ทีม กม.ปชป.แบ่ง 2 กลุ่ม 7 ส.ส. ถือครองหุ้น-โอนหุ้นก่อนสมัคร ส.ส.และยังถือหุ้นในปัจจุบัน เชื่อไม่กระทบ คนไปเป็น รมต.
วันนี้ (2 ก.ค) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าทนายความ กล่าวถึงการเรียก ส.ส.ที่ถูกกล่าวหาคดีถือครองหุ้นสื่อมวลชน มาหารือรายบุคคล โดยวันนี้เรียก ส.ส.สุราษฎร์ธานี 3 คน คือ นายสมชาติ ประดิษฐพร น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ และ นายภานุ ศรีบุศยกาญจน์ มาให้ข้อมูล เนื่องจากแต่ละบริษัทมีข้อมูลที่แตกต่างกัน จึงมีการแยกสำนวนรายคนให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา แต่ขณะนี้ยังต้องรอศาลรัฐธรรมนูญส่งสำเนาคำร้องมาให้ผู้ถูกร้องทั้ง 7 คนก่อน เพื่อดูรายละเอียดการฟ้องร้องในคดีว่ามีประเด็นใดบ้าง จากนั้นศาลจะสั่งให้ทำคำชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับจากวันได้รับสำเนาคำร้อง
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ในฐานะทีมกฎหมายไม่รู้สึกกังวลใดๆ เพราะ ส.ส.ทั้งหมดยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่ได้ประกอบกิจการเกี่ยวกับสื่อสารมวลชน ทั้งนี้ หากดูในรายละเอียดแล้ว พบว่า 7 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกกล่าวหาว่าถือหุ้นสื่อมวลชน สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ ส.ส. 4 คน ที่ยังถือหุ้นบริษัทในปัจจุบันอยู่ กับ ส.ส. 3 คน ที่โอนหุ้นในบริษัทที่ถูกกล่าวหาไปก่อนลงสมัครรับเลือกตั้งแล้ว ซึ่งข้อมูลที่พรรคอนาคตใหม่ยืนตรวจสอบอาจใช้ข้อมูลที่ไม่อัปเดต
อย่างไรก็ตาม ทีมกฎหมายของพรรคเตรียมข้อต่อสู้คดีไว้ 7 ถึง 8 ประเด็น เช่น วัตถุประสงค์ของบริษัทแต่ละแห่งจัดทำขึ้นเพื่อกิจการสื่อสารมวลชนจริงหรือไม่ บริษัทมีรายได้จากการทำสื่อสารมวลชนจริงหรือไม่ การเสียภาษีมีการระบุที่มาการคำนวณเงินจากที่มาใดบ้าง มีที่มาจากกิจการสื่อสารมวลชนหรือไม่ รวมถึงจะตรวจสอบข้อมูลว่า ส.ส.แต่ละคนเคยจดทะเบียนเพื่อประกอบกิจการสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ หรือไม่ แนบท้ายเอกสารที่จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญด้วย ซึ่งการต่อสู้คดีขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพิสูจน์ความจริง เชื่อว่าจะไม่กระทบกับ ส.ส.ที่จะไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรค