นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงการจัดปราศรัยใหญ่ของพรรค ณ ลานคนเมือง หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 21 มีนาคมนี้ว่า ทางพรรคได้กำหนดวันปราศรัยใหญ่ของพรรค ในวันดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการชี้แจงต่อประชาชนในเรื่องนโยบายพรรค 10 ข้อ ที่ทางพรรคมั่นใจว่า สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้อย่างครอบคลุมครบทุกด้านและเน้นย้ำจุดยืนของทางพรรคที่ประกาศว่า จะไม่จับมือกับพรรคหรือบุคคลกลุ่มใดที่อ้างตนเป็นฝ่ายประชาธิปไตยเผาเมืองโกงชาติ โดยเห็นแต่เพียงว่าการเลือกตั้งเท่ากับมีประชาธิปไตยเท่านั้น แต่หลังจากนั้น กลับลุแก่อำนาจทุจริตโกงกินหนีคดี รับฟังเสียงของประชาชนแค่เพียงฝ่ายตนได้ประโยชน์เท่านั้น และไม่ยอมรับอำนาจตุลาการ ซึ่งเป็น 1 ใน 3 อำนาจของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขดังจะเห็นได้จาก นักการเมืองที่ศาลฎีกามีคำสั่งจำคุกแล้วหลบหนีไปต่างประเทศ รวมถึงไม่จับมือกับกลุ่มที่ทำการเผาเมือง และจะตามล่าให้กลับมารับโทษจำคุกให้เป็นเยี่ยงอย่างให้ได้ในทุกวิถีทาง
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า พรรคจะไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจด้วยวิธีการใดๆ และยืนยันว่า จะไม่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบ เพราะถึงแม้จะทำให้บ้านเมืองสงบไม่มีกลุ่มผู้ชุมนุมออกมาประท้วง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ และทีมเศรษฐกิจของ คสช.ไร้ประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหา อีกทั้ง ทางพรรคไทยศรีวิไลย์ ก็ได้ส่งบุคคลผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในบัญชีของพรรคครบ 3 คนแล้ว คือ ตน นายณัชพล สุขพัฒนะ หรือ มาร์ค พิทบูล และ น.ส.ภคอร จันทรคณา ดังนั้น ทางพรรคจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหนุนคนนอกพรรคฯ ให้มาดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามจุดยืนที่ประกาศเอาไว้แล้ว
“ในการปราศรัยในวันที่ 21 มีนาคมนี้ ถือเป็นการแสดงพลังของพรรคไทยศรีวิไลย์ ให้ประชาชนได้รับทราบว่า เราพร้อมแล้ว ที่จะบริหารประเทศ โดยขุนพลที่จะขึ้นมาปราศรัย นอกจากตนและกรรมการบริหารพรรคแล้ว ก็จะมีผู้สมัครของพรรค ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด มาพูดจากับพ่อแม่พี่น้องที่ฟังการปราศรัย ถึงการลงพื้นที่และกระแสตอบรับที่ได้รับมาจากประชาชน ซึ่งต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พรรคไทยศรีวิไลย์ มีศักยภาพไม่ด้อยไปกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ ดังนั้น ผมจึงอยากเชิญชวนสมาชิกพรรคและประชา
ชนทุกคน ร่วมฟังการปราศรัยใหญ่ของพรรค ตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการบอกกล่าวและเน้นย้ำสิ่งที่เราจะสื่อ ก่อนที่ประชาชนจะได้กำหนดอนาคตของตัวเอง ในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ” นายมงคลกิตติ์กล่าว