xs
xsm
sm
md
lg

รบ.แจง “บุ๋ม” ดูแลคิวทีมหมูป่า หวังทำให้เป็นระบบ ป้องเด็กไม่อยากดังแค่ไปตามที่ขอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รองโฆษกรัฐ เคลียร์ดรามา “บุ๋ม ปนัดดา” รับหน้าที่ดูแลคิวงานทีมหมูป่า แจงหวังทำให้เป็นระบบ รบ.มีหน้าที่ให้คำแนะนำ โต้กระแสผู้ใหญ่ทำเสียการเรียน ระบุ แล้วแต่มุมคนคิด ป้องเด็กไม่อยากดังแต่ไปตามที่คนขอ

วันนี้ (5 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี พิธีกรและนักแสดงชื่อดัง เข้ามาเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ของกลุ่มนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่า อะคาเดมี 13 คน ที่ประสบเหตุติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อปีที่แล้ว ว่า ในเรื่องธุรกิจต่างๆ รัฐบาลไม่สามารถเป็นตัวแทนในการตกลง หรือเซ็นอะไรได้ ได้แต่ให้คำแนะนำ ส่วนการตัดสินใจต้องเป็นของเขา และหากเป็นงานที่มีต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงพาณิชย์ ควรจะต้องจัดให้มีการจดทะเบียนเป็นคณะบุคคล หรือเป็นกลุ่ม ในลักษณะใดลักษณะหนึ่ง หรือเป็นแบบกลุ่มบริษัท เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องการจัดตั้งบริษัท เพื่อเป็นตัวแทนของทั้ง 13 ครอบครัว ซึ่งหากรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องรายได้ที่ได้ทั้งหมดก็จะกลับเข้าสู่กระทรวงการคลัง ซึ่งมีผู้ใหญ่ได้แนะนำ น.ส.ปนัดดา มาให้ดูแลเรื่องนี้ เนื่องจากได้ติดตามเด็กๆ มาบ้าง และเราเห็นว่าเขามีศักยภาพ จึงให้มาเป็นที่ปรึกษาในการจัดระบบตารางการออกงาน ให้เป็นระบบมากขึ้น

เมื่อถามว่า มีการมองว่า ผู้ใหญ่พาเด็กไปออกงานจนเสียเวลาเรียน พล.ท.วีรชน กล่าวว่า ไม่อยากให้มองอย่างนั้น แต่ข้อเท็จจริงก็คือบางคนอยากให้ไปงานนี้ แต่พอดีเด็กๆ ติดอีกงาน แต่คนที่เขารอโดยเฉพาะในพื้นที่ก็อยากให้เด็กไปทุกงาน ซึ่งทุกครั้งผู้ปกครองจะปรึกษาตน และตนก็บอกไปว่าสามารถปฏิเสธได้ถ้าไม่ไป เพื่อไม่ให้เสียการเรียน แต่บางทีเด็กก็เกรงใจ ผู้ปกครองก็ไม่กล้าปฏิเสธ เพราะไม่ใช่มีแค่งานของรัฐเท่านั้น การที่ น.ส.ปนัดดา เข้ามาก็เป็นเรื่องดี ที่จะจัดให้มีระบบยิ่งขึ้น ซึ่งในบริษัทที่ตั้งขึ้นมาก็จะให้เขาเลือกกันเองในกลุ่มผู้ปกครองว่าจะให้ใครเป็นคณะกรรมการ อย่างไรก็ตาม ตารางงานยังคงมีมาอีกเรื่อยๆ

เมื่อถามต่อว่า มีกระแสสังคมมองว่าเป็นการเลยเถิดมาไกลมาก เพราะข้อเท็จจริงทั้ง 13 คนเป็นผู้ประสบภัยไม่ใช่ฮีโร่ พล.ท.วีรชน กล่าวว่า “กระแสนี้ถูกคนที่จะใช้เด็กแบ่งเป็นสองส่วน คือ คนที่จะใช้ประโยชน์จากเด็ก ลากเด็กไป และคนที่คิดลบ ก็มีวิธีการคิดอีกแบบหนึ่ง เด็กเพียงทำตามในสิ่งที่คนขอร้อง เขาก็ไม่ได้อยากดัง อยากสนุนสนานตามประสา แต่ก็ต้องไปตามที่คนขอร้อง คนที่มีอคติก็จะโจมตีว่าเด็กพวกนี้ทำตัวอยากดัง แต่เด็กไม่ได้เป็นดารา ก็แค่ไปตามที่เขาขอร้อง บางที่ก็น่าเห็นใจ ถ้ามีงานแล้วไม่ไป ก็จะโดนกล่าวหาอีก ฉะนั้นต้องเห็นใจเด็ก ว่า ไม่ไปก็โดนด่า พอไปอีกกลุ่มก็หาว่าเป็นดารา เราจะเอาใจทุกคนมันเป็นไปไม่ได้ แล้วแต่มุมมองแต่ละคนจะคิด รัฐบาลก็พยายามดูให้อยู่ในความเหมาะสมกับบทบาทในงานที่จะไปว่าต้องมีประโยชน์


กำลังโหลดความคิดเห็น