ไลค์ฟาเธอร์ ไลค์ดอห์เตอร์ ถึงบางอ้อนิสัย “ช่อ” มาจากไหน “ภาพ #อีช่อเหยียดฟ้า” งานเข้า ตร.ตั้งทีมสอบแล้ว ** ปม ส.ว.สรรหา ส่อเค้าวุ่น ตรวจไม่พบว่ามีคำสั่งหัวหน้า คสช.แต่งตั้งกรรมการสรรหา ส.ว.ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา

ข่าวปนคน คนปนข่าว



**ไลค์ฟาเธอร์ ไลค์ดอห์เตอร์ ถึงบางอ้อนิสัย "ช่อ" มาจากไหน "ภาพ #อีช่อเหยียดฟ้า' งานเข้า ตร. ตั้งทีมสอบแล้ว ซ้ำศิษย์เก่าเขมะสิริฯ รับไม่ได้ บอกน่าอับอายอย่างยิ่งที่มีชื่อผู้หญิงคนนี้อยู่ในทำเนียบศิษย์เก่า

"ภาพที่ไม่ต้องมีคำบรรยาย" ของ "ช่อ" พรรณิการ์ พานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ต้องบรรยายซ้ำอีกทีว่า เป็นภาพที่คนไทยที่รักสถาบันได้เห็นแล้ว "ของขึ้น" กันทุกคน... "ช่อ" จะอธิยายตามหลังว่าเป็น "ความเกลียดชัง" ของฝ่ายตรงข้าม เป็น IO เผด็จการก็ดี หรือ พยายามเบี่ยงเบนให้ตัวเองเป็น "เหยื่อ" ถูกแม่มดล่า ด่าทอสลิ่ม ให้สาวกส้มหวาน ปั่นแฮชแท็ก #Savepannika แต่ภาพที่ว่า เป็นอะไรที่ "สำเร็จ" แล้ว

ความจริงก็คือความจริง หากแต่ "ช่อ" จะรับความจริงได้แค่ไหน เครือข่ายสังคมออนไลน์ ประณามกันไม่หยุด แถมยังขุดถึงรากให้ถึงโคนกันเลยทีเดียว ว่า ไอ้นิสัยแบบช่อ ที่ "ดร.เสรี วงษ์มณฑา" ครูบาอาจารย์ในวงการสื่อสาร ยังโพสต์ใช้คำไทยตรงๆ ว่า "เลว"

นิสัย "ช่อ" เหมือนใคร เพจเฟซบุ๊ก P.khondee (พี่คนดี กวีสมัครเล่น) ที่โพสต์ร่ายกลอนฝาก ถึง "ช่อ" ไขข้องใจแบบเห็นภาพ ขอยกมาบางส่วนดังนี้

“คนอื่นใช้ สถาบัน มาใส่ไคล้
พร่ำพูดไป แต่ในใจ ย่อมรู้อยู่
ที่ผ่านมา ใครขยัน หมั่นเชิดชู
ใครลบหลู่ เราย่อมรู้ อยู่แก่ใจ"

สำนวนว่า "ไลค์ฟาร์เตอร์ ไลค์ดอห์เตอร์" เห็นตัวอย่างอยู่เสมอ อย่าสงสัย พ่อหล่อหลอม กล่อมเกลา แต่เยาว์วัย ที่ว่า “ใหม่”ก็ถูกเหลา โดย“เก่า”เอย"

ในโพสต์เดียวกันนี้ "พี่คนดี" ยังได้เขียนเกริ่นก่อนเข้ากลอน ว่า มีเพื่อนส่งรูป โปรไฟล์ “พ่อผู้ให้กำเนิดช่อ”มาให้ อุดมการณ์เป็นอย่างไร ก็ดูได้จากหมวก และเสื้อก็แล้วกัน ... พ่อของช่อ ยังเคยโพสต์อีกว่า “ผมมีพ่อคนเดียวนะ ห้ามไม่ให้ใครแอบอ้างเอาผมไปเป็นลูกอีก”แต่แกจะรู้ไหม ว่าตอนนี้ ลูกของแกอาจจะมี พ่อสองคนเหมือนกัน คือ ตัวแกหนึ่ง และพ่อที่นางแชร์ กับบรรดาน้องฟ้าอีกหนึ่ง

