เมืองไทย 360 องศา
พิจารณาตามรูปการณ์แล้วแผนยั่วให้เกิดอารมณ์โกรธจนตบะแตกนาทีนี้ดูแล้วคงจะไม่ได้ผล แม้ว่าการออกมาวิพากษ์วิจารณ์วิจารณ์ผู้นำกองทัพ โดยพุ่งเป้าไปที่"บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าอาจจะดูรุนแรง รวมไปถึงฝ่ายที่เคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ออกมาในแนวดุเดือด แต่เมื่อล่าสุดการตอบโต้และท่าทีที่ออกมาในแบบ"ขีดวงจำกัด"มันก็ทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถขยายวงให้ลุกลามออกไปได้มากกว่านี้
เริ่มต้นมาจากเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องงบประมาณกองทัพ การจัดซื้อยุทโธปกรณ์ รวมไปถึงการคัดค้านการเกณฑ์ทหาร แต่เชื่อว่าเป้าหมายที่แท้จริงมีเจตนาพุ่งเป้าไปที่ผู้นำกองทัพ คือ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็นด้านหลักนั่นแหละ
หรือก่อนหน้านั้นจะสังเกตให้ดีจะเห็นว่าเป้าโจมตีหลักจะไป "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาฅวมมสงบแห่งชาติ หลังจากที่รับเป็นแคดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ และหลังจากเกิด"ปรากฏการเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์"ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันก็ได้เกิด"ข่าวปลอมราชกิจจาฯ" ที่มีคำสั่งปลดบรรดาผู้นำเหล่าทัพ และหนึ่งในนั้นก็มี "บิ๊กแดง"พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบกรวมอยู่ด้วย แต่หลังจากนั้นไม่นาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ออกมาสยบข่าวปลอมดังกล่าวทันควัน พร้อมสั่งการให้สืบหาต้นตอจนพบว่า"ตัวการอยู่ต่างประเทศ"
หลายคนมองออกว่านี่คือ"แผนเสี้ยม"หวังผลหลายชั้น แม้ว่าในระดับผู้นำกองทัพคงจะไม่มีผล เพราะ"รับรู้ข้อเท็จจริง"ร่วมกันอยู่แล้ว แต่ในระดับชาวบ้านเมื่อได้เห็นทั้งเรื่องเหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ กับ"ข่าวปลอม"ดังกล่าวจะก่อให้เกิดความสับสนในสายตาของชาวบ้านย่อมต้องเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนานาแน่นอน
แต่ในที่สุดเมื่อ "บิ๊กตู่"สามารถสยบเกมดังกล่าวได่อย่างรวดเร็ว ประกอบกับกระแสกดดันให้ "บิ๊กตู่"ลาออกก็ไม่ได้ผล ไม่อาจสร้างแรงกดดันได้ ตรงกันข้ามยังเทไปอีกทางเสียอีก สังเกตได้ว่าผลสำรวจทุกโพลที่เป็นโพลหลักล้วนออกมาตรงกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นเต็งหนึ่ง คะแนนยังทิ้งห่างจากฝ่ายพรรคเพื่อไทย ไม่ต้องพูดถึงพรรคไทยรักษาชาติที่เวลานี้ยังลูกผีลูกคน
นั่นคือมองว่า"แผนเสี้ยม"ยังล้มเหลวไม่ได้ลุ้น เพราะทั้งผู้นำรัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และผู้นำกองทัพล้วนเป็น"เอกภาพ" ยังเป็นเนื้อเดียวกัน เมื่อยังไม่สำเร็จยังไม่เป็นไปตามแผน ก็ต้องเบนเข็มเลี้ยวไปอีกทาง เป้าหมายย่อมพุ่งตรงไปที่ "บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เต็มๆ แน่นอนว่าย่อมต้อง"ยั่วยุให้ตบะแตก" หรือเกิดการตอบโต้กลับที่รุนแรง แต่ก็ผิดคาด เพราะแม้ว่าจะดูเด็ดขาดในเรื่องของการ"ไล่ให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดิน" หรือจำกัดวงแค่เปิดเพลงฟังกันภายในค่ายทหาร ไม่ได้ออกอากาศทางสถานวิทยุกองทัพบกทั่วประเทศ
แต่ก็เป็นการแสดงปฏิกิริยาส่งเสียงเตือนเข้มๆให้เห็นว่า "อย่าล้ำเส้น"เข้ามามากนักอะไรประมาณนั้น อย่างไรก็ตามในเมื่อท่าทีในการการตอบโต้ไม่รุนแรงกลับมา เหมือนกับว่าไม่มีแรงสะท้อน ทุกอย่างก็เริ่มเบาลง ไม่เหมือนกับช่วงวันแรกที่ฝ่าย"เครือข่ายทักษิณ ชินวัตร" ตั้งแต่หัวแถวยันปลายแถว ต่างออกมารุมถล่มกันอย่างเมามัน แต่เมื่อในที่สุด"แผนยั่ว"ก็ยังทำท่าไม่ได้ผลก็ต้องเดินหน้าสู่สนามเลือกตั้งกันไป
อย่างไรก็ดีน่าจับตาก็คือ"แรงยั่วยุ"ที่จะต้องเกิดขึ้นต่อเนื่องไปทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง เป้าหมายก็ยังคงเดิมนั่นคือ ทั้ง"บิ๊กตู่"และ"บิ๊กแดง" จะมาแบบ"แพ็กคู่"แยกกันไม่ออก ที่สำคัญจะต้องโฟกัสให้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ลงมาเป็นคู่ขัดแย้งให้ได้ แม้ว่าจะรู้ทันเกม แต่ปัญหาก็คือจะพลาดตบะแตกเสียก่อนหรือเปล่า !!