xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ปล่อยของทีละขยัก นายกฯ-พลังประชารัฐ เต็งจ๋า!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เมืองไทย 360 องศา





ก็ต้องบอกว่า “ปล่อยของ” ออกมาทีละขยักจริงๆ สำหรับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ล่าสุด ก็เผยท่าทีออกมาชัดเจนขึ้นไปอีกขั้นว่า “ได้ตัดสินใจแล้ว” เมื่อถูกถามเรื่องอนาคตทางเมือง โดยเฉพาะเรื่องการรับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ในบัญชีของพรรคการเมือง เพียงแต่เวลานี้กำลังรอให้เขามาเชิญ และศึกษานโยบายว่าไปกันได้หรือไม่เท่านั้นเอง และใช้เวลาตัดสินใจและเปิดเผยให้ทราบไม่เกินวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันเปิดรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และกฎหมายกำหนดให้ต้องเปิดตัว

อย่างไรก็ดี ในวงการก็รับรู้กันทั่วแล้วว่า พรรคการเมืองที่จะเสนอชื่อ “บิ๊กตู่” ในบัญชีที่เสนอเป็นนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 1 ก็คือ พรรคพลังประชารัฐ นี่แหละ และมีความเคลื่อนไหวที่เข้มข้นขึ้นหลังจากที่ 4 รัฐมนตรีที่เป็นแกนนำของพรรคได้ลาออกจากตำแหน่งในรัฐบาล และมีผลตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม เป็นต้นไป โดย 4 คนดังกล่าวทบทวนรายชื่อกันอีกที คือ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และ นายกอบศักดิ์ ภู่ตระกูล โฆษกพรรค

ก่อนหน้านี้ นายอุตตม สาวนายน เคยกล่าวว่า พรรคจะมีการพิจารณาเพื่อเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ และแม้ว่าตอนนั้น (ราววันที่ 28-29 มกราคม) ยังไม่ได้ทาบทามใคร เพราะต้องประชุมพรรคก่อนตามระบบ แต่เชื่อเถอะมาถึงตอนนี้แล้วฟันธงแบบไม่ต้องกลัวหน้าแตกได้เลยว่ารายชื่อบัญชีนายกรัฐมนตรีอันดับที่ 1 ของพรรคพลังประชารัฐ ก็คือ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แน่นอน

เพราะเมื่อพิจารณาจากคำพูดของ “บิ๊กตู่” มาประกอบอีกครั้ง ที่ว่าหากจะมาก็จะมาแบบ “บัญชีของพรรค” จะไม่มาแบบคนนอก

ดังนั้น หากพิจารณากันถึงตอนนี้ ก็น่าจะรู้แล้วว่า ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐคงจะยกขบวนไปทาบทาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเป็นทางการ หลังจากนั้น ก็จะให้เวลาในการพิจารณาตัดสินใจอีกสักวันสองวัน ตามลีลาที่ต้องเป็นแบบนั้น แต่ถึงอย่างไรก็ไม่เกินวันที่ 8 กุมภาพันธ์ แต่เอาเป็นว่า “ชัวร์” ก็แล้วกัน

ขณะเดียวกัน สำหรับ “บิ๊กตู่” แล้ว หากวิเคราะห์กันแล้วถือว่าไม่ธรรมดา แม้จะคาดเดายาก หรือบางครั้งอาจเรียกว่า “คาดไม่ถึง” แม้ว่าจะเดาทางกันออกก็ตาม อย่างที่เห็นในกรณีนี้ที่เขาตัดสินใจมาในเส้นทางบัญชีนายกฯของพรรคการเมือง เป็นขยักแรก ไม่เอาเส้นทางแบบ “นายกฯคนนอก” แม้ว่ากติกาในรัฐธรรมนูญเปิดช่องเอาไว้ให้ แม้ว่าในความเป็นจริงหรือยากหรือง่ายก็ว่ากันไป เพราะต้องใช้เสียงสมาชิกรัฐสภารวมกันจำนวนมากก็ตาม แต่สำคัญก็คือ เขารู้ว่ามัน “สร้างเงื่อนไข” ให้กับฝ่ายตรงข้าม และความ “สง่างาม” ที่จะไปพูดกับชาวโลกมันก็ลดน้อยลงไป

เพราะต้องไม่ลืมว่า ที่ผ่านมา หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เริ่มแสดงบทบาท “ผู้นำในภูมิภาค” มากขึ้นเรื่อยๆ และหากให้คาดเดา เขาน่าจะใช้โอกาสในช่วงที่ไทยเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ เคลื่อนไหวอย่างเต็มที่ เพราะนี่คือโอกาสที่ได้จังหวะพอดี เนื่องจากเวลานี้บรรดาผู้นำในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน มีเพียงผู้นำของเวียดนามเท่านั้น ที่เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกัน

แน่นอนว่า หากไม่ผิดจากความคาดหมายนี้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมาในเส้นทางบัญชีพรรคการเมือง ย่อมต้องโดนรุมโจมตีจากบรรดาพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ซึ่งก็ไม่ได้เหนือความคาดหมาย แบบเดิมๆ คือ “สืบทอดอำนาจ” แต่ในเมื่อมาด้วยเหตุผลตามกติกาที่ถือว่า นี่คือ

“นายกฯ คนใน” สามารถลดเงื่อนไขลงไปได้มากทีเดียว ขณะเดียวกัน หากรู้จักวางตัวดี ไม่ทำอะไรให้น่าเกลียดก็จะผ่านไปได้

ที่สำคัญ หาก “บิ๊กตู่” มาในรายชื่อนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ มันก็น่าจะพุ่งกระฉูด เพราะจนถึงนาทีนี้กระแสของเขายังเต็งหนึ่ง นำขาดคู่แข่งจากทุกพรรคการเมือง และนับจากนี้ก็ต้องจับตาให้ดี เพราะคนแบบเขามักตัดสินใจแบบคาดไม่ถึงได้ตลอดเวลา!!


กำลังโหลดความคิดเห็น