xs
xsm
sm
md
lg

“วิษณุ” แย้มอำนาจ กกต.วินิจฉัยไม่จบต้องถึงศาล ชี้ กก.บห.ที่ออกก่อนชงชื่อส่อรอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
รองนายกฯ แจงหน้าที่ พปชร.ต้องตอบเสนอชื่อ “ประยุทธ์” ตามข้อบังคับหรือไม่ แย้มอำนาจ กกต.วินิจฉัยไม่จบต้องถึงศาล ชี้ กก.บห.ที่ชิ่งออกก่อนชงชื่อส่อรอด แต่ให้คนนอกเสนอชื่อไม่รอด เบรกนายกฯ ถกหาเสียงพรรคไม่ได้ เชื่อรู้ตัวอยู่แล้ว

วันนี้ (11 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้วินิจฉัยการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ถูกต้องหรือไม่ว่า คำร้องที่ว่าพรรค พปชร.เสนอถูกต้องตามข้อบังคับของพรรคหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ทางพรรค พปชร.ต้องตอบ เพราะข้อบังคับเป็นสิ่งที่สมาชิกพรรคต้องทำ ไม่เกี่ยวกับคนนอก และเป็นเรื่องที่พรรคต้องชี้แจงหากมีการร้องขอ นายกฯ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่พรรคเสนอมา ส่วนคำร้องที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นเจ้าของสื่อนั้น เป็นเรื่องที่ กกต.ต้องดำเนินการ หาก กกต.ไม่ติดใจและเห็นว่าไร้สาระก็จบไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า กกต.มีอำนาจวินิจฉัยคุณสมบัติของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ ของพรรคการเมืองหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า มี แต่ว่าเมื่อวินิจฉัยแล้วถึงที่สุดหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อาจต้องไปศาลหากมีคนไม่พอใจ แต่ถ้าพอใจก็จบ ส่วนจะไปศาลไหนนั้น อยู่ที่เหตุผลในคำวินิจฉัยของ กกต.ว่าใช้เหตุผลอะไร หากเป็นคำวินิจฉัยที่เกี่ยวกับคุณสมบัติเป็นการทั่วไปที่ไม่ได้อ้างอิงศาลรัฐธรรมนูญ ให้ไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ถ้าเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ให้ไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ

“เป็นไปได้อย่างไรที่ กกต.จะไม่มีอำนาจชี้ เพราะทั้งผู้สมัคร ส.ส.และผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ มีเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามที่ กกต.ต้องพิจารณา ในกฎหมายเขียนไว้ชัดว่า กกต.มีเวลาในการพิจารณาคุณสมบัติ เพื่อวินิจฉัยทั้งหมดว่าใครคุณสมบัติผ่านหรือไม่ผ่าน” นายวิษณุกล่าว

เมื่อถามว่า หาก กกต.มีมติเบื้องต้นให้ยุบพรรค ทษช. ระหว่างนั้นพรรค ทษช.ยังสามารถหาเสียงได้อยู่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า เมื่อ กกต.วินิจฉัยออกมา พรรคการเมืองต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัย กกต. เว้นแต่พรรคจะไปร้องให้ศาลคุ้มครองชั่วคราว

ต่อข้อถามว่า ขณะนี้มีกรรมการบริหารพรรค ทษช.ลาออก หากมีการยุบพรรค ทษช.ตามที่มีการร้อง กรรมการคนดังกล่าวจะมีความผิดด้วยหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ผมไม่ทราบว่ามีการลาออกจริงหรือไม่ แต่ถ้าความผิดอันเนื่องมาจากการกระทำที่สำเร็จไปแล้วคงไม่พ้นหรอก แต่หากมีการลาออกไปก่อนที่ ทษช.จะมีมติเสนอชื่อนายกฯ ก็ดูจะเบาไปมาก ซึ่งที่สื่อถามเป็นเรื่องสมมติ ผมก็ตอบตามที่สื่อสมมติ”

เมื่อถามว่า ถ้าคนนอกพรรคมีส่วนต่อการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรค ทษช.ในการเสนอชื่อผู้ที่พรรคจะเสนอให้เป็นนายกฯ จะมีความผิดหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นจะผิดมาก ไม่สุ่มเสี่ยง แต่เลยคำว่าเสี่ยงไปแล้ว”

เมื่อถามถึงการปฏิบัติตัวของ พล.อ.ประยุทธ์สามารถสวมเสื้อที่มีสกรีนชื่อพรรค พปชร.ได้หรือไม่ ทั้งในและนอกเวลาราชการ นายวิษณุกล่าวว่า ถ้าในเวลาคงไม่สมควร แต่ถ้านอกเวลาราชการก็ยังไม่แน่ใจ แต่เรื่องนี้ขนาดนายกฯ ยังไม่สงสัย เราไม่ควรไปสงสัย ถ้าสงสัยก็สงสัยได้เยอะ เช่น สวมเสื้อกล้ามได้หรือไม่ สวมเสื้อทหารได้หรือไม่ เรื่องนี้ยังไม่เกิด ยังไม่ได้ทำ และอาจไม่ได้คิดที่จะทำด้วย เพราะฝ่ายกฎหมายของนายกฯ ก็ให้คำแนะนำไปอยู่แล้วว่านายกฯ ควรต้องระมัดระวังเรื่องอะไรบ้าง

เมื่อถามว่า นายกฯ สามารถหารือกับแกนนำพรรคในเรื่องนโยบายหรือแนวทางการหาเสียงได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ถ้ารู้แน่ชัดว่ามาหารือเรื่องนี้ก็ตอบเลยว่าไม่ได้ แต่เวลาที่เขามาพบกันก็อย่าไปคิดว่าเขามาหารือกันเรื่องนี้ เพราะอาจจะมาหารือกันเรื่องอื่น เรื่องบ้านเมืองเป็นเรื่องที่ใครต่อใครสามารถคุยกันได้ และคนทำงานด้วยกันอาจจะต้องพูดคุยกันบ้าง แต่ถ้าตั้งหลักกันว่ามาคุยเพื่อวางแผนเรื่องการหาเสียงหรือนโยบายพรรค มันไม่ได้ เรื่องเหล่านี้ นายกฯ รู้ตัวอยู่แล้วว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ และท่านคงระมัดระวังตัวเองอยู่แล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น