รองนายกฯ ระบุ สมาชิก ทษช.ไปเป็นสมาชิกพรรคอื่นได้ ช่วยหาเสียงได้ แต่ลงสมัคร ส.ส.ไม่ได้ ไล่ไปเอาเยียวยาจากพรรค เผย กกต.ต้องแจ้ง ปชช.ให้ทราบว่าพรรคถูกยุบ หากกาเป็นบัตรเสีย
วันนี้ (7 มี.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ว่า สมาชิกคนอื่นตามกฎหมายเมื่อยุบพรรคแล้ว ก็ต้องพ้นความเป็นสมาชิก เพราะไม่มีพรรคอยู่ ก็อิสระจะไปไหนก็ได้ จะไปอยู่พรรคไหนก็ได้ หากเขารับ ส่วนที่จะไปสมัครรับเลือกตั้งนั้นไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคนั้น 90 วัน เมื่อถามว่า สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติจะไปช่วยพรรคอื่นหาเสียงได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เขาไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เขาเป็นประชาชนทั่วไป
เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยจะส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงไปสมัครในเขตที่พรรคไทยรักษาชาติเคยสมัครได้หรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ไม่ได้ เพราะปิดบัญชีไปแล้ว ต่างคนต่างสมัคร ทุกคนได้เบอร์ในเขตที่ตัวเองสมัครแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบบเขตหรือแบบบัญชีรายชื่อก็ตาม วิธีคิดง่ายๆ หากพรรคเขาไม่ถูกยุบก็ต่างคนต่างอยู่ เบอร์ใครเบอร์มัน พรรคใครพรรคมัน เขตใครเขตคนนั้น บัญชีรายชื่อก็อยู่อย่างนั้น ซึ่งวันนี้คือพรรคหาย ส.ส.เขตหาย บัญชีรายชื่อก็หายด้วย ก็ไม่มีอะไรที่ต้องไปฮุบหรือใช้ประโยชน์อะไร ส่วนสมาชิกเดิมของพรรคที่ถูกยุบจะไปช่วยใครก็แล้วแต่ท่าน เพราะเขาคือประชาชนทั่วไป
เมื่อถามว่าจะมีการเยียวยาสมาชิกที่พรรคถูกยุบหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า จะไปเยียวยา ไปเอาอะไรกับใคร ไปเอากับพรรคสิ เราก็ยุบกันมาหลายครั้ง ก็มีบทเรียนที่จะต้องปฏิบัติกันอย่างไรสำหรับในอนาคต เมื่อถามว่าหากมีคะแนนที่ประชาชนไปกาให้กับพรรคไทยรักษาชาติจะนับอย่างไร นับเป็นบัตรเสียใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่นับปาร์ตี้ลิสต์ และไม่นับอะไรทั้งนั้น เพราะไม่มีพรรคนี้อยู่แล้ว ถือว่าไม่ได้ลงสมัครในการเลือกตั้งครั้งนี้ เบอร์นั้นจะไม่มีในเขตนั้น ไม่มีการนับ เพราะว่าเป็นบัตรเสีย เมื่อถามว่าหลังจากนี้ กกต.จะต้องแจ้งว่าพรรคถูกยุบ ในส่วนของบัตรที่พิมพ์จะทำอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ กกต.ต้องแจ้งให้ทราบ จะมาบอกว่าทุกคนดูโทรทัศน์เหมือนกันไม่ได้ เพราะมีการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรด้วย
เมื่อถามว่า ศาลวินิจฉัยให้เพิกถอนสิทธิการรับสมัครเลือกตั้งของกรรมการบริหารพรรค 10 ปี ถือว่าเป็นการลงโทษสถานเบาหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่วิจารณ์ เบาหรือหนักตนไม่รู้ ซึ่งในรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้เขียนว่าตลอดชีวิต แต่เอาไปแปลกันว่าเมื่อไม่ได้เขียนเวลาไว้ก็คงตลอดไป ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญก็แปลใหม่ว่าเป็นเรื่องที่ศาลใช้ดุลพินิจแปลตรงนี้ได้ ถ้าเป็นคดีอื่นศาลก็อาจจะแปลเป็นอีกอย่าง เพราะว่าศาลระบุว่าเอาความผิด เอาการกระทำมาเป็นตัวตั้ง และใช้เทียบมาตรฐานในการเพิกถอนสิทธิ์ในกรณีอื่นๆ ลดจากไม่มีกำหนดเวลาสูงสุดคือ 10 ปีอยู่แล้ว เมื่อถามว่าสถานการณ์การเมืองจากนี้จะนิ่งหรือร้อนแรงขึ้น นายวิษณุ ตอบว่า ไม่ทราบ