ตอนแรกเห็นพฤติกรรมของ "คุณช่อ" อาจนึกว่าเป็นพวกชอบแหกกฎ แต่เข้าใจผิดไปถนัด คุณช่อคงได้รับการหล่อหลอม มาอย่างดี จากพ่อของเธอ คล้ายๆ กับกรณีคุณ “วิญญาณจร”นั่นแหละ และเชื่อว่าคงเป็นเหมือนกัน กับอีกหลายคน ที่เรายังไม่รู้จักตัวตนของพ่อแม่ของพวกเขา

ส่วนหนึ่งคงได้ จากพ่อ แต่ส่วนหนึ่งก็มาจากตัวเองนั่นแหละ พี่คนดี สรุป

ทีนี้ในส่วน "ช่อ" นอกจากเคลื่อนไหวจำกัดคนเจ้าถึงเฟซบุ๊ก เพื่อป้องกันการ "ส่อง" และปั่น "อุปทานหมู่" ติดแฮชแท็ก #Saveตัวเองตามมุกถนัด ของพรรคอนาคตใหม่ มีทวีตสั้นๆ ขอบคุณผู้สนับสนุน

“ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมา ทั้งหน้าไมค์ หลังไมค์ และทุกคนที่ติด #Savepannika เราจะเดินไปด้วยกันเสมอค่ะ”

ไม่ว่าจะอย่างไร เรื่องนี้ถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้ว "พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย" ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) บอกว่า กรณีของ"ช่อ" พรรณิการ์ โพสต์รูปสวมชุดครุยมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และมีท่าทางในลักษณะที่ไม่เหมาะสม ได้สั่งการไปยัง 3 หน่วยงาน ได้แก่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ให้ตรวจสอบ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ของ น.ส.พรรณิการ์ ว่าเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือไม่

ขณะเดียวกัน ให้สำนักงานกฎหมายและคดี (กมค.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบในกรณีดังกล่าว เข้าข่ายความผิดอาญาฐานใดหรือไม่ และ มอบหมายให้ "พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช" ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) ดำเนินการตรวจสอบในกรณีดังกล่าว ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับ"ความมั่นคง" หรือไม่ อย่างไร

อุปทานหมู่ #Savepannika #SaveEcho จะไหวมั้ยเดี๋ยวก็รู้ !!

ขณะที่ศิษย์เก่าโรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ ได้ออกมาประณามการกระทำของ "ช่อ" โดยระบุว่า "ในนามศิษย์เขมะสิริอนุสสรณ์ ขอประณามการกระทำของ"น.ส.พรรณิการ์ วานิช" ที่ทุกคนในโลกโซเชียลฯ กำลังกล่าวถึง นับเป็นความอัปยศอดสู น่าอัยอายเป็นอย่างยิ่ง ที่มีขื่อผู้หญิงคนนี้อยู่ในทำเนียบศิษย์เก่าเขมะสิริฯ !!!

พวกเราชาวเขมะสิริฯ ทุกคน เคารพเทิดทูนสถาบันหลัก ของชาติ ทั้ง 3 สถาบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะโรงเรียนแห่งนี้สร้างขึ้นได้โดยเงินพระราชทานส่วนหนึ่งของ "ทูลกระหม่อมมหิดล" สมเด็จพระชนกในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 !! ทั้งท่านชาย และท่านหญิง ผู้ทรงก่อตั้งโรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ ทรงได้รับเงินทุนพระราชทาน จากทูลกระหม่อมมหิดล (พระยศในครั้งนั้น) ให้ไปเรียนต่อยังต่างประเทศ และกลับมาสร้างโรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ แห่งนี้ขึ้น ....

