xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ไม่ชัวร์เลือกตั้ง 24 มี.ค. ชี้ผู้มีอำนาจไม่ค่อยเต็มใจให้มี ย้ำได้ ส.ส.ต่ำร้อยลาออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


หน.ปชป.ปลุกหนุ่มสาวอย่าสิ้นหวังเลือกตั้ง แนะใช้สื่อออนไลน์สร้างกระแสใช้สิทธิเป็นธรรม ไม่ชัวร์กาบัตร 24 มี.ค. มองผู้มีอำนาจไม่ค่อยเต็มใจให้มี อัดหลายกติกาเอื้อ รบ.ลงการเมือง จับตานายกฯ ลาออกหรือกอดอำนาจ ย้ำไขก๊อกได้ ส.ส.ต่ำร้อย

วันนี้ (30 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวช่วงหนึ่งในบรรยายพิเศษในหัวข้อ ‘เยาวชนคนหนุ่มสาวกับอนาคตประเทศไทยหลังจากการเลือกตั้ง : ความฝัน ความหวัง และความจริง ให้กับนักศึกษาจากคณะต่างๆ ที่ลงทะเบียนเรียนวิชา มธ.101 โลก อาเซียน และไทย ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ว่าพวกเราก็คงฝันว่าจากวันนี้ไปถึง 24 มีนาคมจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งสำหรับประเทศไทยในครั้งนี้มีปัจจัยหลายอย่างที่อาจจะทำให้ที่เราเคยคาดหวังอาจจะไม่เป็นความจริง แต่ก็ยังเชื่อว่าหลักประกันที่ดีที่สุดที่จะสานฝันของเรานั้นได้ ก็คือกระบวนการเลือกตั้ง แต่ต้องเริ่มต้นจากการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม แต่ขณะนี้ยังมีคนไม่แน่ใจว่าเป็นเช่นนั้นหรือไม่ เนื่องจากคนเขียนรัฐธรรมนูญเขียนบนพื้นฐานที่ว่าคนที่มีอำนาจในปัจจุบันนี้จะไม่มาเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งในฐานะผู้เล่น ในข้อเท็จจริงรัฐบาลชุดต่างๆ ไม่ว่าจะในอดีตหรืออนาคต พอมีการเลือกตั้งก็ถูกจำกัดอำนาจในเรื่องของการอนุมัติงบประมาณหรือโยกย้ายข้าราชการ หากจำเป็นจะต้องทำต้องไปขอกับทาง กกต. แต่เที่ยวนี้เว้นไว้เฉพาะรัฐบาลชุดนี้เท่านั้น อีกทั้งใครที่เกี่ยวข้องกับ คสช.หากต้องการจะเป็นผู้สมัครเลือกตั้งก็ต้องลาออกภายใน 90 หลังรัฐธรรมนูญใช้บังคับ ซึ่งเจตนาของผู้ร่างฯ ชัดเจนว่าต้องการไม่ให้ คสช.มาเป็นผู้เล่น แต่ก็ยังมีช่องโหว่ เพราะยังสามารถให้บางคนมีส่วนได้ส่วนได้เสียเป็นกรรมการบริหารพรรค

“ต้องจับตาว่ายังมีคนอีกคนหนึ่ง ที่วันสองวันนี้ต้องมีการประกาศให้ชัดเจนว่าจะมีท่าทีผมฟังดูเหมือนว่าไม่อยากจะลาออก เพราะยังต้องการที่จะใช้อำนาจพิเศษไปถึงวันที่มีรัฐบาลใหม่ ดังนั้น หาก กกต.มีสิทธิ์ในการตรวจสอบการทุจริต แต่หากว่าไม่เป็นที่ถูกใจผู้มีอำนาจ ก็ถูกคำสั่งตาม ม.44 ดำเนินการได้ เพราะก่อนหน้านี้ เคยมีคำสั่งให้มีการยุบ กกต.ทั้งคณะมาแล้ว และกรณีการแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ตามกฎหมายซึ่งถือเป็นเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ว่าเราจะคาดหวังได้ไหมว่าการใช้อำนาจของคนที่มีอำนาจในปัจจุบันจะทำให้การเลือกตั้งเสรีเป็นธรรม”

นายอภิสิทธิ์อีกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ออกแบบกติกาเหมือนจะพยายามให้ความเป็นพรรคการเมืองไม่เข้มแข็ง มีกฎระเบียบจุกจิกมากมายทำด้วยความยากลำบาก น่าจะทำให้พรรคในพรรคหนึ่งมีเสียงข้างมากเด็ดขาดเป็นไปได้ยาก ดังเช่นพรรคเพื่อไทยที่พยายามแตกลูกแตกหลานก็เพราะแบบนี้ อีกทั้งก่อนหน้านี้การหาเสียงได้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ แต่ตอนนี้ต้องจับเบอร์กันคนละเขต ซึ่งถือเป็นกติกาที่มีความพยายามให้ความสำคัญกับตัวบุคคล แต่สร้างความสับสนมาก เพราะถ้าข้ามเขตไป ก็กลายเป็นคนละเบอร์

