xs
xsm
sm
md
lg

วันที่เพื่อไทยไร้ดาวดัง"นายแม้ว"หมดหวังพังทลาย !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ทักษิณ ชินวัตร อุตตม สาวนายน
เมืองไทย 360 องศา





แม้ว่าในแทบทุกเรื่องหากคิดทำการใหญ่อะไรสักอย่างก็ต้องติดตามกันยาวๆ จะมาสรุปกันเพียงชั่วครั้งชัาวคราวหรือในช่วงเริ่มต้นคงไม่ได้ ซึ่งในทางการเมืองก็เช่นเดียวกันต้องมองกันนานๆ แต่ถึงอย่างไรทุกอย่างมันก็ย่อมมีแนวโน้มออกมาให้เห็นว่าหนทางข้างหน้าจะไปในทิศทางใดกันแน่

ในทางการเมืองหากเปรียบเทียบเส้นทางข้างหน้าระหว่างพรรคฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล ว่าฝ่ายไหนจะพอมีอนาคตมากกว่ากัน โดยสิ่งที่เชื่อว่าหลายคนพอมองเห็นออกมาได้บ้างแล้วระหว่างการอภิปรายนโยบายรัฐบาลในช่วงวันที่ 25-27 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่าพอมองเห็นอนาคตกันได้ไม่ยาก

สำหรับฝ่ายรัฐบาลนั้นแน่นอนว่าต้องมองไปที่พรรคพลังประชารัฐที่เป็นพรรคแกนนำรัฐบาลรวมไปถึงบุคคลที่พรรคสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เดิมเคยถูกปรามาสเอาไว้ล่วงหน้าว่างานนี้"เผด็จการ"รายนี้ต้องถูกจับขึงพืดกลางสภาให้บรรดาพวก ส.ส.ฝ่ายค้านได้เถือหนังกันตามใจชอบแน่ อีกทั้งเมื่อปรากฏตามรายงานข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐได้เตรียม ส.ส.เอาไว้สำหรับตอบโต้ฝ่ายค้านเอาไว้จำนวนถึง 20 คนเรียกว่าเป็น"องครักษ์"พิทักษ์นายกฯกันเลยทีเดียว

ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากบรรดาความเคลื่อนไหวหรือคำขู่ของพวกฝ่ายค้านทำนองว่าได้เตรียมขุนพลเอาไว้อย่างเต็มที่ รวมทั้งข้อมูลที่จะอภิปรายเชือด ทั้งในเรื่องคุณสมบัติของนายกฯ และยังพ่วงเอาเรื่องราวในอดีตที่ขุดกันขึ้นมาใหม่เกี่ยวกับแบ็กกราวด์ของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ อุตตม สาวนายน ที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับคดีเงินกู้ธนาคารกรุงไทยเพื่อดิสเครดิต โดยมีการนำร่องมาเป็นระยะก่อนถึงวันอภิปราย

แต่พอเอาเข้าจริงเมื่อถึงวันอภิปรายกลับกลายเป็นว่าบรรยากาศการอภิปรายเป็นอย่างจืดชีด และเป็นแบบ"โบราณ"ย้อนยุค ที่ส่วนใหญ่ไม่ใช่ลักษณะของการอภิปรายนโยบายรัฐบาลที่ต้องติติง เสนอแนะ แต่กลายเป็นคนละเรื่องออกไปทางการอภิปรายซักฟอกรัฐบาลที่ออกนอกเรื่องนอกกรอบ อีกทั้งเนื้อหาก็ไม่มีความหนักแน่นพอ

ที่สำคัญในตอนแรกที่ทำขึงขังหวังเชือด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เละคาสภา ผลก็กลับตาลปัตร เพราะถูกตอบโต้แบบยืนแลกหมัดได้ตลอดเวลา แบบตอบทุกเม็ดแบบไม่ต้องใช้ตัวแสดงแทนเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าอาจดูแล้วยังไม่เคยชินกับสถานที่เพราะเป็นครั้งแรก แต่ก็ถือว่าทำได้ดีเกินคาดหมาย

ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่งหากพิจารณาในมุมของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งก็ต้องโฟกัสไปที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคแกนนำ กลับกลายเป็นว่าทำผลงานออกมาได้"น่าผิดหวัง" ไม่สมราคาคุย กลายเป็นว่าหากเปรียบเทียบกันแล้วบทบาทนำน่าจะตกไปอยู่กับพรรคขนาดรองอย่างพรรคอนาคตใหม่เสียอีก ทั้งที่ ส.ส.ทั้งหมดล้วนเป็นหน้าใหม่ทั้งสิ้น เพียงแค่นี้ในความรู้สึกลึกๆแล้วก็ต้องรับรู้กันภายในแล้วว่ามัน"เสียหน้า"เสียฟอร์มจนไม่อยากจะกล่าวกันแล้ว

แน่นอนว่าหากพิจารณาจากแบ็กกราวด์สำหรับพรรคเพื่อไทยที่ถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่มีอายุไม่น้อย หากนับเนื่องต่อกันมาตั้งแต่ยุคสมัยในชื่อพรรคไทยรักไทย โดย ทักษิณ ชินวัตร และมาจนถึงวันนี้เขาก็ยังเป็นเงาครอบงำอยู่ตลอดเวลา หากพิจารณาแบบนี้ถือว่า"เขี้ยว"ไม่เบา แต่เมื่อผลงานออกมาผิดคาด ส.ส.ที่ถูกวางตัวเอาไว้ล้วนไม่น่าจดจำ ไม่มีแก่นสาร มีแต่การเสนอหน้าประท้วงแบบน่ารำคาญซึ่งน่าจะหมดยุคไปได้แล้ว เพราะชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์

ปรากฏการณ์ของพรรคเพื่อไทยที่เกิดขึ้นในวันนี้สาเหตุแม้จะมีหลายประการ แต่ส่วนสำคัญน่าจะเป็นเพราะไม่มีการปรับตัวเข้ากับยุคสมัย ยังยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ หรือในกรณีที่พยายามขุดคุ้ยเรื่องเงินกู้ธนาคารกรุงไทยเพื่อดิสเครดิต อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีคลังคนใหม่ ก็ถูกมองว่าเป็น"ความแค้น"ฝังใจที่ "นายใหญ่" คือ ทักษิณ ชินวัตร และลูกชาย กำลังถูกดำเนินคดีอยู่หรือเปล่า

หลายคนอาจมองว่าที่เป็นแบบนี้อาจเป็นพรรคสมาชิกพรรคระดับบิ๊กเนมหลายคนไม่ได้เข้าสภาก็อาจไม่จริงก็ได้ เนื่องจากหากพิจารณาเรียงตัวสมาชิกหรืออดีต ส.ส.พวกนี้อาจน่าสนใจในยุคหนึ่ง แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปคนพวกนี้อาจตกยุคไปแล้วก็ได้

ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากบทบาทอันน่าผิดหวัง ผิดยุคของพรรคเพื่อไทยในช่วงอภิปรายนโยบายรัฐบาล มันอดเป็นห่วงถึงแนวโน้มในอนาคตว่าน่าจะออกมาในทางถดถอย ซึ่งนั่นเท่ากับส่งผลกระทบไปถึง ทักษิณ ชินวัตร โดยตรงอีกด้วย เพราะมันแยกกันไม่ออก ที่สำคัญมันย่อมส่งผลสะเทือนในทางการเมืองในสนามเลือกตั้งในอนาคตที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว !!


กำลังโหลดความคิดเห็น