"บิ๊กป้อม" เป็นปธ.ประชุมติดตามความคืบหน้าภัยแล้ง เคาะงบบูรณาการน้ำเพิ่ม 1.8 แสนล้าน พร้อมวางแผนปรับลดระบายน้ำ 4 เขื่อนหลักสำรองฤดูแล้ง
วันนี้ (14ส.ค.) เวลา 09.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และพิจารณาการจัดทำงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ประจำปี 2563 โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลมีความห่วงใยปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้น โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชน พร้อมมอบให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.)ติดตามผลการดำเนินการและรายงานให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)รับทราบต่อไป
ด้านนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาฯสทนช. กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในภาพรวมของประเทศปริมาณน้ำในภาพรวมของประเทศไทยปัจจุบัน ปริมาณฝนที่ตกตั้งแต่ 1 พ.ค.- 11 ส.ค.นี้ มีปริมาณต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเกือบทุกภาคยกเว้นภาคใต้ฝั่งตะวันออกที่มากกว่าค่าเฉลี่ย 1 เปอร์เซ็นต์ และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ที่มากกว่าค่าเฉลี่ย 3 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการคาดการณ์ฝนในระยะ 3 เดือนจากนี้ต่อจากเดือนส.ค. ปริมาณฝนใกล้เคียงค่าปกติ ยกเว้นภาคกลางและภาคตะวันออก เดือนก.ย.ปริมาณ ฝนใกล้เคียงค่าปกติ ยกเว้นภาคใต้ ส่วนเดือนต.ค.ปริมาณฝนในทุกภาค ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่การเคลื่อนตัวของพายุโซนร้อนวิภาในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้ภาคเหนือ อีสาน กลาง และตะวันออกมีปริมาณฝนเพิ่มมากขึ้น ทำให้เขื่อนใหญ่มีน้ำเพิ่ม 1,560 ล้านลูกบาศก์เมตร นอกจากนี้ที่ประชุมวางแผนการปรับลดการระบายน้ำจาก 4 เขื่อนหลักในลุ่มเจ้าพระยาแบบขั้นบันได้ เพื่อสำรองปริมาณน้ำไว้ต้นฤดูแล้งในปี 2562/2563 จำนวน 348 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมถึงวางแผนการใช้น้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองเพื่อการประปานครหลวงจำนวน 15 ล้านลูกบาศก์เมตร
นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีการพิจารณา วงเงินงบประมาณบูรณาการด้านน้ำวงเงิน 1.8 แสนล้านบาทที่เสนอเพิ่มเติม โดยหน่วยงานต่างๆรวม 9 หน่วยงาน จำนวน 1.3 หมื่นล้านบาทจากเดิมที่งบประมาณบูรณการด้านน้ำได้รับจากคณะกรรมการชุดดังกล่าวในรัฐบาลชุดที่ผ่านมาประมาณ 1.6 แสนกว่าล้านบาท แต่หลังจากนี้งบประมาณดังกล่าวจะได้รับการพิจารณาโดยสำนักงบประมาณอีกครั้งและอาจถูกปรับลดไปประมาณครึ่งหนึ่งของงบประมาณที่เสนอไป คาดว่างบประมาณบูรณาการน้ำที่จะได้รับการสนับสนุนจริงอยู่ที่ประมาณ 6-7 หมื่นล้านบาท