“สมศักดิ์ เทพสุทิน” เชื่อ ปชช.อยากฟัง “บิ๊กตู่” ปราศรัย เป็นแรงใจสู้งานต่อ แนะทีมงานเช็กข้อ กม.ให้ชัวร์ เหตุมีคนจ้องจับผิด เตรียมเปิดเวทีใหญ่ภาคเหนือสัปดาห์หน้า เสนออัดงบเพิ่มค่าเกี่ยวข้าวไร่ละ 3,500 บาท “รองโฆษก พปชร.” วอนฝ่ายตรงข้ามเลิกถล่ม “บิ๊กตู่” ดวลกันที่นโยบายดีกว่า
วันนี้ (5 มี.ค.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ เตรียมเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ในฐานะผู้ถูกเสนอชื่เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ช่วยหาเสียงและขึ้นเวทีปราศรัยว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยพรรคพลังประชารัฐหาเสียงได้จะเป็นประโยชน์ต่อคะแนนและกระแสของพรรคเป็นเชิงบวกสูงอย่างมาก ประชาชนเองอยากฟัง พล.อ.ประยุทธ์ พูดปราศรัยและยินดีออกมาต้อนรับอย่างล้นหลาม และตรงนี้จะเป็นกำลังใจที่จะทำให้ท่านสู้กับงานหนักต่อไปได้อีก 4 ปี เป็นพลังให้เริ่มต้นใหม่อีกครั้งอย่างแรงกล้า อย่างไรก็ดีทีมงานจะต้องศึกษารายละเอียดของข้อกฎหมายต่างๆ ให้รอบคอบว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ ไม่ให้สิ่งต่างๆ ที่ท่านจะทำผิดกฎหมายและข้อบังคับ เนื่องจากขณะนี้บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ จ้องที่จะรุมกินโต๊ะทั้งพรรคพลังประชารัฐและ พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นตรงจุดนี้ต้องวางแผนให้ละเอียดรอบคอบ
ส่วนการเตรียมการหาเสียงในส่วนของภาคเหนือนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงนี้ภาคเหนือเราปรับเป็นเวทีปราศรัยเล็ก และกำลังเร่งทำนโยบายเสริมเข้าไปอีก โดยในช่วงสัปดาห์หน้าเราจะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.สุโขทัย และ จ.เชียงราย คาดว่าจะมีประชาชนสนใจมาร่วมฟังการปราศรัยจำนวนมาก และน่าจะเป็นภาพที่สวยงาม ทั้งนี้ ยังมั่นใจในเป้าหมาย 20 ที่นั่งในส่วนของภาคเหนือ ที่จะได้ตามเป้าหมาย จากการลงพื้นที่กระแสของพรรคยังดีอยู่มาก นอกจากนี้ยังเราได้ทำนโยบายใหม่ที่จะถูกใจเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนา จากเดิมที่รัฐให้ค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 2,000 บาท ครอบครัวละ 20 ไร่ หากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาลเราจะเพิ่มให้อีกไร่ละ 1,500 บาท รวมแล้วชาวนาจะได้ไร่ละ 3,500 บาท ตกแล้วจะได้ครอบครัวละ 70,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งเงินที่เพิ่มมานั้นเราเอามาจากเงินค่าเก็บข้าว การชะลอขายข้าวเปลือก ซึ่งปีที่ผ่านมาเงินส่วนนี้ยังไม่ได้ใช้เลย เราจึงจะปรับเอามาช่วยชาวนาตรงจุดนี้ โดยหลังจากนี้เราจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้ทราบ ตนมั่นใจว่านี่คือการช่วยเหลือพี่น้องชาวนาให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ลดภาระหนี้สินและทำให้เงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
ขณะที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขณะนี้บรรยากาศหาเสียงเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเข้มข้น ทุกพรรคการเมืองลงพื้นที่อย่างหนัก อยากจะวิงวอนให้แกนนำพรรคการเมืองบางพรรคหยุดพูดโจมตีดิสเครดิต พล.อ.ประยุทธ์ เหลือเวลาไม่ถึง 20 วัน จะมีการเลือกตั้งแล้ว น่าจะเอาเวลาไปหาเสียงดีกว่า โดยเฉพาะการนำเสนอนโยบายที่ดีให้กับประชาชน ไม่ใช่ไปเวทีไหนก็โจมตีแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สร้างสรรค์เลย ทั้งที่ประชาชนอยากฟังนโยบายมากกว่า ส่วนที่มีการร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น มั่นใจว่า มีคุณสมบัติถูกต้องตามกฎหมาย สามารถเป็นนายกฯได้ ไม่เข้าใจที่พรรคการเมืองบางพรรคร้องเรียนรายวัน การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ มี 1 เสียงเท่ากันหมด หยุดโจมตีเรื่องสืบทอดอำนาจได้แล้ว เพราะอำนาจเป็นของประชาชน ไม่สามารถสืบทอดกันได้
“เชื่อว่าพี่น้องประชาชนเข้าใจดี พล.อ.ประยุทธ์ มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะสานงานต่อ เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่รัก พล.อ.ประยุทธ์ให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้บ้านเมืองสงบและมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ของ พล.อ.ประยุทธ์” นายธนกร กล่าว
