,000 หมู่บ้านที่เรากำหนดสีแดงไว้ในการแก้ไขและป้องกัน นอกจากนี้ตนยังให้นโยยาบกับ ป.ป.ส.ว่าให้ไปชักนำหรือดำเนินการ เช่น การสกัดการขนส่งยาเสพติดทางชายแดน โดยให้หมู่บ้านเป็นตัวช่วยป้องกัน ตนเชื่อว่าจะทำให้ดีขึ้น ผู้ค้าผู้ขายจะลดลงอย่างแน่นอน” นายสมศักดิ์ ระบุ
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การปราบปรามยาเสพติดรัฐบาลใช้กฎหมายทุกมิติ ส่งผลให้เกิดการระงับผู้ค้าผู้ขายในระยะสั้นๆ ซึ่งลดลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ และดำเนินการจับกุมได้ถึง 9,800 ราย ส่วนแหล่งผลิตรัฐบาลให้ความสำคัญกับกลุ่มลุ่มน้ำโขงที่ร่วมมือกับปราบปรามจับกุมร่วมกับกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยการจับกุม ยาบ้า ยาไอซ์ กัญชาและยาเค รวมทั้งเคมีภัณฑ์อีกจำนวนมหาศาล เป็นการลดทอนการผลิตยาเสพติดได้จำนวนมาก ขณะนี้ตัวเลขการปราบปรามดีขึ้น แต่ยืนยันว่าการร่วมแก้ปัญหายาเสพติดต้องร่วมกันทั้งรัฐบาลและประชาชน ส่วนเรื่องสถานบำบัด มีการดำเนินการ 3 ระบบ คือ ระบบสมัครใจ บังคับและต้องโทษ โดยอยู่ในการควบคุมของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งวางมาตรฐานได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังมีของกรมควบคุมการประพฤติและกรมพินิจ ตนขอให้ทุกท่านวางใจถึงมาตรฐานและเราจะปรับและพัฒนาขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ราชการรับเงินดูแลนักโทษหรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้น เราขอให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแสผ่านสายด่วน 1386 เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างโดยเราจะลงโทษอย่างเด้ดขาด ส่วนการทำไม่ให้นักโทษกลับไปทำผิดอีก เรามีกำไร EM ที่เชื่อว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดปัญหานักโทษล้นคุก เช่น นักโทษชั้นดีที่กำลังจะพ้นโทษ หรือนักโทษคดีเล็กๆน้อยๆ เราจะให้เขากลับสู่ชุมชนโดยใส่กำไรควบคุมดูแล ซึ่งรายละเอียดตรงนี้ยังมีอีกมากมาย หากใครสนใจตนพร้อมที่จะพาไปดูตัวอย่าง.