“จุรินทร์” เผยประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค แค่แบ่งงาน ไม่มีวาระหารือร่วมรัฐบาล ปัดถกกับเลขาฯเพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน ทุกอย่างยังไม่มีอะไรชัดเจน ระบุ “ชวน-บัญญัติ”เหมาะนั่งประมุขนิติบัญญัติได้ทั้งคู่
วันนี้ (20 พ.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ในช่วงบ่ายวันนี้ว่า ตนจะแบ่งงานให้แก่รองหัวหน้าพรรคในแต่ละภาค และเลขาธิการพรรคก็จะแบ่งงานให้กับรองเลขาธิการพรรค รวมถึงการมอบหมายงานด้านอื่นๆ ในหลายส่วน ซึ่งภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นก็จะมีการแถลงชี้แจงให้สื่อมวลชนทราบรวมถึงกลไกการบริหารจัดการพรรค เพื่อให้ก้าวไปข้างหน้า ภายใต้การบริหารงานของคณะกรรมการชุดใหม่ ขณะเดียวกันจะยังไม่มีการพูดคุยหารือถึงการร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล เพราะต้องรอให้มีการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.ของพรรคก่อน ส่วนในวันพรุ่งนี้ตัวเองได้นัดประชุม ส.ส.ในช่วงบ่ายเช่นเดียวกัน พร้อมระบุว่าไม่มีอะไร เป็นความลับเมื่อได้ผลอย่างไรก็จะชี้แจงให้สื่อมวลชนได้ทราบ
ส่วนที่ก่อนหน้านี้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค เคยระบุว่ามีคำตอบในใจแล้วว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพลังประชารัฐนั้น ส่วนตัวยังไม่ได้หารือในเรื่องดังกล่าวกับนายเฉลิมชัย หรือพูดว่าจะไปเป็นอะไรทั้งสิ้น เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีเวลา ซึ่งตัวเองขอเวลาให้พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดทัพภายในพรรคให้จบก่อน ส่วนการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.ยังไม่มีการกำหนด
นายจุรินทร์ระบุว่า ขณะนี้มีความชัดเจนว่าในวันที่ 24 พ.ค.จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา และในวันที่ 25 พ.ค.จะมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามขั้นตอน ในวันดังกล่าวก็จะยังไม่มีความชัดเจนในการตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคแต่อย่างใด ขอให้เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการ ขออย่าห่วง เมื่อถึงเวลาก็จะต้องพิจารณา ส่วนกระแสข่าวที่มีชื่อของนายบัญญัติบรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ถูกเสนอชื่อเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรก็เป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น พรรคประชาธิปัตย์มีบุคลากรที่มีศักยภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค หรือนายบัญญัติ ล้วนมีประสบการณ์ ทำหน้าที่หลายหน้าที่ได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งหมดยังไม่ได้มีการพูดคุยหรือหารืออะไรทั้งสิ้น
ส่วนปัจจัยใดบ้างจัดเป็นปัจจัยที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์ระบุว่า ต้องรอที่ประชุมพูดคุยกันว่าจะมีปัจจัยใดบ้าง สำหรับพรรคประชาธิปัตย์มีอุดมการณ์พรรค ว่าต้องทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม อะไรที่เคยพูดกับประชาชนไว้ก็จะต้องนำมาพิจารณา
ทั้งนี้ นายจุรินทร์ยังกล่าวถึงกระแสข่าวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค อาจจะลาออกจากการเป็น ส.ส. หากพรรคประชาธิปัตย์มีมติเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ว่าตัวเองยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าว
ส่วนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี พรรคจะมีการกำหนดหรือไม่ว่าจะให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน หรือเปิดให้ ส.ส.โหวตอิสระ นายจุรินทร์ระบุว่า เมื่อถึงเวลาพรรคจะมีมติ และทุกคนต้องมีหน้าที่ปฏิบัติตามมติของพรรค ไม่มีข้อยกเว้น แม้แต่หัวหน้าพรรค ก็ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้น
