xs
xsm
sm
md
lg

หน.อนาคตใหม่ ยินดีให้ พท.ผู้นำฝ่ายค้าน เชื่อรัฐบาลประยุทธ์ 2 อยู่ไม่ครบเทอม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อนาคตใหม่ จัดงานครบรอบ 1 ปี หัวหน้าพรรคยินดีให้เพื่อไทยเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ย้ำ ส.ว.250 เสียงทำการตัดสินใจพรรคอื่นบิดเบือน เชื่อถ้าสภาวะปกติได้ตั้งรัฐบาลแน่ อ้างคนส่วนใหญ่โกรธได้ "ประยุทธ์" เป็นนายกฯ เชื่ออยู่ไม่ครบเทอม จ่อให้ ส.ส.ดันกฏหมาย ซัดพวกต่อรองเก้าอี้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ยันเดินหน้าแก้ รธน. ขู่ถ้าปฏิเสธทำการเมืองผ่านสภาเท่ากับปฏิเสธเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตยอย่างสันติ

วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ พรรคอนาคตใหม่ได้จัดงาน “1 ปีอนาคตใหม่ เดินไปด้วยกัน” (Walk with me, Talk with me) โดยมีการเปิดรับสมัครสมาชิก การจำหน่ายของที่ระลึก และการเสวนาของผู้สนับสนุนพรรค โดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนเริ่มงานว่า หลังจากนี้ฝ่ายค้านทั้งหมดก็ต้องทำงานร่วมกัน สร้างวิปฝ่ายค้านให้เข้มแข็ง ขณะที่ภายในพรรคก็ได้เตรียมไว้หลายประเด็น ที่เราอยากจะทำเป็นญัตติ หรือผลักดันเป็นกฏหมาย ซึ่งทาง ส.ส.และทีมงานฝั่งนโยบายของพรรคก็ทำงานอย่างเข้มข้นเพื่อเตรียมเรื่องพวกนี้อยู่

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอชื่อนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย เป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน นายธนาธร กล่าวว่า ก็ยินดี ในฐานะที่พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีคะแนนเสียงมากที่สุดในฝ่ายค้าน ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านก็เหมาะสมที่จะเป็นของพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามถึงการที่นายธนาธร ออกมากล่าวถูกปล้นชัยชนะ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 250 เสียงถ้าเอาออกไปฝั่งพรรคพลังประชารัฐก็ชนะอยู่ดี อันนี้ถูกต้อง แต่ต้องอย่าลืมว่าการดำรงอยู่ของ ส.ว. 250 เสียง มันบิดเบือนการตัดสินใจของพรรคการเมืองต่างๆ ไปตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า ต้องมองโลกแห่งความเป็นจริง ยังไงฝั่งต่อต้าน คสช.จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจ การที่พรรคการเมืองต่างๆ ตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้ตัดสินใจเพราะพรรคพลังประชารัฐมีเสียงมาก แต่ตัดสินใจเพราะรู้ว่าพรรคพลังประชารัฐมี ส.ว.อยู่ 250 คน และอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ มันบิดเบือนการตัดสินใจไปตั้งแต่ตรงนั้นแล้ว ตนเชื่อว่าถ้าไม่มี ส.ว. 250 เสียง การจัดตั้งรัฐบาลคงไม่ออกมาในรูปแบบนี้แน่ๆ ถ้าเป็นสภาวะปกติฝ่ายที่จัดตั้งรัฐบาลต้องเป็นฝ่ายที่ต่อต้าน คสช.แน่นอน ส่วนใครจะเป็นนายกฯ ก็ต้องดูอีกที

เมื่อถามว่า คาดหวังกับรัฐบาลใหม่หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า รัฐบาลใหม่คงจะบริหารงานลำบาก ถ้าเราดูเสียงที่ห่างกัน 4-5 เสียง ก็คงจะทำให้การผ่านกฏหมายสำคัญ เป็นไปได้อย่างยากลำบาก สิ่งที่ต้องมองมากกว่านี้ก็คือการซื้อเสียงของ ส.ส.ฝ่ายตรงข้ามเพื่อเอาไปโหวตให้กับตัวเอง ส.ส.ทุกเสียง ทุกคนจะมีค่า ก็ต้องมองดูงูเห่าไม่ได้มีแค่วันเลือกประธานรัฐสภา หรือ นายกรัฐมนตรี อย่างเดียว ก็ยังเป็นไปได้ตลอดเวลา

"ผมเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศโกรธ ไม่พอใจ ว่าเสียงของตัวเองไม่ได้รับการตอบสนอง การที่มีนายกรัฐมนตรีคนต่อไปชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้สอดคล้องกับเจตนารมย์ของประชาชนที่เลือกเข้าไป ผมคิดว่าประชาชนคงโกรธแค้น อย่าลืมว่าก่อนวันโหวตนายกฯ หลายฝ่ายบอกว่าให้เชื่อใจ ส.ว. หลายฝ่ายบอกว่า ส.ว.มีเอกสิทธิ์ อิสระที่จะตัดสินใจ มีความคิดเป็นของตัวเอง แล้วถึงวันโหวตเป็นยังไง ทุกท่านก็คงเห็นกันอยู่ ส.ว.ทั้ง 249 คน หักรองประธานรัฐสภา 1 คน ตัดสินใจไปในทางเดียวกันทั้งหมด ก็เห็นเลยว่า ส.ว.ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจของ คสช. ประชาชนก็ย่อมไม่พอใจเป็นธรรมดา” นายธนาธร กล่าว

เมื่อถามว่า ได้ประเมินหรือไม่ว่าอายุของรัฐบาลจะยาวนานเท่าไหร่ นายธนาธร กล่าวว่า ไม่ประเมินอะไร ตนคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะอยู่ไม่ครบเทอม ส่วนจะอยู่ 6 เดือน 1-2 ปี เราทำงานให้ดีที่สุด

เมื่อถามถึงการทำงานในฐานะฝ่ายค้าน นายธนาธร กล่าวว่า ก็ทำงานแบบนี้ละ ไปพบปะประชาชน เข้าไปขยายแนวคิด อุดมการณ์ และแนวนโยบายของพรรค รับฟังปัญหา อะไรอยู่ในวิสัยที่เราช่วยแก้ไขได้ เอาเรื่องนั้นฝากเข้าไปให้ ส.ส.ที่อยู่ในสภา ตั้งเป็นกระทู้ ญัตติ อะไรที่เราสามารถผลักดันให้เป็นกฏหมายได้ ก็นำเสนอโดยใช้ ส.ส.ของพรรค

ส่วนการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น นายธนาธร กล่าวว่า ตนไม่มีความเห็น มันเป็นเรื่องของนักการเมืองที่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว เมื่อไม่เอาหลักการเป็นที่ตั้ง เอาผลประโยชน์เป็นที่ตั้งไปรวมกันก็เป็นอย่างงี้ละ

เมื่อถามถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายธนาธร ระบุว่า ทำทีละก้าว การต่อสู้อีกยาว ช่วยกันผลักดันผ่านกลไกรัฐสภา ที่คือกลไกที่ศักดิ์สิทธิ์ที่หลีกเลี่ยงความรุนแรงมากที่สุด ถ้าพวกเขาปฏิเสธให้พวกเราทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ผลักดันประชาธิปไตยผ่านกลไกรัฐสภา ก็หมายความว่าพวกเขาปฏิเสธที่จะเปลี่ยนผ่านกลับสู่ประชาธิปไตยอย่างสันติ

ขณะที่ภายในงานได้มีผู้สนับสนุนพรรคเดินทางเข้าร่วมกันอย่างเนืองแน่น โดยจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค การพูดคุยกับ ส.ส.พรรคโดย น.ส.​​พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค และนายวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล พิธีกร และนักเขียน มีทอล์กโชว์โดยคนดังอาทิ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ หรือ เพชร นักแสดง และปิดท้ายด้วยการแสดงวิสัยทัศน์ของนายธนาธร ในเวลา 17.00 น.








กำลังโหลดความคิดเห็น