xs
xsm
sm
md
lg

“หมอระวี” ดักบิ๊ก ปณท.ชี้แจงพัดฉาวไม่พอ จี้ รมต.สอบจริงจัง สะท้อนทุจริตชัดเจน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


หน.พลังธรรมใหม่ ย้อนบิ๊ก ปณท.ชี้แจงจัดซื้อพัดลมฉาวไม่พอ จี้แสดงความรับผิดชอบ รมต.ต้องมีการตรวจสอบจริงจัง อย่าให้สอบกันเอง ชี้สะท้อนทุจริตชัดเจน ปลุก จนท.รัฐช่วยกันตรวจสอบหน่วยงานตัวเอง

วันนี้ (15 ก.ค.) นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวถึงกรณีที่ทำการไปรษณีย์คูคต จ.ปทุมธานี ติดพัดลม 30 ตัว ในห้องซึ่งเจ้าหน้าที่เพียง 2 คน โดยพัดลมดังกล่าวราคาจัดซื้อสูงถึงตัวละ 6,000 บาท ขณะที่ราคากลางอยู่ที่ตัวละ 2,000 บาท ซึ่งนางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ออกมาชี้แจงว่าคำนวณผิดพลาดและแก้ไขลดจำนวนลงเหลือ 12 ตัว และมีการตั้งกรรมการสอบแล้วว่า แค่คำชี้แจงดังกล่าวยังไม่เพียงพอ เพราะมีลักษณะปกป้องการทุจริตครั้งนี้ จึงเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และเห็นว่ารัฐมนตรีที่รับผิดชอบหน่วยงานดังกล่าวต้องดำเนินการตรวจสอบอย่างจริงจัง รวมทั้ง ป.ป.ท.ควรเข้ามาดูแลด้วย หากยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จะนำเรื่องนี้ตั้งกระทู้สดถามรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป

นพ.ระวีกล่าวว่า กรณีดังกล่าวสะท้อนถึงการทุจริตที่ชัดเจน ทั้งเรื่องวงเงินการจัดซื้อที่แพงเกินกว่าราคากลางถึง 3 เท่าตัว และยังมีปริมาณที่มากกว่าความต้องการที่แท้จริง จะชี้แจงเพียงแค่ว่าคำนวณผิดพลาดไม่ได้ เพราะก่อนที่จะขออนุมัติงบประมาณจะต้องมีการคำนวณแล้วว่าห้องขนาด 60 ตารางเมตร ควรจะต้องใช้พัดลมจำนวนเท่าใดจึงจะมีความเหมาะสม ที่น่าสงสัยคือราคาจัดซื้อที่แพงกว่าราคากลางถึง 3 เท่าตัว ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างได้อย่างไร จะต้องมีการตรวจสอบคณะกรรมการทั้งชุด รวมถึงคณะกรรมการตรวจรับงานที่ต้องเห็นชัดเจนอยู่แล้วว่าพื้นที่ 60 ตารางเมตร กับพัดลม 30 ตัวมีปริมาณมากเกินไป โดยเรื่องนี้ไม่ควรปล่อยให้ไปรษณีย์ไทยตรวจสอบกันเอง รวมถึงการก่อสร้างตู้ไปรษณีย์ขนาดยักษ์ที่หน้าสำนักงานใหญ่ ที่มีความสูงกว่า 14 เมตร มูลค่าการก่อสร้างกว่า 7 ล้านบาท ว่ามีความคุ้มค่าหรือไม่ และราคาแพงเกินจริงหรือเปล่า

นพ.ระวียังกล่าวขอบคุณสหภาพแรงงานไปรษณีย์ไทยที่ออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ต่อสาธารณะจนนำไปสู่การตรวจสอบ พร้อมเรียกร้องให้ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐในทุกหน่วยงานช่วยกันตรวจสอบ หากพบความผิดปกติเกี่ยวกับการใช้จ่ายงบประมาณ ควรแจ้งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีการดำเนินการตรวจสอบ และฟ้องประชาชนเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะเมื่อเรื่องอยู่ในกระแสความสนใจของสังคมก็จะได้รับการแก้ไขที่รวดเร็วขึ้น



กำลังโหลดความคิดเห็น