รองนายกฯ ให้ความมั่นใจญี่ปุ่น บริหารเดินตามกรอบ ขออย่าให้นักลงทุนหวั่นไหวไทยจะดีขึ้น ไม่สนเสียงวิจารณ์ “ประยุทธ์” ไม่เหมาะคุม ครม.เศรษฐกิจ ย้อนฝ่ายค้าน งบฯ ยังไม่เข้าก็จ้องซักฟอก จี้คิดถึงประโยชน์ชาติ “กอบศักดิ์” เผยญี่ปุ่นมั่นใจไทยเพิ่ม
วันนี้ (5 ส.ค.) เวลา 08.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายชินจิ ทาคาโนะ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ เข้าพบและหารือว่า ได้ให้ความมั่นใจแก่ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ ไปว่าแม้เราจะเป็นรัฐบาลผสม แต่การบริหารงานนั้น เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยรัฐบาลได้ตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ ที่ให้ทุกอย่างเดินตามกรอบอย่างมีพลัง ทั้งนี้ อารมณ์ความรู้สึกของนักลงทุนชาวญี่ปุ่นในช่วงครึ่งปีแรกนั้นค่อนข้างอ่อนไหวเนื่องจากมีสงครามด้านเศรษฐกิจซึ่งมีผลต่อการผลิตและส่งออก รวมถึงค่าเงินบาทที่ค่อนข้างแข็ง และการเมืองของไทยซึ่งยังไม่ค่อยชัดเจนในช่วงครึ่งปีแรก จึงทำให้นักธุรกิจญี่ปุ่นวิตกกังวล แต่นักธุรกิจญี่ปุ่นมองว่าในครึ่งปีหลังนี้ทุกอย่างจะดีขึ้น ดังนั้น เราจึงต้องร่วมมือกันประคับประคองประเทศ อย่าให้นักลงทุนรู้สึกหวั่นไหว ต้องแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพราะประเทศไทยจะดีขึ้นได้นั้นอยู่ที่พวกเราทุกคน ที่จะร่วมกันรับผิดชอบ
เมื่อถามถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มองว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่เหมาะที่จะนั่งเป็นประธาน ครม.เศรษฐกิจ นายสมคิดกล่าวว่า ใครที่วิจารณ์ ฝ่ายค้านวิจารณ์ก็เป็นเรื่องของเขา แต่ส่วนตัวมองว่าไม่มีอะไรจะเดินหน้าไปได้หากนายกรัฐมนตรีไม่ให้การสนับสนุน ดังนั้น เมื่อนายกรัฐมนตรีให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทุกอย่างจึงควรจะเดินหน้าไปด้วยดี
เมื่อถามอีกว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลก่อนที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณปี 2563 จะเข้าสภาฯ โดยหยิบยกกรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วน ขึ้นมาเป็นประเด็นอภิปราย รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า งบประมาณยังไม่เข้าเลย จะอภิปรายไม่ไว้วางใจกันเสียแล้ว อยากให้ทุกคนคิดและทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อเมืองไทย
ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวว่า นายชินจิ ทาคาโนะ ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ อยากให้รัฐบาลขับเคลื่อนนโยบายต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่อง ไทยแลนด์ 4.0 เขตเศรษฐกิจพิเศษ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และอยากให้กระตุ้นนโยบายเศรษฐกิจ รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุน โดยรัฐบาลไทยยืนยันว่าจะเดินหน้านโยบาย ตามที่ได้ดำเนินการมาแล้ว นอกจากนี้ยังได้เชิญนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเรากำลังหาวันเวลาที่เหมาะสม เพื่อถือโอกาสจัดเสวนาการลงทุนในประเทศไทย และในอินโดจีนทั้งหมดและจะถือโอกาสพบกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น รวมถึงบริษัทใหญ่ๆในญี่ปุ่นด้วย
นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ประธานหอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ ยังเปิดเผยแบบสำรวจความมั่นใจของนักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยซึ่ง ทำมาต่อเนื่อง 50 ปีแล้ว โดยเขาเองจากแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 สิงหาคมนี้ แต่เบื้องต้นได้รับการเปิดเผยว่า นักลงทุนญี่ปุ่นมองครึ่งหลังของปีนี้ว่าจะดีขึ้น ซึ่งจะมีความมั่นใจต่อประเทศไทยมากขึ้น เพราะที่ผ่านมานักลงทุนญี่ปุ่นมีความกังวลใจ 3 เรื่อง 1. การแข็งตัวของเงินบาท 2. การชะลอตัวของประเทศจีน 3. สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