xs
xsm
sm
md
lg

“ลุงป้อม” ได้ฤกษ์ให้ตัวแทนนำเครื่องมังสวิรัติไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำเนียบ นิมิตดีพระอาทิตย์ทรงกลด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“บิ๊กป้อม” ถือฤกษ์สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯ มอบตัวแทนนำเครื่องเซ่นมังสวิรัติ-พานบายศรีสิริมงคล คืนสู่เหย้า ฮือฮาพระอาทิตย์ทรงกลดไม่เต็มดวง เชื่อเป็นนิมิตหมายที่ดี

วันนี้ (23 ก.ค.)เวลา 07.49 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าปฎิบัติหน้าที่ ที่ทำเนียบรัฐบาลและถือโอกาสสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯ อย่างเป็นทางการหลังรับตำแหน่ง โดยเมื่อเวลา 08.19 น. พล.อ.ประวิตร ได้ไหว้และบูชาพระพุทธรูปที่ห้องทำงาน เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะมอบหมายให้ พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ผู้ทรงคุณวุฒิ ประจำสำนักงานเลขาธิการนายกฯ ขึ้นสักการะท้าวมหาพรหม ที่ประดิษฐานอยู่บนตึกไทยคู่ฟ้าแทน โดยบูชาด้วยดอกดาวเรือง เนย และนมตามประเพณี ซึ่งการมอบหมายทั้งนี้ เนื่องจาก พล.อ.ประวิตรมีสุขภาพไม่แข็งแรง ไม่สามารถที่จะเดินขึ้นไปบนหลังคาตึกไทยคู่ฟ้าได้

จากนั้น พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ ได้สักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ซึ่งระหว่างนั้น ได้เกิดปรากฏการพระอาทิตย์ทรงกลดไม่เต็มดวงขึ้น ซึ่งในทางโหราศาสตร์แล้ว การเกิดพระอาทิตย์ทรงกลด ถือเป็นนิมิตหมายแห่งการเริ่มต้นใหม่ที่ดี เนื่องจากพระอาทิตย์นั้นทางโหราศาสตร์หมายถึงผู้นำ ซึ่งในทางการเมืองอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงของผู้นำในทางที่ดี อีกนัยหนึ่งหมายถึงการรับรู้ของเทพยดาเมื่อมีพิธีกรรมต่างๆ เกิดขึ้น

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า การสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่และศาลตาศาลยายของพล.อ.ประวิตรในครั้งนี้ ใช้เครื่องบูชาเป็นอาหารเครื่องสังเวยประเภทเครื่องสังเวยมังสวิรัติ ไม่ใช่เครื่องสังเวยคาวหวาน เหมือนรองนายกรัฐมนตรีคนอื่น ที่ประกอบด้วย น้ำชา ขนมถ้วยฟู ขนมต้มแดง ขนมต้มขาว และผลไม้ 5 ชนิด 5 อย่าง อาทิ ขนุน มะพร้าวอ่อน กล้วยน้ำว้า สับปะรด แก้วมังกร ขนมถั่วงา เผือกต้ม มันต้ม ฟักทอง น้ำเปล่า และน้ำอัดลม อย่างไรก็ตาม ยังมีการเพิ่มพานบายศรี ซึ่งเป็นเครื่องบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง ถือเป็นการเรียกขวัญ สู่ขวัญการกลับคืนสู่บ้าน โดยตามความเชื่อการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะท้าวมหาพรหมและศาลพระภูมิเจ้าที่นั้น นอกจากเป็นการแสดงถึงความเคารพแล้วยังเชื่อว่าจะช่วยดลบันดาลสิ่งมงคลให้บังเกิดขึ้นอีกด้วย
ภาพจากเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam
ภาพจากเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam
ภาพจากเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam


กำลังโหลดความคิดเห็น