วันนี้ (5 มี.ค.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ เตรียมเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ในฐานะผู้ถูกเสนอชื่เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ช่วยหาเสียงและขึ้นเวทีปราศรัยว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยพรรคพลังประชารัฐหาเสียงได้จะเป็นประโยชน์ต่อคะแนนและกระแสของพรรคเป็นเชิงบวกสูงอย่างมาก ประชาชนเองอยากฟัง พล.อ.ประยุทธ์ พูดปราศรัยและยินดีออกมาต้อนรับอย่างล้นหลาม และตรงนี้จะเป็นกำลังใจที่จะทำให้ท่านสู้กับงานหนักต่อไปได้อีก 4 ปี เป็นพลังให้เริ่มต้นใหม่อีกครั้งอย่างแรงกล้า อย่างไรก็ดีทีมงานจะต้องศึกษารายละเอียดของข้อกฎหมายต่างๆ ให้รอบคอบว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ ไม่ให้สิ่งต่างๆ ที่ท่านจะทำผิดกฎหมายและข้อบังคับ เนื่องจากขณะนี้บรรดาพรรคการเมืองต่างๆ จ้องที่จะรุมกินโต๊ะทั้งพรรคพลังประชารัฐและ พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นตรงจุดนี้ต้องวางแผนให้ละเอียดรอบคอบ
ส่วนการเตรียมการหาเสียงในส่วนของภาคเหนือนั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงนี้ภาคเหนือเราปรับเป็นเวทีปราศรัยเล็ก และกำลังเร่งทำนโยบายเสริมเข้าไปอีก โดยในช่วงสัปดาห์หน้าเราจะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ จ.สุโขทัย และ จ.เชียงราย คาดว่าจะมีประชาชนสนใจมาร่วมฟังการปราศรัยจำนวนมาก และน่าจะเป็นภาพที่สวยงาม ทั้งนี้ ยังมั่นใจในเป้าหมาย 20 ที่นั่งในส่วนของภาคเหนือ ที่จะได้ตามเป้าหมาย จากการลงพื้นที่กระแสของพรรคยังดีอยู่มาก นอกจากนี้ยังเราได้ทำนโยบายใหม่ที่จะถูกใจเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนา จากเดิมที่รัฐให้ค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 2,000 บาท ครอบครัวละ 20 ไร่ หากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาลเราจะเพิ่มให้อีกไร่ละ 1,500 บาท รวมแล้วชาวนาจะได้ไร่ละ 3,500 บาท ตกแล้วจะได้ครอบครัวละ 70,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งเงินที่เพิ่มมานั้นเราเอามาจากเงินค่าเก็บข้าว การชะลอขายข้าวเปลือก ซึ่งปีที่ผ่านมาเงินส่วนนี้ยังไม่ได้ใช้เลย เราจึงจะปรับเอามาช่วยชาวนาตรงจุดนี้ โดยหลังจากนี้เราจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนได้ทราบ ตนมั่นใจว่านี่คือการช่วยเหลือพี่น้องชาวนาให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ลดภาระหนี้สินและทำให้เงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
ขณะที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขณะนี้บรรยากาศหาเสียงเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเข้มข้น ทุกพรรคการเมืองลงพื้นที่อย่างหนัก อยากจะวิงวอนให้แกนนำพรรคการเมืองบางพรรคหยุดพูดโจมตีดิสเครดิต พล.อ.ประยุทธ์ เหลือเวลาไม่ถึง 20 วัน จะมีการเลือกตั้งแล้ว น่าจะเอาเวลาไปหาเสียงดีกว่า โดยเฉพาะการนำเสนอนโยบายที่ดีให้กับประชาชน ไม่ใช่ไปเวทีไหนก็โจมตีแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สร้างสรรค์เลย ทั้งที่ประชาชนอยากฟังนโยบายมากกว่า ส่วนที่มีการร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น มั่นใจว่า มีคุณสมบัติถูกต้องตามกฎหมาย สามารถเป็นนายกฯได้ ไม่เข้าใจที่พรรคการเมืองบางพรรคร้องเรียนรายวัน การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ มี 1 เสียงเท่ากันหมด หยุดโจมตีเรื่องสืบทอดอำนาจได้แล้ว เพราะอำนาจเป็นของประชาชน ไม่สามารถสืบทอดกันได้
“เชื่อว่าพี่น้องประชาชนเข้าใจดี พล.อ.ประยุทธ์ มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะสานงานต่อ เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้า อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนทั่วประเทศที่รัก พล.อ.ประยุทธ์ให้เลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้บ้านเมืองสงบและมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ของ พล.อ.ประยุทธ์” นายธนกร กล่าว
