"อุตตม-สนธิรัตน์-มาดามเดียร์" นำทัพ พปชร.ลุยหาเสียง “สมุทรสาคร” ขึ้นรถ-ลงเรืออ้อนขอคะแนนทั่วเมือง

"อุตตม-สนธิรัตน์-มาดามเดียร์" นำทีมผู้สมัคร ส.ส. 3 เขต ขึ้นรถ-ลงเรือตะลุยหาเสียงทั่วเมืองสมุทรสาคร เชื่อนโยบาย พปชร.ตรงจุด เสนอชื่อนายกฯ "ประยุทธ์" ตรงใจชาวบ้าน เมินพรรคคู่แข่ง ขอเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้งเต็มสูบตามกติกา รธน. เหน็บอย่าอ้าง “ประชาธิปไตย” เป็นของตัวเอง โวประชาธิปไตยแบบ พปชร.ต้องเป็นของส่วนรวม ไม่มีใครสั่งจากเมืองนอกได้ พร้อมชูนโยบายสวัสดิการ “มารดาประชารัฐ” ดูแลเด็กเยาวชนตั้งแต่อยู่ในท้องแม่

วันนี้ (9 ก.พ.) เวลา 09.00 น. นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคฯ พร้อม น.ส.วทัญญา วงศ์โอภาสี หรือมาดามเดียร์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และคณะ เดินทางมาร่วมพิธีเปิดศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ ประจำ จ.สมุทรสาคร บริเวณ ถ.นรราชอุทิศ ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยมี ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสาคร ทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง ประกอบด้วย เขต 1 นายอัคคเดช สุวรรณชัย เขต 2 นายมาโนช เอี่ยมประเสริฐ และเขต 3 น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ พร้อมด้วยสมาชิกพรรค และประชาชน จำนวนมากให้การต้อนรับ

นายอุตตม กล่าวว่า วันนี้เรามาให้กำลังใจแก่ผู้สมัครของจังหวัดสมุทรสาครทั้ง 3 เขตที่อาสาตัวเข้ามารับใช้ประชาชน ซึ่งตนได้บอกกับผู้สมัครทุกคนแล้วว่าให้เต็มที่ พรรคพลังประชารัฐมีความพร้อม และเราได้เสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นพรรคพร้อมเดินหน้าเต็มสูบ สนับสนุนให้ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐทำงานให้ประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาครและศูนย์เลือกตั้งที่มาเปิดในวันนี้ก็มีความพร้อมเพื่อให้มีพลังและเป็นที่รู้จักมีความมุ่งมั่นเต็มที่ทำงานให้ประชาชนด้วยนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่เชื่อว่าโดนใจตรงจุดตอบโจทย์แก่ชาวสมุทรสาครอย่างแน่นอน

“พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคใหม่ก็จริงแม้เกิดมาได้ 3 เดือนกว่าแต่เกิดมาด้วยอุดมการณ์ร่วมกันของสมาชิกพรรคทุกคนและด้วยความมั่นใจตั้งแต่วันแรกว่าเราจะเดินไปบนเส้นทางของประชาธิปไตยเป็นประชาธิปไตยของคนไทยไม่ใช่ของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เป็นวิถีประชาธิปไตยของคนไทยและพรรคพลังประชารัฐอาสามาทำงานให้ประชาชนเพื่อแก้ไขปัญหาด้วยนโยบายนำพา ประเทศไทยก้าวหน้าและก้าวทันโลกให้คนไทยมีความสุข อย่างครอบคลุมและทั่วถึง” นายอุตตม ระบุ

นายอุตตม กล่าวต่อว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ได้ตอบรับบัญชีชื่อนายกฯรัฐมนตรีในนามพรรคพลังประชารัฐไปแล้วซึ่งพรรคมีความมั่นใจและเชื่อว่าเป็นผู้ที่เหมาะสมนำพาประเทศไปข้างหน้า ในสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศชาติที่ต้องการความสงบสุข ต้องการผู้นำที่สามารถจะตัดสินใจได้และทำงานเพื่อประชาชนโดยพรรคพลังประชารัฐได้ช่วยกันคิดและพิจารณาแล้วว่า พลเอกประยุทธ์เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมในเวลานี้ที่จะนำพาประเทศต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นอย่างไรต่อแถลงการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ที่เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. นายอุตตม กล่าวว่า ตน ไม่ได้ให้ความสำคัญต่อความเห็นเรื่องดังกล่าว แต่ขอให้ดูว่าการวางตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้นเป็นอย่างไร การสืบทอดอำนาจหมายความว่าอย่างไร เมื่อได้รับการเสนอชื่อให้อยู่ในรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามกฎเกณฑ์กติกา ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ทำงานในส่วนที่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนชาวไทยและได้แสดงเจตนารมณ์แล้วว่าจะมาทำงานการเมืองต่อในวิถีประชาธิปไตยของคนไทย

