มท.1 ห่วงอีสานฝนตกน้อย กระทบการเกษตร สั่ง ผวจ.ระดมสูบน้ำช่วยเหลือพื้นที่แล้งใกล้เคียง เผยมอบหน่วยงานเกี่ยวข้องประเมินคลื่นลมแรงในภาคใต้ แจ้งเตือนเรืองดออกจากฝั่ง พร้อมเตรียมรับมือโคลนถล่มในภาคเหนือ
วันนี้ (6 ส.ค.) เมื่อเวลา 08.25 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการรับมือสถานการณ์ภัยแล้งว่า ตนได้สั่งการไปแล้ว โดยกระทรวงมหาดไทยจะดูย่อยลงไปในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค หรือเพื่อการเกษตร หากมีแหล่งน้ำใกล้เคียง ผู้ว่าราชการจังหวัดก็ได้บูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ โดยใช้การฉีดน้ำทั้งไกลและใกล้เพื่อช่วยเหลือประชาชน ซึ่งขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนเป็นห่วงตอนนี้คือด้านการเกษตร เพราะภาคอีสานมีฝนตกน้อย ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปจะต้องช่วยเหลือเยียวยาหากมีความเสียหายเกิดขึ้น แต่ถ้าในบริเวณใกล้เคียงยังมีน้ำอยู่ ผู้ว่าฯ จะระดมสูบน้ำไปหล่อเลี้ยงให้ได้ ทั้งนี้ ต้องมีการประเมินก่อนว่าหากทำแล้วต้องสามารถช่วยเหลือได้ ไม่เช่นนั้นจะลำบากทั้งสองด้าน
เมื่อถามถึงเหตุการณ์ดินถล่มที่ จ.แม่ฮ่องสอน ได้มีมาตรการกำกับดูแลควบคู่ไปกับการรับมือภัยแล้งอย่างไรบ้าง พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า หน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องฝนจะต้องคอยติดตามประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ เช่น หากมีฝนตกหนักในพื้นที่นานติดต่อกันจนอาจมีโคลนถล่มให้บ้านเรือนประชาชนเสียหาย รวมถึงเรื่องน้ำหลาก ที่ทั้งผู้ว่าฯ นายอำเภอ เจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นจะต้องอพยพผู้คนไปตามสถานที่ที่เตรียมไว้ โดยก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นสองพื้นที่คือที่ จ.แม่ฮ่องสอน และ จ.ตาก ซึ่งเราได้อพยพประชาชนออกไปแล้วเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่เกี่ยวข้องต่อเนื่อง คือ คลื่นลม ถ้าประเมินแล้วพบว่าคลื่นลมจะก่ออันตราย ผู้ว่าฯ ต้องแจ้งเตือนไม่ให้เรือออกทะเล และประสานกองบัญชาการทัพเรือภาคให้แจ้งเรือที่อยู่ข้างนอกกลับเข้าฝั่ง