เมืองไทย 360 องศา
แน่นอนว่า ระดับชื่อชั้นแบบ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มันก็ต้องอลังการงานสร้างให้สมน้ำสมเนื้อ สมฐานะกันหน่อย กับการเคลื่อนขบวนของระดับผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐชุดใหญ่ มาเชื้อเชิญให้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคในลำดับที่ 1 หรือที่เรียกตามแบบฟอร์ม ว่า “หนังสือยินยอมให้เสนอชื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี” โดยตามข่าวระบุว่า จะมีการเคลื่อนขบวนเข้าทำเนียบรัฐบาลในราวเวลา 16.45 น. เป็นต้นไป มีเจตนาให้พ้นเวลาราชการ
ตามกำหนดการคร่าวๆ สำหรับรายชื่อของทีมพรรคพลังประชารัฐ ที่เข้าทำเนียบฯไปเชื้อเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เป็นต้น พร้อมกับนำเอกสารนโยบายพรรคไปให้พิจารณาก่อนตัดสินใจ
โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวก่อนหน้านี้ว่า จะใช้เวลาในการตัดสินใจจนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับสมัคร ส.ส. ของพรรคการเมืองตามกฎหมาย
อย่างไรก็ดี นั่นเป็นเพียงลีลาทางการเมืองเท่านั้น เพราะตามความเป็นจริงต้องมีการหารือตกลงปลงใจกันมาล่วงหน้านานแล้ว เพราะหากปฏิเสธก็คงสั่งห้ามไม่ให้เข้าทำเนียบฯมาตั้งแต่ต้นแล้ว แต่นี่กลับเตรียมห้องเอาไว้ต้อนรับพร้อมสรรพ พร้อมกับเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวถ่ายภาพกันอย่างเต็มที่ ภาพจึงพอคาดเดาล่วงหน้าได้ว่าน่าจะ “อลังการ” แน่นอน
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ต้องทำให้เป็นแบบนั้น เพราะสำหรับ “บิ๊กตู่” แล้ว ถือว่าเป็นผู้นำขั้วอำนาจที่สำคัญทั้งในยุคปัจจุบันและอนาคตหลังการเลือกตั้ง ที่คาดหมายกันว่า เป็น “ตัวเต็ง” สำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยจะเป็นการแข่งขันกันตามกติกาใหม่เป็นอีกขั้วสำคัญ นอกเหนือจากพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะหากโฟกัสกันแบบเจาะลึกทางการเมือง นั่นคือ พรรคการเมือง “เครือข่ายของ ทักษิณ ชินวัตร” ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย และ พรรคไทยรักษาชาติ เป็นต้น ส่วนอีกขั้วที่สาม ก็คือ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน นาทีนี้เป็นการฟันธงไว้ล่วงหน้าว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะยอมรับการเสนอชื่อเป็นนายกฯในบัญชีพรรคพลังประชารัฐร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยมี นายอุตตม สาวนายน เป็นอันดับสอง และ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์เป็นอันดับสาม เพราะจะว่าไปแล้วนี่คือ การ “เตรียมการ” มาล่วงหน้าอย่างดี และเป็นขั้นเป็นตอน และที่สำคัญ นี่คือ การเดินมาตามกติกา ตามเส้นทาง “นายกฯคนใน” สามารถลดเงื่อนไขโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามลงไป
อย่างไรก็ดี แนวโน้มกำลังจะเกิดขึ้นในเวลานี้ ก็คือ ความพยายามในการโหมกระแสของพรรคเครือข่าย ทักษิณ ที่เข้าไปยึดครองจับจองประชาธิปไตยเป็นของส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว พยายามสร้างวาทกรรมขึ้นมาใหม่ให้สังคมเลือกข้าง ระหว่างพรรคสนับสนุนทหาร กับ พรรคฝ่ายประชาธิปไตย แม้ว่าเมื่อพิจารณาจากแบ็กกราวนด์ และความเคลื่อนไหวในอดีตของฝ่ายหลัง มันไม่ค่อยน่าไว้วางใจ แต่ในเมื่อมั่นใจ และให้เลือกแบบนี้ บางทีมันก็น่าเสี่ยง และวัดกันไปเหมือนกัน ว่า ฝ่ายประชาธิปไตยที่แอบอ้างกันนั้นมันแบบไหนกันแน่
สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังจากยอมรับการเสนอชื่อเป็นนายกฯในนามพรรคพลังประชารัฐแล้ว ถือว่าเข้าสู่โหมดของนักการเมืองเต็มตัว ซึ่งเชื่อว่า คนอย่างเขาต้องเตรียมพร้อมเอาไว้อย่างดีแล้ว สำหรับบทบาทใหม่ที่กำลังก้าวเดินไปข้างหน้า!!