เมื่อถามว่ารู้สึกโล่งใจขึ้นหรือไม่ที่พรรคไทยรักษาชาติจะไม่มีแคนนิเดตนายกรัฐมนตรี นายอุตตม กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกโล่งใจอะไรทั้งนั้น เรามุ่งมั่นทำงาน อาสามาทำงานให้ประชาชนมีความมุ่งมั่นชัดเจนในนโยบายแต่ละด้านเพื่อให้สอดรับทุกพื้นที่ เราก็เดินหน้าในเส้นทางของเรา เราทำงานอย่างเต็มที่และมุ่งหวังที่จะได้จำนวนผู้แทนราษฎรที่จะทำให้พรรคพลังประชารัฐมีส่วนในการจัดตั้งรัฐบาล เราทำงานเต็มที่แล้วหวังผลเต็มที่

เมื่อถามว่าหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบรับแล้วได้ให้ข้อชี้แนะเรื่องนโยบายพรรคพลังประชารัฐเพิ่มเติมหรือไม่ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ได้หารือคร่าวๆ ซึ่งพลเอกประยุทธ์มีความเห็นบ้างและพรรคพลังประชารัฐก็รับฟังความเห็นเหมือนกันและเสนอข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งขอให้รอดูว่าจะมีนโยบายออกมาอีกเป็นระยะไม่ช้าไม่นานนี้

ภายหลังเสร็จพิธี นายอุตตม นายสนธิรัตน์ และผู้สมัครทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง ได้พบปะประชาชนบริเวณใกล้เคียงศูนย์ประสานงานเพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากประชาชนในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร

จากนั้น นายอุตตม และนายสนธิรัตน์ ได้ร่วมกับผู้สมัครทั้ง 3 เขตเลือกตั้งขึ้นรถขยายเสียง เดินทางไปยังวัดเจษฎาราม ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร โดยได้เข้าสักการะพระประธานภายในพระอุโบสถ และรูปหล่อพระครูมหาชัยบริรักษ์ หรือหลวงปู่เชย ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวสมุทรสาคร โอกาสนี้ยังได้เข้านมัสการ พระเทพสาครมุนี เจ้าคณะ จ.สมุทรสาคร และเจ้าอาวาสวัดเจษฎาราม ด้วย

ก่อนที่จะเดินทางไปยังท่าเรือวัดโกรกกรากเพื่อโดยสารเรือข้ามฟากไปยังท่าเรือสุขาภิบาล ท่าฉลอม เมื่อถึงบริเวณท่าฉลอมแล้ว นายอุตตม นายสนธิรัตน์ และผู้สมัครทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง ได้แวะพบปะประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยภายในตลาดท่าฉลอม โดยมีพ่อค้าแม่ค้า ประชาชนเข้ามาทักทายและให้กำลังใจอย่างอบอุ่น ก่อนที่คณะจะออกเดินทางไปร่วมพิธีเปิดศูนย์ประสานงานเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ ประจำ อ.บ้านแพ้ว ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ ถ.บ้านแพ้ว-พระประโทน ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร อีกหนึ่งแห่งด้วย