ชาวเขมะสิริฯ ไม่ขอนับว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียน เพราะการกระทำ และพฤติกรรม ตลอดจนความคิดของผู้หญิงคนนี้ เป็นสิ่งที่พวกเราชาวเขมะสิริฯ ไม่เคยมีอยู่ในจิตใต้สำนึกของพวกเราทุกคน !!!

งานนี้ "อีช่อ" ทำอะไรย่อมรู้อยู่แก่ใจ.

** ปม ส.ว.สรรหา ส่อเค้าจะวุ่น เมื่อตรวจไม่พบว่ามีคำสั่งหัวหน้าคสช. เรื่องการแต่งตั้งกรรมการสรรหา ส.ว. ที่ "บิ๊กป้อม" เป็นประธาน ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา แล้ว ส.ว. สรรหา ที่ประกาศออกมานั้น จะชอบด้วยกฎหมายหรือไม่... เมื่อ ส.ว.ออกเสียงเลือก "ลุงตู่" เป็นนายกฯ ไปแล้ว จะมีผลอะไรหรือไม่กับตำแหน่งนายกฯ ...หรือว่าเป็น”แผนสำรอง” ท่านรองนายกฯวิษณุ ช่วยให้ความกระจ่างด้วย

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จำนวน 250 คน ซึ่งในจำนวน 250 นั้น มีที่มาจาก 2 ส่วน คือ ประเภทที่ 1 มาจากการสมัคร และเลือกกันเองในระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ ให้เหลือ 200 คน จากนั้นส่งรายชื่อให้ คสช. คัดเหลือ 50 คน พร้อมรายชื่อสำรองอีก 50 คน ... ประเภทที่ 2 ให้ คสช.ตั้งคณะกรรมการสรรหา 9-12 คน เพื่อคัดเลือกจาก 400 รายชื่อ ที่มีการสรรหามา เพื่อเสนอให้ คสช. คัดเลือกเลือกแค่ 194 คน รวมกับอีก 6 คนที่มาโดยตำแหน่ง ได้แก่ ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมเป็น 200 คน พร้อมรายชื่อสำรองอีก 50 คน

ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ เมื่อประกาศรายชื่อ ส.ว.250 คนแล้ว มีสำรองเพียง 50 คน จึงไม่ครบตามที่กฎหมายกำหนด และไม่ทราบว่า รายชื่อสำรอง 50 คนนี้ มาจากประเภทที่ 1 หรือ ประเภทที่ 2 และเกรงว่าจะเกิดปัญหาเรื่องการขยับรายชื่อ ส.ว.ขึ้นมาแทน หากส.ว.ตัวจริงหลุดไปจากตำแหน่ง อาจจะทำให้เกิดความสับสนได้ และจะเป็นปัญหาข้อกฎหมายในอนาคตได้

"นายศรีสุวรรณ จรรยา" เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงเข้ายื่นคำร้องต่อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณา และเสนอเรื่อง พร้อมความเห็นต่อศาลปกครอง และ ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยว่า การประกาศรายชื่อ ส.ว.ดังกล่าว ขัดต่อรธน. หรือกฎหมาย หรือไม่ ... ต่อมาศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติ "ไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัย" โดยอ้างว่า คำสั่ง คสช.ที่ 1/2526 เรื่อง การแแต่งตั้งกรรมการสรรหา ส.ว. ที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ระบุในหนังสือที่ส่งไปยังศาลรธน.นั้น มิใช่เป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ตามความหมายของรัฐธรรมนูญ มาตรา 231 (1) ที่ศาลรัฐธรรมนูญ จะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยได้ จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้ พิจารณา

