xs
xsm
sm
md
lg

พปชร.อ้อนชาวร้อยเอ็ด 24 มี.ค.เทคะแนนเลือกผู้สมัครของพรรค สานต่อนโยบายรัฐนาวา “บิ๊กตู่”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

“สุรพร” อ้อนชาวร้อยเอ็ด 24 มีนา เทคะแนนเลือกผู้สมัคร “พปชร.” กำหนดอนาคตประเทศ ย้ำสานต่อนโยบายรัฐนาวา “บิ๊กตู่” แก้จน เพิ่มรายได้ เดินหน้ามั่งคั่ง-ยั่งยืน เกษตรกรมีกินมีใช้ ลั่นต่อยอดเติมสิทธิบัตรประชารัฐ


วันที่ 2 มี.ค. เวลา 09.00 น. ที่เวทีวัดโพธิ์ร้อยต้น อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 25 ขึ้นเวทีปราศรัยช่วย นายเอกภาพ พลซื่อ ผู้สมัคร ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 3 หาเสียง โดยนายสุรพร ปราศรัยว่า นโยบายพรรคพลังประชารัฐ เกิดจากประสบการณ์ของอดีตรัฐมนตรี ที่เตรียมแนวทางแก้ปัญหาในอดีต ที่สะสมมาจากความขัดแย้งทางการเมือง ไม่ว่าจะปิดสนามบิน ปิดท่าเรือ ปิดรัฐสภา ปิดหน่วยราชการ การเผาทำลายบ้านเมือง ต่อเนื่องของการเมืองคู่ขัดแย้ง นานนับ 10 ปี จนทำให้คู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ ขาดความเชื่อมั่น การค้าในประเทศ การส่งออกลดลงอย่างมหาศาล ส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำในสังคม กระจายวงกว้าง ลูกหลานชาวอีสาน ที่ทำมาหากินใน กทม.ต่อไปไม่ไหว กลับมาเปิดร้านส้มตำไก่ย่าง ขายต้ม ขายลาบ อาหารตามสั่งในภูมิลำเนา เมื่อร้านค้าเพิ่มจนเกินความต้องการ ยอดการค้าก็ลดฮวบฮาบ

“ถ้าพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาล จะยุติความขัดแย้งในชาติได้ ในช่วงที่สงครามการค้า สหรัฐฯ-จีน มีแนวโน้มประนีประนอม ปัญหาสหรัฐฯ-เกาหลีเหนือ เริ่มชัดเจน จะส่งผลให้ความสันพันธ์ในภูมิภาคดีขึ้น ซึ่งทั้งหมดเป็นคู่ค้าที่อุดหนุนทั้งข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง น้ำตาลของไทย ย่อมทำให้ไทยเพิ่มมูลค่าการค้า จากความสงบและความมีเสถียรภาพทางการเมืองได้” นายสุรพร ระบุ

นายสุรพร กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐ เสนอนโยบายเพื่อให้ชาวบ้านยืนอยู่ได้ และมีความมั่นคง โดยการพักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 3 ปี พร้อมฟื้นฟูไปสู่ความมั่งคั่ง ดูแลสตรีที่ตั้งท้องนับแต่วันแรกที่ท้อง จนถึงอายุ 6 ขวบ รวมกว่า 1.8 แสนบาท ขยายผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ครอบคลุมผู้ที่ตกหล่นจากการโจมตีของพรรคการเมืองต่างๆ จนเสียสิทธิ์ ตลอดทั้งคนพิการ คนชรา เพิ่มสิทธิ์อื่น การแปลงให้ ส.ป.ก.4-01 เป็น ส.ป.ก.4.0 ที่เปิดโอกาศให้ผู้ครอบครองสามารถทำมาหากินได้มากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ๆไม่เหมาะสำหรับการเกษตร นโยบายเหล่านี้ จะปฏิบัติได้เมื่อเรามี ส.ส.มากพอตั้งรัฐบาล จึงต้องช่วยกันทุกเขตเลือกเบอร์ที่สังกัดพรรคพลังประชารัฐ และเมื่อเป็นรัฐบาลแล้วก็ต้องทำตามที่ประกาศต่อประชาชน ถ้าไม่ทำจะผิดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกำหนดบทลงโทษไว้หนักมาก

“วันที่ 24 มี.ค.นี้ จะเป็นวันที่กำหนดให้ชาติปรองดอง กำหนดอนาคตลูกหลานตั้งแต่ตั้งท้อง กำหนดอนาคตราคาสินค้าเกษตร กำหนดว่าพ่อแม่ไม่ต้องนั่งเป็นทุกข์ว่าลูกหลานจะต้องไปชุมนุมแล้วบาดเจ็บ ติดคุก ตกงานจากการปิดบ้าน เผาเมืองอีก” นายสุรพร กล่าวย้ำ

จากนั้นในช่วงบ่าย นายสุรพร พร้อมนางจุรีพร สินธุไพร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และคณะเดินทางไปที่วัดป่าม่วง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เปิดปราศรัยช่วยผู้สมัคร เขต 4 จ.ร้อยเอ็ด น.ส.ตวงรัตต์ วงศ์เวไนย หาเสียงกับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งเปิดเวทีปราศรัยอยู่ภายในวัดป่าสักดาราม ต.ท่าม่วง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด โดยมีพี่น้องประชาชนร่วมฟังการปราศรัยอย่างคับคั่ง

น.ส.ตวงรัตน์ ได้พบปะและขอโอกาสเข้าไปทำหน้าที่ในสภาใหญ่ หลังจากเคยรับใช้พี่น้องประชาชนในตำแหน่ง ส.อบจ.ร้อยเอ็ด เขต อ.เสลภูมิ มาแล้วหลายสมัย เพื่อจะได้ผลักดัน และขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ที่สำคัญของพรรค ให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด


ขณะที่ นายสุรพร กล่าวว่า น.ส.ตวงรัตน์ ถือเป็นหญิงแกร่งคนหนึ่ง ที่มุ่งมั่นทำหน้าที่ในสภาเพื่อพี่น้องประชาชนมาตลอด การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สนับสนุนและสานต่อนโยบายเด่นของรัฐบาล เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การแก้ไขปัญหาความยากจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่จะต้องดำเนินการให้ดีขึ้นและทั่วถึง รวมทั้งรายได้เพิ่มรายได้แก่เกษตรกร ไร่ละ 2,000 บาท เป็นต้น

กำลังโหลดความคิดเห็น