xs
xsm
sm
md
lg

“ปิยบุตร” หวังศาล รธน.ใช้มาตรฐานเหมือน “ธนาธร” รับคำร้อง 41 ส.ส.ถือหุ้นสื่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เลขาฯ อนาคตใหม่ หวังศาลรัฐธรรมนูญใช้มาตรฐานเท่าเทียมเหมือน “ธนาธร” ปม 41 ส.ส.ถือหุ้นสื่อ โอ่ยื่นฟันหลักฐานแน่น รอดูสัปดาห์นี้รับคำร้องหรือไม่ ยันพร้อมยื่นเอกสารแจง เมินฟากรัฐยื่นสอบบ้าง ชี้ก็เป็นสิทธิ์

วันนี้ (25 มิ.ย.) ที่พรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาให้ความเห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งให้ 41 ส.ส.ของรัฐบาลที่ถูกร้องถือหุ้นกิจการสื่อมวลชนหยุดทำงานชั่วคราวหรือไม่ ก็อยู่ที่ว่าถ้าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้วจะเสียหายอย่างไร ว่า จริงๆ ความเห็นของนายวิษณุ ก็ถูกต้อง วิธีการประเมินการใช้ดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะสั่งให้ ส.ส.ปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น ก็ดูว่าหากปล่อยให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จะเกิดการกระทบกระเทือนเสียหายจนยากต่อการเยียวยาในภายหลังหรือไม่ ทีนี้ปัญหามันอยู่ตรงที่กรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่มีมติศาลรัฐธรรมนูญสั่งระงับการปฏิบัติหน้าที่ถูกระบุไว้ว่า หากให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจะต้องเข้าไปประชุมสภาผู้แทนราษฎรในเรื่องสำคัญ และอาจจะมีการโต้แย้งในทางกฎหมายต่อไป ทีนี้นายธนาธร 1 คน ศาล รธน.ยังบอกว่าเสียหาย ถ้าหากให้ทำหน้าที่ต่อ แล้ว ส.ส. 41 คน ถ้าปล่อยให้ทำหน้าที่ต่อไปจะเสียหายหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ก็อยู่ที่ดุลพินิจของศาล รธน.

“ไม่ใช่พอบอกว่า 1 คนเสียหาย พอ 41 คนบอกว่ามีความจำเป็นต้องให้เข้าไปทำหน้าที่ ส.ส.ไม่งั้นเดี๋ยวโหวตกฎหมายงบประมาณไม่ผ่าน ไหนๆ ก็เดินทางมาถึงตอนนี้แล้ว ก็อยากจะให้มาตรฐานในการใช้ดุลพินิจเหล่านี้เท่าเทียมกัน” นายปิยบุตร กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่ศาล รธน.ไม่อนุญาตขยายเวลาให้นายธนาธร ไปอีก 15 วัน ตามที่ร้องขอ นายปิยบุตร กล่าวว่า เราก็เคารพดุลพินิจของศาล รธน. ก็เป็นอันว่าเรามีเวลาอีกจนถึง 8 ก.ค.ซึ่งทาง นายธนาธร และทีมกฎหมายก็พร้อม เตรียมจะยื่นเอกสารต่างๆ ต่อไป ซึ่งตามกระบวนการหลังจากวันที่ 8 ก.ค.ศาล รธน.จะพิจารณาว่าจะอนุญาตให้เรียกพยานบุคคลเข้ามาสืบหรือไม่ แต่ตนให้ข้อสังเกตตอนกรณีของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็มีโอกาสได้เลื่อน ตนก็ดูกรณีของนายดอน เป็นหลักในการใช้ยื่นคำร้องขอเลื่อน ซึ่งถ้าศาล รธน.ไม่ให้เลื่อนก็เคารพ

เมื่อถามว่า นายธนาธร ได้เสนอพยานบุคคลเข้าไปชี้แจงด้วยหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้เสนอเข้าไป

เมื่อถามว่า หากศาล รธน.พิจารณากรณี 41 ส.ส.โดยมีแนวทางให้พยานหลักฐานเพิ่มหรือรวบรวมคำร้องมาใหม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า อยากให้ลองไปดูคำร้องที่ ส.ส.ของพรรคได้ยื่นไปแล้วไปเปรียบเทียบกับคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ร้องต่อศาล รธน.ในเรื่องของนายธนาธร จะเห็นได้เลยว่าของใครมีหลักฐานหนาแน่นกว่ากัน โดย ส.ส.ที่ทางพรรคได้ยื่นนั้นได้ตรวจสอบแล้วว่ายังถือหุ้นสื่อมวลชนอยู่จริง ขณะที่ก็มี ส.ส.อีกหลายคนไม่ได้ยื่นไป เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ เช่น บริษัทเลิกกิจการแล้ว ซึ่งต่างกับกรณีที่มีการไปร้องเรียน ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ทั้งๆ ที่บริษัทของเขาปิดกิจการไปแล้ว

ส่วนที่ 41 ส.ส.ออกมาระบุว่า ศาล รธน.ก็ต้องให้โอกาสในการชี้แจงก่อน เพราะเป็นคนละเรื่องกับนายธนาธร นั้น เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การรับคำร้องเป็นคนละขั้นตอนกับการตัดสิน ศาล รธน.รับคำร้องเสร็จ กว่าจะวินิจฉัยว่าผิดหรือไม่ก็ยังมีเวลาอีก ดังนั้น การรับคำร้องไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไต่สวน หรือเรียกผู้ถูกร้องมาชี้แจง ถึงเวลาเมื่อเปิดการพิจารณา ศาล รธน.ก็ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องมาชี้แจงอยู่ดี เหมือนกรณีของนายธนาธร ในตอนนี้

“บรรทัดฐานกรณีนี้เกิดขึ้นมาจากศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งมีคำพิพากษาหลายครั้งที่ตัดสิทธิ์ผู้สมัคร ส.ส.ซึ่งพรรคโดนไป 1 คน จริงๆ เขาไม่ได้ประกอบกิจการสื่อ แต่หนังสือบริคณห์สนธิแสดงวัตถุประสงค์มีวงเล็บข้อนึงเกี่ยวกับเรื่องสื่อยังโดนตัดสิทธิ์เลย ดังนั้น ก็เป็นบรรทัดฐานในกฎหมายไทยเรียบร้อย เราก็ใช้เกณฑ์ตามนี้ ถ้าจะใช้มาตรฐานเดียวกันก็เอาให้เหมือนกันหมด”

นายปิยบุตร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ก็ต้องรอดูทางศาล รธน.ในวันที่ 26-27 มิ.ย.นี้ ว่า จะรับคำร้องดังกล่าวหรือไม่

เมื่อถามว่า กรณีที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล และ ส.ว.จะมีการยื่นคำร้องต่อศาล รธน.เพิ่มเติมในประเด็นที่มี ส.ส.ฝ่ายค้านถือหุ้นสื่อมองว่าเป็นการแก้เกมหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ตนเรียกร้องเพียงการใช้กฏหมายครั้งนี้ ขอให้ได้มาตรฐานที่เท่าเทียมกัน ไม่ใช่เลือกปฏิบัติหรือดูหน้าคน







กำลังโหลดความคิดเห็น