เวที พปชร.โคราชกระหึ่ม “อุตตม” ลั่นไม่สืบทอดอำนาจ ขอสืบทอดแต่ความสงบ ชู “ลุงตู่” คนโคราช-หลานย่าโม “สนธิรัตน์” เผยเสียใจพาเจ้าตัวมาขึ้นเวทีไม่ได้ หลังถูกหลายฝ่ายจ้องโจมตี วอนเลือกพลังประชารัฐ หยุดการเมือง 3 ขั้ว “สุวิทย์” ร่ายกลอน “พลังประชารัฐ” ที่ “ลุงตู่” ฝากมาอ้อนชาวเมืองย่าโม เน้นอย่าปล่อย “คนพาล ผลาญชาติ”
วันนี้ (10 มี.ค.) ที่เวทีปราศรัยตลาดนัดเซฟวัน จ.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน นายอนุชา นาคาศัย กรรมการบริหารพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค นายอิทธิพล คุณปลื้ม ผู้อำนวยการพรรค และนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน ร่วมกันขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคหาเสียง ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมรับฟังกว่า 2.5 หมื่นคน
นายอุตตม กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีแต่ความขัดแย้ง แก่งแย่งชิงอำนาจ จนรัฐบาลแทบไม่มีเวลาทำงานเพื่อประชาชน จึงต้องมีพรรคพลังประชารัฐที่ตั้งใจเข้ามาเพื่อนำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง ด้วยการนำเสนอผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถ ทั้งใน จ.นครราชสีมาและทั่วประเทศ ที่จะเข้าไปทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนในรัฐสภา พรรคเรามีนโยบายที่ตอบโจทย์ มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นคนโคราชโดยกำเนิด เป็นผู้นำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เราจึงขอโอกาสอาสาพาประเทศ พี่น้องคนไทยก้าวข้ามความขัดแย้งมองไปข้างหน้าสู่อนาคตที่สดใส ประเทศเราสงบมาแล้ว 5 ปี พอที่จะทำมาหากินได้ และบ้านเมืองเดินหน้าได้ วันนี้พรรคมาเสนอตัวในการร่วมกันเดินหน้า เราไม่ตีกับใคร ตั้งใจมาทำงาน เพื่อสางปัญหาที่สะสมมานาน เรามีนโยบายที่ตอบโจทย์ ตรงจุด ทำได้จริง และทำได้ทันที
“วันนี้มีวาทกรรมที่พูดกันมากคือ พวกเรามาเพื่อสืบทอดอำนาจ ขอยืนยันว่าเราไม่มีสี ไม่มีขั้ว เรามีขั้วเดียวคือ ขั้วคนไทย เราจะสืบทอดอะไร สิ่งที่เราจะสืบทอดมีเพียงอย่างเดียว คือ สืบทอดความสงบ เพื่อนำพาบ้านเมืองไปต่อ” นายอุตตมกล่าว
ต่อมา นายสนธิรัตน์ กล่าวช่วงหนึ่งว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ คือการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของประเทศ เนื่องจาก 10 ปีที่ผ่านมาบ้านเมืองติดหล่ม เกิดการแบ่งแยก แบ่งสี แบ่งฝ่าย ดังนั้นวันนี้สิ่งที่พี่น้องประชาชนต้องตัดสินใจ คือ ต้องเลือกไม่ให้บ้านเมืองกลับไปเหมือนเดิม วันนี้พรรคพลังประชารัฐ เสียใจที่สุดที่พา พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ถูกเสนอเป็นนายกฯของพรรค มายืนบนเวทีนี้ มาพบพี่น้องชาวโคราช ซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่านไม่ได้ เพราะเขาไม่ยอมให้มา แต่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกไม่เป็นไร ให้พวกตนมาแทน เพื่อมาบอกกับชาวโคราชถึงนโยบายดีๆ และความตั้งใจในการขจัดความขัดแย้ง เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า หากอยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อยากเห็นประเทศเดินหน้าต่อ พวกตนอาสาทำให้ แต่ชาวโคราชก็ต้องร่วมพาประเทศก้าวข้ามไปด้วยกัน โดยเลือกผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐทั้ง 14 เขต
“วันนี้การเมืองแบ่งเป็น 3 ขั้ว คือ พรรคพลังประชารัฐ ที่ประกาศเอาคนโคราช อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคที่ 2 คือพรรคที่ถูกครอบงำ ไม่รู้ใครเป็นหัวหน้าตัวจริง และอีกพรรคคือ พรรคประชาธิปัตย์ที่ล่าสุด ประกาศไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้จึงมาถึงจุดที่พวกเราต้องช่วยกัน เพราะหากบ้านเมืองเป็น 3 ขั้วแบบนี้ หลังเลือกตั้งประเทศคงเดินต่อไม่ได้ ซึ่งพรรคเราไม่ปรารถนา เนื่องจากประชาธิปไตยที่แท้จริง ต้องเห็นแก่ประชาชน วันนี้ผมจึงวิงวอนว่า อย่าให้ใครเอาเราเป็นเครื่องมือ อย่าให้ใครมาหลอกเราอีก ขอพี่น้องพาประเทศไทยไปกับพรรคพลังประชารัฐ เลือกลุงตู่ เป็นนายกฯ เลือกพลังประชารัฐทั้งจังหวัด”นายสนธิรัตน์ ระบุ
ขณะที่ นายสุวิทย์ กล่าวปราศรัยช่วงหนึ่งว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้ส่งตนมาฝังตัวลงพื้นที่โคราชเป็นเดือน เพราะเห็นความสำคัญของโคราช ที่ต้องการทำให้โคราชดีกว่านี้ รวมถึงโคราช ยังเป็นบ้านเกิดของ พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นายกฯของพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นลูกหลานย่าโม โดยวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ อยากเดินทางมาด้วยตัวเอง แต่ไม่สามารถมาได้ จึงส่งพวกตนมาพบกับประชาชน แต่ก็ได้เขียนกลอนมาฝากด้วยตัวเอง ซึ่งกลอนมีชื่อว่า พลังประชารัฐ
จากนั้น นายสุวิทย์ ได้อ่านกลอนที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ประพันธ์ขึ้นความว่า
"จากใจ ถึงใจ ไทยทุกผู้
เรารวมอยู่ เป็นชาติ นานนักหนา
ทั้งบ้านเรือน ก่อสร้าง พัฒนา
เพื่อวันนี้ วันหน้า เชื่อมโยงกัน
อยากจะให้ มีใคร จิตอาสา
ประชารัฐ พัฒนา อย่างสร้างสรรค์
ทั้งคนรวย รายได้น้อย คอยช่วยกัน
สร้างสวรรค์ แผ่นดินทอง พี่น้องไทย
อย่ายอมให้ คนพาล มาผลาญชาติ
ป่าวประกาศ ศักดิ์ศรี ที่ไหนไหน
ให้โลกรู้ แผ่นดินนี้ มีคนไทย
ทั้งรุ่นใหม่ รุ่นเก่า พร้อมยอมพลี
หวังเพียงให้ เกิดพัฒนา นำพาชาติ
กวาดบ้านเมือง ให้สะอาด เกิดสุขขี
เราจะพร้อม ยอมตาย สามัคคี
แผ่นดินนี้ พลังประชารัฐ รวมคนไทย"
ด้าน นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ตนเองก็เป็นชาวโคราช เพราะครอบครัวเป็นคนโคราช จึงมาขอเสียงชาวโคราช และถึงแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ได้มา แต่เชื่อว่าจะได้ยินเสียงให้กำลังใจจากคนที่นี่ ขณะเดียวกัน พรรคพลังประชารัฐ เริ่มมาเป็นระยะเวลา 4 เดือน แต่ทุกโพลคะแนนไม่ลำดับ 1 ก็ลำดับ 2 เพราะมีนโยบายต่างๆที่ตอบโจทย์ประชาชน อาทิ บัตรประชารัฐ พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 5 ปี มารดาประชารัฐ ส.ป.ก. 4.0 สนับสนุนค่าเก็บเกี่ยวค่าปลูกข้าว รวมถึงจากนี้ จะช่วยคนจนที่ไม่มีบ้าน ด้วยการเดินหน้าบ้านล้านหลัง บ้านมั่นคง บ้านพอเพียง ด้วย
วันนี้ (10 มี.ค.) ที่เวทีปราศรัยตลาดนัดเซฟวัน จ.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน นายอนุชา นาคาศัย กรรมการบริหารพรรค นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรค นายอิทธิพล คุณปลื้ม ผู้อำนวยการพรรค และนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน ร่วมกันขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคหาเสียง ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมรับฟังกว่า 2.5 หมื่นคน
นายอุตตม กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีแต่ความขัดแย้ง แก่งแย่งชิงอำนาจ จนรัฐบาลแทบไม่มีเวลาทำงานเพื่อประชาชน จึงต้องมีพรรคพลังประชารัฐที่ตั้งใจเข้ามาเพื่อนำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง ด้วยการนำเสนอผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถ ทั้งใน จ.นครราชสีมาและทั่วประเทศ ที่จะเข้าไปทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนในรัฐสภา พรรคเรามีนโยบายที่ตอบโจทย์ มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็นคนโคราชโดยกำเนิด เป็นผู้นำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เราจึงขอโอกาสอาสาพาประเทศ พี่น้องคนไทยก้าวข้ามความขัดแย้งมองไปข้างหน้าสู่อนาคตที่สดใส ประเทศเราสงบมาแล้ว 5 ปี พอที่จะทำมาหากินได้ และบ้านเมืองเดินหน้าได้ วันนี้พรรคมาเสนอตัวในการร่วมกันเดินหน้า เราไม่ตีกับใคร ตั้งใจมาทำงาน เพื่อสางปัญหาที่สะสมมานาน เรามีนโยบายที่ตอบโจทย์ ตรงจุด ทำได้จริง และทำได้ทันที
“วันนี้มีวาทกรรมที่พูดกันมากคือ พวกเรามาเพื่อสืบทอดอำนาจ ขอยืนยันว่าเราไม่มีสี ไม่มีขั้ว เรามีขั้วเดียวคือ ขั้วคนไทย เราจะสืบทอดอะไร สิ่งที่เราจะสืบทอดมีเพียงอย่างเดียว คือ สืบทอดความสงบ เพื่อนำพาบ้านเมืองไปต่อ” นายอุตตมกล่าว
ต่อมา นายสนธิรัตน์ กล่าวช่วงหนึ่งว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ คือการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของประเทศ เนื่องจาก 10 ปีที่ผ่านมาบ้านเมืองติดหล่ม เกิดการแบ่งแยก แบ่งสี แบ่งฝ่าย ดังนั้นวันนี้สิ่งที่พี่น้องประชาชนต้องตัดสินใจ คือ ต้องเลือกไม่ให้บ้านเมืองกลับไปเหมือนเดิม วันนี้พรรคพลังประชารัฐ เสียใจที่สุดที่พา พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ถูกเสนอเป็นนายกฯของพรรค มายืนบนเวทีนี้ มาพบพี่น้องชาวโคราช ซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่านไม่ได้ เพราะเขาไม่ยอมให้มา แต่ พล.อ.ประยุทธ์ บอกไม่เป็นไร ให้พวกตนมาแทน เพื่อมาบอกกับชาวโคราชถึงนโยบายดีๆ และความตั้งใจในการขจัดความขัดแย้ง เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า หากอยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อยากเห็นประเทศเดินหน้าต่อ พวกตนอาสาทำให้ แต่ชาวโคราชก็ต้องร่วมพาประเทศก้าวข้ามไปด้วยกัน โดยเลือกผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐทั้ง 14 เขต
“วันนี้การเมืองแบ่งเป็น 3 ขั้ว คือ พรรคพลังประชารัฐ ที่ประกาศเอาคนโคราช อย่าง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคที่ 2 คือพรรคที่ถูกครอบงำ ไม่รู้ใครเป็นหัวหน้าตัวจริง และอีกพรรคคือ พรรคประชาธิปัตย์ที่ล่าสุด ประกาศไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้จึงมาถึงจุดที่พวกเราต้องช่วยกัน เพราะหากบ้านเมืองเป็น 3 ขั้วแบบนี้ หลังเลือกตั้งประเทศคงเดินต่อไม่ได้ ซึ่งพรรคเราไม่ปรารถนา เนื่องจากประชาธิปไตยที่แท้จริง ต้องเห็นแก่ประชาชน วันนี้ผมจึงวิงวอนว่า อย่าให้ใครเอาเราเป็นเครื่องมือ อย่าให้ใครมาหลอกเราอีก ขอพี่น้องพาประเทศไทยไปกับพรรคพลังประชารัฐ เลือกลุงตู่ เป็นนายกฯ เลือกพลังประชารัฐทั้งจังหวัด”นายสนธิรัตน์ ระบุ
ขณะที่ นายสุวิทย์ กล่าวปราศรัยช่วงหนึ่งว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้ส่งตนมาฝังตัวลงพื้นที่โคราชเป็นเดือน เพราะเห็นความสำคัญของโคราช ที่ต้องการทำให้โคราชดีกว่านี้ รวมถึงโคราช ยังเป็นบ้านเกิดของ พล.อ.ประยุทธ์ ผู้ถูกเสนอชื่อเป็นายกฯของพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นลูกหลานย่าโม โดยวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ อยากเดินทางมาด้วยตัวเอง แต่ไม่สามารถมาได้ จึงส่งพวกตนมาพบกับประชาชน แต่ก็ได้เขียนกลอนมาฝากด้วยตัวเอง ซึ่งกลอนมีชื่อว่า พลังประชารัฐ
จากนั้น นายสุวิทย์ ได้อ่านกลอนที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้ประพันธ์ขึ้นความว่า
"จากใจ ถึงใจ ไทยทุกผู้
เรารวมอยู่ เป็นชาติ นานนักหนา
ทั้งบ้านเรือน ก่อสร้าง พัฒนา
เพื่อวันนี้ วันหน้า เชื่อมโยงกัน
อยากจะให้ มีใคร จิตอาสา
ประชารัฐ พัฒนา อย่างสร้างสรรค์
ทั้งคนรวย รายได้น้อย คอยช่วยกัน
สร้างสวรรค์ แผ่นดินทอง พี่น้องไทย
อย่ายอมให้ คนพาล มาผลาญชาติ
ป่าวประกาศ ศักดิ์ศรี ที่ไหนไหน
ให้โลกรู้ แผ่นดินนี้ มีคนไทย
ทั้งรุ่นใหม่ รุ่นเก่า พร้อมยอมพลี
หวังเพียงให้ เกิดพัฒนา นำพาชาติ
กวาดบ้านเมือง ให้สะอาด เกิดสุขขี
เราจะพร้อม ยอมตาย สามัคคี
แผ่นดินนี้ พลังประชารัฐ รวมคนไทย"
ด้าน นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ตนเองก็เป็นชาวโคราช เพราะครอบครัวเป็นคนโคราช จึงมาขอเสียงชาวโคราช และถึงแม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ได้มา แต่เชื่อว่าจะได้ยินเสียงให้กำลังใจจากคนที่นี่ ขณะเดียวกัน พรรคพลังประชารัฐ เริ่มมาเป็นระยะเวลา 4 เดือน แต่ทุกโพลคะแนนไม่ลำดับ 1 ก็ลำดับ 2 เพราะมีนโยบายต่างๆที่ตอบโจทย์ประชาชน อาทิ บัตรประชารัฐ พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 5 ปี มารดาประชารัฐ ส.ป.ก. 4.0 สนับสนุนค่าเก็บเกี่ยวค่าปลูกข้าว รวมถึงจากนี้ จะช่วยคนจนที่ไม่มีบ้าน ด้วยการเดินหน้าบ้านล้านหลัง บ้านมั่นคง บ้านพอเพียง ด้วย
นายสุริยะ ได้ประกาศเชิญชวนให้ประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐเป็นรัฐบาล พร้อมประกาศย้ำนโยบายพักหนี้ให้กับประชาชนที่เป็นหนี้กองทุนหมู่บ้าน ผ่านนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ผ่านการตั้งกองทุนประชารัฐ หมู่บ้านละ 2 ล้านบาท “สาเหตุที่ผมต้องกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้ง เพราะเห็นความยากจนของประชาชน ที่สำคัญ มีคนมาขอให้ช่วยกันทำงานเพื่อประเทศ และยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนดี ตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ” นายสุริยะ กล่าว.