เมื่อศาลรธน. อ้างถึงคำสั่ง คสช.ที่ 1/2562 เรื่อง การแแต่งตั้งกรรมการสรรหา ส.ว. จึงมีผู้ไปตรวจสอบเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เพื่อดูว่า มีการตั้งใคร เป็นกรรมการสรรหา ส.ว.กันบ้าง เพราะก่อนหน้าที่จะมีการสรรหา ส.ว.นั้น "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ในฐานะ หัวหน้าคสช. ได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ตั้ง "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" เป็นประธานคณะกรรมการสรรหา ส.ว. เมื่อผู้สื่อข่าวถาม พล.อ.ประวิตร ว่า ตั้งใครเป็นกรรมการสรรหา บ้าง แต่ พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบ ได้แต่บอกว่า ให้รอประกาศรายชื่อ ส.ว.ออกมาก่อน แล้วจึงจะตอบ ว่ามีใครบ้าง ขณะที่ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ก็ไม่ตอบคำถามนี้เช่นกัน ...ส่วน"นายวิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรี ตอบเรื่องนี้ว่า เดี๋ยวเมื่อเขาประกาศรายชื่อส.ว.มาแล้ว ก็จะประกาศรายชื่อกรรมการสรรหา ตามมาเอง ขอให้ใจเย็นเย็น ... แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่า "กรรมการสรรหาส.ว." เป็นใครกันบ้าง

เมื่อได้เบาะแส จากศาลรธน. เช่นนี้ ผู้สื่อข่าวจึงไปตรวจสอบในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา กลับไม่พบคำสั่ง คสช. ที่ 1/2562 ในสารบบของข้อมูล ซึ่งปกติแล้ว จะเรียงลำดับเลขที่ คำสั่ง ตามประเภท / ชื่อเรื่อง และเล่ม เพื่อความสะดวกในการตรวจค้น และอ้างอิง ซึ่งในหน้าเพจของ เว็บไซต์ราชกิจจาฯ ระบุ ลำดับที่ 164 คำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เรื่อง แต่งตั้งผู้ปฏิบัติงานในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (จำนวน 14 ราย....) เล่ม 135 ที่ถือว่าเป็นคำสั่ง คสช. ฉบบับสุดท้ายของปี 2561

เมื่อเข้าสู่ปี 2562 เป็นลำดับที่ 165 กลายเป็นคำสั่ง คสช. ที่ 3/2562 เรื่องแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เล่ม 136 จึงเป็นเรื่องผิดปกติ ที่ในราชกิจจาฯ ไม่ลงประกาศ คำสั่ง คสช. ที่ 1/2562 ซึ่งว่าด้วยเรื่องคณะกรรมการสรรหา ส.ว. นอกจากนี้ คำสั่ง คสช.ที่ 2/2562 ก็ "ล่องหน" หายไปจากราชกิจจาฯ ด้วยเช่นกัน

ตามปกติแล้ว คำสั่ง คสช. จะต้องลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา จึงจะมีผลใช้บังคับในทางกฎหมาย เมื่อคำสั่ง คสช. ที่ 1/2562 เรื่องการแต่งตั้งกรรมการสรรหาส.ว. ที่มี "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ" เป็นประธานคณะกรรมการ ไม่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา ... แล้วการสรรหาส.ว. จะ "ถูกต้อง" เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ หรือไม่ และ ส.ว.สรรหา 200 คน ในส่วนที่ 2 ที่ได้รับการประกาศไปนั้น จะ "โมฆะ" หรือไม่ ...เมื่อ ส.ว.เหล่านี้ ไปโหวตให้ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" เป็นนายกรัฐมนตรี ไปแล้ว จะทำอย่างไร...หรือจะต้อง "เซตซีโร" ไปเริ่มต้นใหม่หมด ... หรือนี่เป็น”แผนสำรอง” เรื่องนี้คงต้องถามไปยัง "นายวิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรี ได้ช่วยให้ความกระจ่างด้วย ...