xs
xsm
sm
md
lg

ดูดีๆคดี"ทักษิณ"จะอ้างว่าประชาชนรู้ มาจากกระบวนการผิดปกติได้อย่างไร หลักฐานทนโท่แถมมีคดีติดสินบน"ถุงขนม" **ระแวงสงสัยกันพัลวันจะเป็น"กองทัพงูเห่า" เพื่อไทย -อนาคตใหม่ **เห็นท่าการตั้งรัฐบาล "สืบทอดอำนาจแม้ว"ถึงทางตัน ปฏิบัติการ"ไล่กกต."ก็เริ่มขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: นกหวีด


ข่าวปนคน คนปนข่าว

** ดูดีๆ คดี "ทักษิณ" จะอ้างว่าประชาชนรู้ มาจากกระบวนการผิดปกติได้อย่างไร หลักฐานทนโท่ แถมมีคดีติดสินบน "ถุงขนม" วิ่งเต้นล้มคดียุบพรรค ทำเป็นลืม ต้องบอกว่าตัวเองนอกจากไม่สำนึก! ยังเล่นลิ้น เล่นการเมืองไม่เลิก

การไม่ยอมรับและไม่สำนึก เหมือนจะฝังอยู่ในดีเอ็นเอของ"ทักษิณ ชินวัตร" และพวกพ้องชนิดที่ไม่มีวันแก้หาย...วันก่อนเพิ่งถูกลบชื่อออกจากรางวัลศิษย์เด่าดีเด่น และรางวัลเกียรติยศจักรดาว ของโรงเรียนเตรียมทหาร เหตุผลต้องย้อนมากล่าวสักหน่อย ว่า "บิ๊กกบ" พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะประธานมูลนิธิศิษย์เก่าฯ นั้น พูดไว้ชัดว่า ทักษิณเข้าข่ายผิดต่อจรรยาบรรณและหลักนิยมของทหาร คือ การใดก็ตามที่เป็น"การจาบจ้วงไม่รู้ที่สูงที่ต่ำ" ...

ล่าสุด จากราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศพระราชโองการฯ เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์จาก นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ใช้เฟซบุ๊กในชื่อ “ณัฐพันธุ์ กรุงเทพ กรุงเทพ ทันใจ”ซึ่งเป็นผู้สนับสนุน และติดตามรายงานความเคลื่อนไหวของคนในตระกูลชินวัตร อย่างใกล้ชิดตลอดเวลา โพสต์ข้อความว่า “การเรียกคืนเครื่องราชฯ! นี่เป็นเรื่องหลักเกณฑ์ปกติ ของการเรียกคืนเครื่องราชฯ ที่ผ่านมา ข้าราชบริพาร ข้าราชการ ทหาร-ตำรวจ เมื่อถูกตัดสินคดี ก็ถูกเรียกคืนเครื่องราชฯ ทั้งนั้น จึงเป็นไปตามหลักเกณฑ์ปกติของการเรียกคืนเครื่องราชฯ การเรียกคืนเครื่องราชฯทักษิณ ครั้งนี้ จึงมีคนพยายามนำเรื่องนี้มาโจมตี เพื่อหวังผลทางการเมือง ใช่หรือไม่? ส่วนคดีความต่างๆ "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" ประชาชนต่างรู้ดีว่า มาจากกระบวนการที่ผิดปกติ หรือไม่”...

นอกจากไม่สำนึกยังตั้งคำถามโทษว่ากระบวนการยุติธรรมไม่ยุติธรรมกับตัวเอง เหมือนกับที่ทักษิณ เพิ่งให้สัมภาษณ์บีบีซี ช่วงที่แต่งงานลูกสาวก่อนเลือกตั้ง ไม่ได้ดูว่า ที่ผ่านมาเรื่องนี้ประชาชนเขาก็รู้กันทั่วไปเช่นกัน... คนเขารู้ว่า ทั้งหล่ายทั้งปวง มาจาก นายทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง พิพากษาถึงที่สุด "ลงโทษจําคุก" และยังมีข้อหาฐานอื่นๆ อีกหลายคดี อีกทั้งได้หลบหนีออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งเป็นพฤติการณ์การกระทําที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ... อะไรที่บอกว่าไมได้รับความเป็นธรรม บ้างก็ว่า กระบวนการยุติธรรมถูกใช้เป็นอาวุธเพื่อกำจัดนายทักษิณ นายทักษิณ มีสิทธิที่จะต่อสู้คดีภายใต้กระบวนการและศาลที่เป็นธรรม

