xs
xsm
sm
md
lg

เสียงปริ่มน้ำระวังยี้ “ตุ้มถ่วง” นาวา “ลุงตู่” จมเร็ว !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เมืองไทย 360 องศา





พิจารณาจากแนวโน้มทุกองค์ประกอบแล้ว นาทีนี้ถือว่าเข้าทาง “ลุงตู่” หรือว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากที่สุด ทำให้ “ขั้วพรรคพลังประชารัฐ” มีโอกาสรวบรวมเสียงพรรคการเมืองจัดตั้งรัฐบาลได้สูงมาก แม้จะมองว่าเป็นรัฐบาล “เสียงปริ่มน้ำ” นั่นคือ มีเสียงเกินครึ่งมาไม่มากก็ตาม
 
เวลานี้จึงยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาต่อรอง กับพรรคการเมืองต่างๆ หลายพรรคจึงต้องใช้เวลาเป็นเรื่องธรรมดา รวมไปถึงต้องรอการคัดเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ และตามมาด้วยมติพรรคว่าจะออกมาทางไหน แต่ตามรูปการณ์แล้วมันก็พอเดาทางออกได้ไม่ยาก

ด้วยจำนวนเสียงฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ก้ำกึ่งกันแบบนี้ หลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลจะไม่ค่อยมีเสถียรภาพ แต่อีกด้านหนึ่งก็มีเหตุผลโต้แย้งว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับรัฐบาลเอง หากรัฐบาลยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ ไม่มีเรื่องทุจริตอื้อฉาว บรรดา ส.ส.มีความรับผิดชอบ แม้มีเสียงปริ่มน้ำแค่ไหนก็มีเสถียรภาพ เพราะหากมีพฤติกรรมตรงกันข้ามต่อให้มีเสียงสนับสนุนค่อนสภาก็ไปไม่รอด ดังที่เห็นตัวอย่างของรัฐบาลก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องจับตาเป็นพิเศษในเวลานี้ ก็คือ กำลังจะมี “จุดอ่อน” หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “ตัวถ่วง” เกิดขึ้นในฝ่ายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กำลังฟอร์มกันขึ้นมาหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาในรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ได้เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง หรือเป็นระยะอยู่แล้ว แต่ก็โชคดีว่า “กระแส” ยังไม่ถึงขั้นรุนแรงพอที่จะทำให้คว่ำได้ หรือมีเรื่องอื่นมากลบเสียก่อนจนสามารถฝ่าออกมาได้

ที่ผ่านมา สังคมรับรู้กันแล้วว่าหากเป็น “ตำบลกระสุนตก” ก็ย่อมต้องมองไปที่ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ถูกมองว่า มีภาพลักษณ์ “สีเทา” ทั้งที่จะว่าไปแล้วเขาก็ไม่เคยมีเรื่องราวกล่าวหาว่าทุจริตจะแจ้งเลย มีแต่เรื่อง “นาฬิกาหรู” ที่ถึงอย่างไรก็หาหลักฐานไม่ได้ กลายเป็นเรื่องของความรู้สึกของสังคมเท่านั้น ซึ่งก็กลายเป็นกระแสภาพลักษณ์ติดลบมาจนถึงทุกวันนี้

แต่ถึงอย่างไรหากพิจารณาจากอารมณ์ความรู้สึกของสังคมแล้วก็ต้องยอมรับว่า “เริ่มลดลง” ไปมากแล้ว จนอยู่ในระดับ “ทรงๆ” ในเวลานี้

ขณะเดียวกัน หากพิจารณากันด้วยความเป็นธรรมก็ต้องบอกว่า “บิ๊กป้อม” หรือ “ลุงป้อม” คนนี้มีผลงานด้านความมั่นคงและอีกหลายด้าน เนื่องจากมีภารกิจที่ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมากมาย แทบจะเรียกว่านั่งเป็นประธานคณะกรรมการชุดต่างๆ จนจำแทบไม่หวาดไม่ไหว ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ พลังงาน ร้อยแปด และที่ต้องให้เครดิตก็คือการแก้ปัญหา “หนี้นอกระบบ” ที่สร้างความนิยมให้กับชาวบ้านที่เคยเป็นหนี้นายทุนโหดในทุกภูมิภาคอยู่เวลานี้

แต่ก็อย่างว่า ด้วยภาพลักษณ์ที่ติดตัว “เป็นสีเทา” มันก็แก้ไขยาก อย่างมากแม้จะมีผลงานแค่ไหนมันก็แค่เสมอตัว

แต่สำหรับรายล่าสุดที่มีแนวโน้มน่าจะมาแรงจนน่าจับตาไม่เบา ก็คือ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นเอง ซึ่งรายหลังนี้ที่ผ่านมามักมีข่าววิจารณ์ชวนให้ติดตามเป็นระยะ ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ก็เกี่ยวข้องกับภรรยา หรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจของลูกชาย เป็นต้น แต่คราวนี้กำลังถูกจับตามองหลังจากคาดว่าจะได้รับการแต่งตั้งเป็น ส.ว.เป็นหนึ่งใน 250 คน แต่ที่กำลังถูกตั้งคำถามแรงๆ ก็คือ “ความรับผิดชอบ” ต่อหน้านี้ โดยมีการกล่าวหาว่าระหว่างที่เขาปฏิบัติหน้าที่เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ มักจะไม่ค่อยได้เข้าประชุม ส่วนใหญ่จะ “ลาประชุม”

จนทำให้ฝ่ายที่สนับสนุน “ลุงตู่” อดเป็นกังวลไม่ได้ว่า “จุดอ่อน” อยู่ใกล้ๆ ตัวนี่เอง เพราะเหมือนกับสะสมระเบิดเวลาเอาไว้ให้รอวันปะทุ เพราะต้องไม่ลืมว่า รัฐบาลชุดใหม่ที่คาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้ไปต่อ และมีเสียง “ปริ่มน้ำ” อย่างที่รับรู้กัน ซึ่งนั่นก็ย่อมหมายความว่า ย่อมต้องได้รับความสนับสนุนศรัทธาจากประชาชนเป็นพลังสำคัญอีกแรงหนึ่ง

ขณะเดียวกัน หากภายในรัฐบาลมีการสะสม “ตัวถ่วง” หรือมีจุดอ่อนจนเพิ่มเสียง “ยี้” มันก็อาจทำให้นาวาจมได้


กำลังโหลดความคิดเห็น