ที่จุดนี้ นายอุตตม ได้กล่าวปราศรัยกับสมาชิกพรรคและประชาชนที่มาต้อนรับตอนหนึ่งว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคพลังประชารัฐจะเป็นพรรคแนวหน้าอย่างแน่นอน เรามีความพร้อมทั้งเรื่องนโยบาย พร้อมทั้งในเรื่องของบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ ทั้งใน จ.สมุทรสาคร ที่เราส่งผู้สมัครทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง รวมไปถึงผู้สมัครทั่วประเทศ และผู้สมัครบัญชีรายชื่อ ตลอดจนทีมงานที่อาจจะไม่ได้เป็นผู้สมัคร แต่ก็มีความพร้อมที่จะทำงานให้กับประชาชนและประเทศชาติ ถึงเราจะพรรคใหม่ หลายคนไม่ใช่นักการเมืองที่ประชาชนคุ้นหน้า แต่เรามีความตั้งใจจริง เพราะเห็นถึงความวุ่นวายแตกแยกที่ผ่านๆมา ก่อนที่ 4 ปีกว่าที่ผ่านมา บ้านเมืองสงบได้ในช่วงรัฐบาลชุดนี้ ทำให้เรามองไปข้างหน้าว่าจะไม่กลับไปเหมือนเดิมอีกแล้ว เพราะความวุ่นวายที่ผ่านมาทำประเทศและกระชาชนบอบช้ำมามาก พวกเราจึงมาคิดกันว่าเวลานี้คนไทยต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข และขออาสาตัวมาทำงานให้พี่น้องประชาชน เพื่อให้บ้านเมืองสงบสุขต่อไป เราจะไม่ปล่อยให้บ้านเมืองกลับไปเสียหายเหมือนเดิม

“วันนี้พรรคเราเกิดขึ้นมาด้วยคนที่คิดเหมือนกัน ต้องการความสงบ ไม่เลือกสี ไม่เลือกฝ่าย เราอยู่ฝ่ายเดียวคือฝ่ายประชาชาชน” นายอุตตม กล่าว

นายอุตตม กล่าวอีกว่า ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง มักมีการพูดถึงคำว่าฝ่ายประชาธิปไตย คำๆนี้พูดง่ายมาก แต่ประชาธิปไตยที่ว่านั้นเป็นของคนบางกลุ่ม เป็นประชาธิปไตยที่มีคนนอกประเทศสั่งการมา หรือเวลาขัดแย้งนำพี่น้องออกสู่ท้องถนน เสียเลือดเสียเนื้อหรือไม่ แบบนั้นไม่ใช่ประชาธิปไตยของเรา เพราะประชาธิปไตยของพรรคพลังประชารัฐ ต้องนำมาซึ่งความสงบไม่แบ่งแยกฝักฝ่าย นี่คือประชาธิปไตยของพรรคพลังประชารัฐ ที่ประชาธิปไตยต้องเป็นของทุกคน ไม่มช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่มีใครเป็นเจ้าของพรรค

“วันนี้เราพูดถึงผู้นำประเทศ ที่ต้องมารักษาความสงบ ทำให้คนไทยมองไปข้างหน้าอย่างแจ่มใส ไม่ต้องกลัวว่าจะมีความขัดแย้งเกิดขึ้นอีก พรรคพลังประชารัฐ จึงได้เสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เป็นนายกฯคนต่อไปของคนไทย เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้นำที่เหมาะสมในสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด” นายอุตตม ระบุ

นายอุตตม ยังได้กล่าวถึงแนวนโยบายด้านสวัสดิการของพรรคด้วย นอกเหนือจากการต่อยอดบัตรประชารัฐให้ครอบคลุมประชาชนทุปกลุ่ทแล้ว ยังจะเสริมสวัสดิการเฉพาะกลุ่ม ทั้งผู้สูงวัยหรือผู้พิการ ที่ต้องได้รับการดูแลสุขภาพความเป็นอยู่ครบถ้วนทั่วถึง ตลอดจนการพัฒนาเด็กเยาวชน ที่พรรคจะนำเสนอนโยบาย “มารดาประชารัฐ” ด้วยหลักคิดที่ว่าการดูแลเด็กเยาวชนอนาคตของชาติต้องเริ่มดูแลตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ดูแลแม่และเด็กมีพัฒนาการอย่างมีคุณภาพไปพร้อมๆกัน เราจึงต้องดูแลสตรีมีครรภ์ ตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนไปถึงคลอด ดูแลต่อไปอย่างน้อยถึง 6 ขวบ เนื่องจากมีการศึกษาวิจัยแล้วว่า ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการเจริญเติบโตคือตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึง 6 ขวบ ทำให้เด็กที่เกิดมาสุขภาพดี สมองดี พัฒนาการที่ดี และมีอนาคตที่ดี เป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต.