ตร.คุมเข้มรอบศาล รธน.สั่งเป็นพื้นที่ควบคุม ห้ามชุมนุมในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร รอบศาล รธน.ตุลาการเตรียมประชุมชี้ชะตา ทษช.บ่ายครึ่ง สั่งตัดสัญญาณโทรศัพท์ หวั่นข่าวรั่ว ก่อนอ่านคำวินิจฉัยบ่ายสาม เปิดกรอบวินิจฉัย 5 ประเด็น
วันนี้ (7 มี.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญจะประชุมเวลา 13.30 น.เพื่อให้องค์คณะตุลาการนำคำวินิจฉัยส่วนตนมาแถลงด้วยวาจา ในคดีที่ กกต.ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักษาชาติ จากกรณีเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเข้าข่ายผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 กระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก่อนที่จะลงมติและทำคำวินิจฉัยกลาง แล้วออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีรับทราบในเวลา 15.00 น.
บรรยากาศโดยรอบศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีการวางกำล้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1,200 นาย ประจำตามจุดทั้งบริเวณรอบอาคาร ซึ่งเป็นที่ทำการของศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เป็นระยะๆ บริเวณด้านใน เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยระหว่างการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยังไม่เห็นมวลชนของพรรคไทยรักษาชาติเดินทางมาที่ศาลรัฐธรรมนูญในช่วงเช้านี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำคำสั่งกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ลงนามโดย พล.ต.ต.ภัคพงษ์ พงษ์เภตา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ประกาศห้ามชุมนุมสาธารณะในรัศมีไม่เกิน 50 เมตร รอบพื้นที่ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฎีกามาติดโดยรอบอาคาร ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า ทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์บริเวณรอบห้องประชุมคณะตุลาการจนกว่าการประชุมจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันการดักฟังและข่าวรั่วไหล
สำหรับคดีดังกล่าวศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณาตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา และเปิดโอกาสให้พรรคไทยรักษาชาติ ทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นลายลักษณ์อักษร โดยมีการแก้ข้อกล่าวหาว่า การเสนอบัญชีนายกฯของพรรคเป็นไปโดยสุจริตตามข้อกฎหมายและรัฐธรรมนูญ และได้รับคำยินยอมจากบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อ ไม่ได้มีการแอบอ้าง เมื่อมีพระราชโองการพรรคก็น้อมรับ อีกทั้งเห็นว่ามติ กกต.เป็นไปไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากไม่มีการตั้งกรรมการไต่สวน และไม่เปิดโอกาสให้พรรคไทยรักษาชาติได้ชี้แจง โดยศาลรัฐธรรมนูญยังได้นำหลักฐานของนายรุ่งเรือง พิทยศิริ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาาติ ที่ยืนยันว่า ลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ไม่มีส่วนรู้เห็นกับการเสนอบัญชีนายกฯดังกล่าวไว้รวมในสำนวนด้วย และในวันนี้ก็แจ้งให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาฟังคำวินิจฉัย ซึ่งในส่วนของพรรคไทยรักษาชาติ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมแกนนำพรรครวม 6 คน จะเดินทางมารับฟังคำวินิจฉัยด้วยตัวเอง โดยได้ขอร้องมวลชนให้รอฟังผลอยู่ที่บ้าน แทนที่จะเดินทางมาศาลรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุแทรกซ้อน
มีรายงานว่า กรอบการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะมี 5 ประเด็นหลัก ไล่ตั้งแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจรับคำร้องไว้หรือไม่ มติ กกต.ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ คำชี้แจงของพรรคไทยรักษาชาติฟังขึ้นหรือไม่ การเสนอบัญชีนายกฯ ขัด พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 หรือไม่ และหากยุบพรรคกรรมการบริหารพรรคทั้ง 14 คน ต้องร่วมรับผิดชอบ หรือยกเว้นนายรุ่งเรืองที่ยืนยันว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
