xs
xsm
sm
md
lg

คสช.ชี้คดีปี 57-58 กำหนดฟ้องศาลทหาร ปัดแกล้ง “ธนาธร” ปูดพวกหน้าเดิม มีคนไม่แสดงตนชักใย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

พันเอกวินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (แฟ้มภาพ)
โฆษกคสช. ระบุ คดีปี57-58 กำหนดฟ้องคดีศาลทหารเท่านั้น ใช้บรรทัดฐานเดียวกัน ปัดแกล้ง “ธนาธร” เพราะเป็นคดีความไม่สงบฯ ชี้คนโดนคดีขึ้นศาลทหารไม่มากแต่ก็ไม่น้อย เป็นกลุ่มเดิมหน้าเดิม ที่มีคนที่ไม่แสดงตนชักใย เผยกม.เปิดช่องให้ไปแก้ต่าง

วันนี้ (7เม.ย.) พันเอกวินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึง กรณีที่ นายธราธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ถูกแจ้งข้อหา และดำเนินคดี ที่มีความผิดตามมาตรา 116 ,ม.189 และ ม.215 และมีความกังวลที่ จะต้องขึ้นศาลทหาร ว่า กฎหมายมีผลบังคับใช้กับคนทุกคนเท่าเทียมกัน โดยไม่แยกแยะว่า คนนั้นจะเป็นผู้เห็นต่าง หรือเป็นผู้เห็นด้วย ดังนั้นเมื่อมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น บุคคลนั้น ควรต้องยอมรับผลของการกระทำของตัวเอง เพราะไม่มีใครไปบังคับให้มากระทำผิดได้

ทั้งนี้คดีที่ต้องพิจารณาในศาลทหาร เป็นผู้ต้องหากระทำความผิดในช่วงปี 2557-2558 ซึ่งมีคดีอยู่ 4 ประเภท ของกลุ่มงานความมั่นคง ดังนั้นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ไม่ต้องกังวล เพราะทุกศาลจะพิจารณาตามตัวบทกฎหมายภายใต้บรรทัดฐานเดียวกัน

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจในขั้นตอนตามกฎหมาย จะมีเพียงส่วนน้อย ซึ่งเป็นคนกลุ่มเดิม และมีบางคนที่อยู่เบื้องหลังไม่ออกมาเคลื่อนไหวในทางเปิดเผย การกล่าวหาว่า คสช.กลั่นแกล้ง จึงเป็นเพียงมุมมองส่วนบุคคล อาจคิดเองตามทัศนคติเดิม แต่หากเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือเสียหาย สามารถฟ้องกลับได้

และจากกรณี ที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit เมื่อ 6 เมย.62 มีข้อความว่า “ขอขอบคุณทุกกำลังใจ ข้อหานี้ ไม่ได้มีธนาธรแค่คนเดียวที่โดน เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีคนไทย อีกไม่น้อยถูกดำเนินคดีและถูกกลั่นแกล้งด้วยวิธีต่างๆ นานา เพียงเพราะพวกเขาเห็นว่า คสช. ไม่มีความชอบธรรมในการปกครองประเทศ ดังนั้นเราจะต่อสู้ไปด้วยกันนะครับ” นั้น

พันเอก วินธัย กล่าวว่าถ้าเป็นคดีเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ถึงไม่น้อย แต่ก็ไม่มาก เมื่อเทียบสัดส่วนคนไทยทั้งประเทศ เพราะเชื่อว่า ขณะนั้นคนส่วนใหญ่เข้าใจ. จะมีเพียงส่วนน้อยจริงๆ ซึ่งถ้าติดตามข่าวสาร จะเห็นว่าส่วนใหญ่ จะเป็น “กลุ่มเดิมหน้าเดิม” นอกจากบางคนที่อาจจะไม่ได้ออกหน้า หรือแสดงตนในลักษณะที่เปิดเผย

ส่วนกรณีที่กล่าวว่าถูกกลั่นแกล้งด้วยวิธีต่างๆ นานานั้น พันเอกวินธัย เชื่อว่าไม่ไช่ การกลั่นแกล้ง

“ด้วยหลักของธรรมชาติทุกๆ พฤติกรรม และการกระทำของบุคคล ย่อมเป็นเรื่องส่วนบุคคล คงไม่มีใครบังคับใครได้”

ส่วนการกระทำนั้น จะผิดถูกอย่างไร
ทุกสังคมมีกลไก ด้านกระบวนการยุติธรรมเป็นตัวตัดสิน

อีกทั้งได้เปิดช่องให้ทุกฝ่าย ไปแก้ต่างพิสูจน์กัน ได้อย่างเสรี

“การกล่าวหาว่า คสช.กลั่นแกล้ง จึงเป็นเพียงมุมมองส่วนบุคคล อาจคิดเองตามทัศนคติเดิมๆ เป็นเรื่องที่สังคมสามารถใช้วิจารณญาณได้”

แต่หากยังคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจริง สามารถร้องได้ตามระบบเพราะปกติทั่วไป กระบวนการยุติธรรมทั่วทั้งสากล. ได้เปิดช่องให้ผู้เสียหายสามารถดำเนินการเอาเรื่องฟ้องกลับเอาผิด จนท.ที่ประพฤติไม่ดีได้

ส่วนกรณีที่กล่าวอ้างว่า ที่มีการฝ่าฝืนกฎหมายของบางกลุ่ม เพราะเห็นว่า คสช. ไม่มีความชอบธรรมในการปกครองประเทศ นั้น โฆษก คสช. กล่าวว่า เป็นเพียงมุมมองที่จำกัดเฉพาะกลุ่ม หรือส่วนบุคคลมากกว่า เพราะตลอดที่ผ่านมา เชื่อว่า ประชาชน เห็นการเปลี่ยนแปลง เห็นการแก้ไขปัญหา เห็นการวางรากฐานการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิต

ที่สำคัญประชาชนเข้าใจในสิ่งที่คสช.ได้ทำเพื่อประเทศตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มจากหยุดยั้งการสูญเสีย แก้ไขฟื้นฟูการที่ไทยกำลังจะเป็นรัฐที่ล้มเหลว พยายามจัดระเบียบสังคม หยุดแก้ไขเรื่องที่ไม่ดีและมีปัญหาค้างหมักหมมของประเทศ หลายเรื่องทำให้ประเทศสงบ เดินหน้าได้


กำลังโหลดความคิดเห็น