ทักษิณและบริวารชอบพูดลอยๆ ทั้งที่ความเป็นจริงพิสูจน์ได้ด้วย พยานหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่า องค์คณะผู้พิพากษาที่พิจารณา และพิพากษาคดีที่ นายทักษิณ ถูกฟ้องเป็นจำเลยแต่ละคดีมีพฤติการณ์ที่ไม่เป็นกลางอย่างไร และคำพิพากษาในคดีนั้น ไม่ถูกต้องหรือ ไม่ยุติธรรมอย่างไร มีเหตุผล และหลักฐานอะไรมาอ้างอิง ... ทักษิณไม่เคยจะแสดงอะไร แล้วยังปลูกฝังให้เครือข่ายตอบโต้ บิดเบือน ต่อสังคม กระทั่งพรรคการเมืองที่เขาครอบงำและพรรคแอบแฝงให้ต่อสู่เพื่อเขา... ใครกัน ที่"หวังผลทางการเมือง" หากไม่ใช่ทักษิณ

ถ้าจำกันได้ คดีที่ดินรัชดา ที่นายทักษิณกับภริยาถูกฟ้องเป็นจำเลย ศาลพิจารณาพิพากษาคดีในสมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ของนายทักษิณเป็นรัฐบาล ทนายความนำเงินจำนวน 2 ล้านบาท ไปให้เจ้าหน้าที่ศาล แต่เจ้าหน้าที่ศาลไม่รับ และทนายความของนายทักษิณถูกลงโทษฐานละเมิดอำนาจศาล ให้จำคุก 6 เดือน ... คดียุบพรรคไทยรักไทย ว่ากันว่า"นายตำรวจยศพันตำรวจเอก" ไปวิ่งเต้นตุลาการรัฐธรรมนูญ เสนอให้เงิน 20 ล้านบาท เพื่อให้ช่วยพรรคไทยรักไทย แต่ได้รับการปฏิเสธ และนายตำรวจคนนั้น ถูกดำเนินคดีจนถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี ... ดังกล่าวนี้เป็น คดีที่มีหลักฐานชัดเจน ว่ามีการวิ่งเต้นให้สินบนเจ้าหน้าที่ศาลและผู้พิพากษา คดีอื่นๆ ก็น่าสงสัยเพียงแต่ไม่มีหลักฐานชัดเจน

สังคมข้อมูลข่าวสารพัฒนาไปไกลกว่าทักษิณ จะแค่สร้างวาทะกรรมแบบเดิมๆ หรือโน้มน้าวคนได้เหมือนอดีต เรื่องแบบนี้คนดูออกว่า กระบวนการยุติธรรม การไม่รับสินบน หรือฟังคำสั่งจากผู้ใด เพื่อให้การพิจารณาพิพากษาคดีเบี่ยงเบนไปจากพยานหลักฐานในสำนวนและปราศจากความยุติธรรมเป็นเรื่องที่ทักษิณ คิดไปเองต่างหาก ... ถ้าสามารถวิ่งเต้นองค์คณะผู้พากษาได้ พรรคไทยรักไทย คงไม่ถูกยุบ นายทักษิณ กับทนายของนายทักษิณ ก็คงไม่ถูกลงโทษจำคุก และนายทักษิณ คงไม่ถูกริบทรัพย์เป็นเงิน 46,000 ล้านบาทเศษเข้าแผ่นดิน... เรื่องนี้...ประชาชนตื่นรู้มานานแล้ว คงเหลือแต่ "ทักษิณและเครือข่าย" ที่ยังงมงายไม่รู้สำนึก .

**ระแวงสงสัยกันพัลวันจะเป็น "กองทัพงูเห่า" เพื่อไทย -อนาคตใหม่ ต้อนว่าที่ส.ส.มัดตราสังข์ จับเซ็นใบลาออก ตีกันลูกพรรคไปโหวตหนุน "ลุงตู่" พ่อของฟ้า ปูดค่าตัวงูเห่าหัวละ 10 ล้าน

เพิ่งทำสัตยาบันประกาศจะจัดตั้งรัฐบาลอย่างหนักแน่น แต่ก็เป็นการ "ฉกฉวยบนสถานการณ์ฉุกเฉิน" อย่างที่พรรคพลังประชารัฐให้นิยามไว้จริงๆ ซะแล้ว เพราะบนความฉุกเฉินก็เป็นความหวาดระแวงกันเองว่า ลูกพรรคทั้งหลายจะกลายร่างเป็น "กองทัพงูเง่า" เลื้อยออกจากคอก ไปอยู่กับ"ฝ่ายลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ... ว่าแล้วพรรคเพื่อไทย ที่ตัวเองเป็นแกนนำ 6พรรค ทำสัตยาบัน จะไม่พรากจากกัน ก็ประชุมว่าที่ ส.ส. แล้วให้ว่าที่ ส.ส.ลงนามในสัตยาบันเป็นแนวร่วมต่อสู่กับพรรคพลังประชารัฐ พร้อมทั้งให้ลงนามในหนังสือลาออก จากการเป็นสมาชิกพรรคไว้ล่วงหน้า ซึ่งจะทำให้ความเป็นสมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา101(8) ป้องกันการเป็น"งูเห่า" หันไปสนับสนุนลุงตู่...

ในที่ประชุมพรรค หยิบเอา "เสียงลือเสียงเล่าอ้าง" ว่า ตอนนี้มีการพูดคุยกันในวง ส.ส.ว่า มีข้อเสนอจากบางพรรคประสานมายัง ว่าที่ ส.ส.เพื่อไทย รวมถึงพรรคอนาคตใหม่ ให้ยกมือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี อีกครั้ง ... ว่ากันเป็นเรื่องเป็นราวเลยทีเดียว ท่าทีของพรรคอนาคตใหม่ ก็เหมือนกัน จัดสุมหัวว่าที่ ส.ส.กันที่จ.ชลบุรี แล้วก็ให้ว่าที่ ส.ส.ทั้งหมด ลงนามคำประกาศสัตยาบันร่วมกัน ...

"ปิยบุตร แสงกนกกุล" เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ บอกอย่างมั่นใจว่า“กรณีเรื่องของงูเห่า เรายืนยันว่า ไม่มีงูเห่าสีส้ม อย่างแน่นอน เพราะพรรคอนาคตใหม่เรารวมกันด้วยอุดมการณ์ ด้วยความเชื่อมั่นแบบเดียวกัน"

ขณะที่ "พ่อของฟ้า" ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ปูดแบบไม่เกรงใจลูกพรรคว่า "ว่าที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ตอนนี้มีราคาตลาด ตามที่เป็นข่าวแล้ว 10 ล้านขึ้นไป เงินจำนวนนี้ อาจจะเอาไปทำอะไรได้หลายอย่าง ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเงินจำนวนมาก สำหรับหลายคน และมีน้อยคนนักจะเคยเห็นเงินสดจำนวนนี้ ซึ่งถ้าเรารับไปย่อมทำให้ชีวิตดีขึ้นแน่"

"คุณมีทางเลือกที่จะหยิบเงินจำนวน 10 ล้าน นั้นแล้วหันหลังให้เพื่อนเราในห้องนี้ และจากไป หรือปฏิเสธมัน แล้วนั่งอยู่กับเราทุกคนในห้องนี้ และร่วมกันยืนยันว่า อนาคตที่เราอยากเห็น คือ สิ่งที่เราจะร่วมกันสร้างขึ้นมา ผ่านพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง ผ่านพรรคการเมืองที่ยึดโยงกับสมาชิก ยึดโยงกับประชาชน นั่นคือพรรค ที่เราอยากให้พรรคอนาคตใหม่เป็น และเราจะพาพรรคไปถึงจุดนั้นด้วยกัน ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญอย่างนี้ จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องยืนยันจุดยืนของพรรคให้มั่นคงแข็งแรง เราจะไม่ยอมให้ก้าวแรกของพรรคอนาคตใหม่ ในสภาผู้แทนราษฎรต้องเสื่อมเสีย แปดเปื้อน ผมจึงขอเรียกร้องให้ทุกคนร่วมลงสัตยาบันร่วมกัน" ยังไงๆว่าที่ ส.ส.อนาคตใหม่ หัวเด็ดตีนขาดจะไม่หนุนลุงตู่แน่นอน "พ่อของฟ้า" มั่นใจ...

เริ่มต้นด้วยความหวาดระแวงกันซะอย่างนี้ ก่อนจะไปถึงวันนั้น เวลายังทอดไปอีกยาวไกล จะได้เห็น "งูเห่าสีแดง" หรือ "งูเห่าสีส้ม" หรือไม่ อดใจรอติดตามกันต่อไป

**เห็นท่าการตั้งรัฐบาล "สืบทอดอำนาจแม้ว" จะถึงทางตัน ปฏิบัติการเคลื่อนไหว "ไล่กกต." ก็เริ่มขึ้น เป้าหมายอยู่ที่การเลือกตั้งโมฆะ แล้วโยนความผิดให้รัฐบาล และ คสช. แล้วเมื่อนั้นการเมือง ก็สุ่มเสี่ยงที่จะเข้าสู่วงจร บาดเจ็บ ล้มตาย กันอีกครั้ง

หลังกกต.ประกาศผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการออกมา 100% ปรากฏว่า "ฝ่ายสืบทอดอำนาจทักษิณ" ที่อ้างตัวว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย นำโดยพรรคเพื่อไทย และพรรคพันธมิตร อีก 5 พรรค ที่เคยประกาศทำสัตยาบัน จะร่วมรัฐบาลกันนั้น คิดคำนวณจำนวน ส.ส.เขต และปาร์ตี้ลิสต์ออกมาแล้ว ได้ไม่ถึง 250 เสียง ขณะที่ฝ่ายพรรคพลังประชารัฐ และแนวร่วมวนับสนุนให้ "ลุงตู่" เป็นนายกฯอีกสมัย ก็ยังไม่สามารถรวบรวมคะแนนเสียงได้เกิน 250 เสียงเช่นกัน เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ยังไม่ประกาศจุดยืน ว่าจะเข้าร่วมหรือไม่ ... อีกทั้ง กกต.จะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ค.62 หลังงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก การตั้งรัฐบาลของทั้งสองฝ่ายจึงต้องถูกพักเอาไว้ก่อน

ประเด็นการ "ไล่กกต." จึงร้อนแรงขึ้นมาแทนการจับขัวตั้งรัฐบาล โดยการเคลื่อนไหว เริ่มจาก เว็บไซต์" change.org" ที่เปิดให้ชาวโซเชียลฯ ลงชื่อถอดถอน กกต. ด้วยข้อหาว่าจัดการเลือกตั้งไม่สุจริต มีคนแห่มาลงชื่อกว่า 8 แสนคน ในช่วงเวลาไม่กี่วัน ขณะเดียวกัน ก็มีการตั้งโต๊ะล่าชื่อในสถาบันการศึกษาต่างๆ รวมทั้ง "นักร้อง" อย่าง "ศรีสุวรรณ จรรยา" ก็ตั้งโต๊ะล่าชื่อ เตรียมยื่นป.ป.ช. ให้สืบสวน สอบสวนการจัดการเลือกตั้งของ กกต.ด้วย ที่ส่อว่าไม่โปร่งใสด้วย ...

การ "ไล่กกต." เพิ่มดีกรีความร้อนแรงขึ้นไปอีก เมื่อ "กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง" ที่ก่อนหน้านี้ออกมาเคลื่อนไหว กดดันรัฐบาลให้จัดการเลือกตั้งตามโรดแมป โดยไม่สนใจว่าจะเป็นช่วงที่เวลาคาบเกี่ยวกับ "งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก" คนกลุ่มนี้นำโดย นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ "จ่านิว" , นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ "เพนกวิน" , นายธนวัฒน์ วงค์ไชย หรือ "บอล" , น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือ "โบว์" ซึ่งล้วนเป็นคนคุ้นหน้า คุ้นตา แต่คราวนี้มาในนาม "กลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อการเลือกตั้งที่เป็นธรรม" ก็ออกมาเคลื่อนไหวล่าชื่อถอดถอน กกต. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีการถือกระดาษพิมพ์ข้อความ "เห็นหัวกูบ้าง" "ผลเลือกตั้งไม่กลัว ไม่กลัวบัตรเสีย แต่กลัวบัตรเสริม" พร้อมตะโกนไล่ "กกต.ออกไป" และยังจี้ให้ กกต.เปิดเผยผลการลงคะแนนของทุกหน่วยเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนรับทราบทั่วกันในวันนี้( 1 เม.ย
.)

ขณะเดียวกัน "กลุ่มแดงราชประสงค์" นำโดย นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ "ฟอร์ด เส้นทางสีแดง" , นางสุดสงวน สุธีสร หรือ อ.ตุ้ม อดีตอาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และ นายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ยึดเอาบริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ ราชประสงค์ ตั้งโต๊ะล่าชื่อปลด กกต. เช่นกัน พร้อมกันนี้ ก็ได้เผยแพร่ "คำประกาศชัยชนะของประชาชน" ที่มีเนื้อหา โจมตีการเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยเรื่องทุจริต แต่พรรคการเมืองที่สนับสนุนฝ่าย "ทักษิณ" ก็ยังได้รับชัยชนะ ดังนั้น จึงเป็นความชอบธรรม ที่ฝ่าย "สืบทอดอำนาจทักษิณ" จะได้จัดตั้งรัฐบาล แต่แล้ว กกต. ก็มาสร้างความสับสน ด้วยการประกาศคะแนน "ป็อปปูลาร์โหวต" ให้พรรคพลังประชารัฐ ได้เป็นอันดับ 1 อย่างผิดสังเกต ดังนั้นจึงไม่สามารถไว้วางใจให้กกต. ทำงานต่อไปได้

เห็นชัดว่า กลุ่มนักเคลื่อนไหวเหล่านี้ ได้สืบ "นิสัย" ของทักษิณ มาเต็ม ๆ ถ้าฝ่ายตนชนะ หรือได้ประโยชน์ ก็จะชื่นชม กกต.ว่า จัดการเลือกตั้งได้ดี บริสุทธิ์ ยุติธรรม แต่พอส่อเค้าว่าจะแพ้ ก็เริ่มหาเหตุ ออกมาก่อหวอดประท้วง ปลุกปั่นประชาชน ในทำนอง กกต. ไม่เป็นกลาง ร่วมกับพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามตัวเอง โกงการเลือกตั้ง ...ทั้งนี้ก็หวังให้กกต.สิ้นสภาพ ไม่สามารถรับรองส.ส.ได้ครบ 95% ของจำนวนส.ส.ทั้งหมด ก็ไม่สามารถเปิดประชุมสภา จัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ การเลือกตั้งที่ผ่านมา ก็ต้องเป็นโมฆะ จากนั้นก็จะโยนความผิดให้รัฐบาล และ คสช. เพื่อปลุกคนออกมาประท้วง เข้าสู่วงจร บาดเจ็บ ล้มตาย กันอีก ...ดังนั้น ควรรู้เท่าทันในสิ่งที่คนกลุ่มนี้กำลังดำเนินการด้วย เพราะบทเรียนที่ผ่านมา มีแต่ประชาชนที่บาดเจ็บ เสียเลือดเนื้อ ส่วนแกนนำ รอด !




กำลังโหลดความคิดเห็น