“แต่ข้อที่เป็นเรื่องใหญ่ คือ เมื่อก่อนใครได้ 251 เสียงก็สามารถตั้งรัฐบาลได้ แต่เที่ยวนี้เลือกตั้งเสร็จ คนที่เลือกนายกรัฐมนตรี คือ ส.ส.กับ ส.ว.เป็นคนเลือก แปลว่าคนที่จะเป็นนายกฯ จะต้องได้เสียง 375 เสียง บรรดาพรรคการเมืองทั้งหลายก็อยากที่จะได้ 375 เสียง ซึ่งถือว่าเป็นไปไม่ได้เลย ซึ่งทำให้บางคนบางพรรค มีเป้าหมายของเขาว่าต้องการแค่ 125 เสียงเพื่อจะไปรวมอีก 250 ส.ว. และสุดท้ายที่เป็นความจริงที่ค้านกับความฝัน เพราะเมื่อตั้งรัฐบาลได้แล้วก็ยังมีกลไกและมาตรการอีกหลายอย่าง เช่น ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนปฏิรูปและมีอะไรหลายอย่างที่เกี่ยวพันไว้ว่าคนที่เป็นรัฐบาลจะต้องเดินตามตรงนั้น” นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์บรรยายด้วยว่า ตนมองว่าต้องมีความฝันและมีความคาดหวังอยู่เนื่องจาก สิ่งที่เราอาจจะกลัวว่าการเลือกตั้งไม่สุจริต ก็ปรากฏว่ามีความความพยายามใช้อำนาจมากอยู่ เพราะตนได้รับรายงานว่าในบางพื้นที่มีการเก็บบัตรประชาชน หรือที่ จ.ปทุมธานี ตนได้ยินมาว่ามีการขู่บังคับกับผู้นำชุมชนท้องถิ่น แต่ตอนยังเชื่อว่ายุคนี้ใครที่จะพยายามทำอย่างนี้อย่างน้อยที่สุดเทคโนโลยีการสื่อสารในปัจจุบัน ตนมั่นใจว่าจะมีคนประจาน เช่น การอัดคลิปเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย ตนมั่นใจว่าพลังของข้อมูลที่ปรากฏในโลกออนไลน์ อย่างน้อยก็เกิดกระแสสังคมได้ อย่างเช่น เรื่องนาฬิกากับ เรื่องเสือดำ อีกทั้งตนยังยืนยันว่าพรรคใหญ่หรือเล็กจะได้ สุดท้ายอยู่ที่ประชาชนจะเลือกดังนั้นขออย่าท้อแท้ ถ้าสังคมมีความแน่วแน่ว่าต้องการจะไปทางใดทางหนึ่ง ก็ยังมีความเป็นไปไดและสิ่งที่ตามมาจากตรงนี้ จะเป็นแรงกดดันให้ในที่สุดเจตนารมณ์ของประชาชนจะต้องได้รับการเคารพ เพราะถ้าพรรคใดรวบรวมเสียงเกิน 250 เสียงได้ ก็อย่าไปขัดขวางเขา ปล่อยให้เขาได้จัดตั้งรัฐบาล

“ผมหวังว่า ส.ว.250 คนถ้าประชาชนส่งเสียงแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเสี่ยงฝืนกับความรู้สึกนั้น เพราะต่อให้ตั้งรัฐบาลได้ก็อยู่ยาก หากพรรคไหนได้ต่ำร้อยแล้วจะอยากใช้ ส.ว.อีก 250 เสียง เพื่อดันคนในบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรคตัวเอง ก็เป็นเรื่องยาก”

อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ได้ขอให้คนหนุ่มสาวอย่าสิ้นหวังต่อการเลือกตั้ง และสามารถหาข้อมูลของแต่ละพรรคการเมืองได้จากโซเชียลต่างๆ ขอให้สิทธิที่ได้ให้เป็นประโยชน์และติดตามคนที่เป็นตัวแทนในการใช้อำนาจและแสดงออกตามความคิดของตน ซึ่งในยุคปัจจุบันมีการเปิดกว้างมากมาย ซึ่งเราจะใช้ตัวนี้เป็นตัวที่ขับเคลื่อนสังคมประเทศชาติไปข้างหน้า ให้สามารถก้าวเข้าไปส่งผลหรือใกล้เคียงกับสิ่งที่เป็นความฝันตามอุดมคติของเรา

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นายอภิสิทธิ์บรรยาย ได้มีนักศึกษาถามคำถามเป็นจำนวนมาก โดยนักศึกษารายหนึ่งถามว่า ‘แน่ใจได้อย่างไรว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคม’ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า ตนเห็นว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ผู้มีอำนาจไม่ค่อยจะเต็มใจให้มีการเลือกตั้ง แต่ในขณะนี้ก็มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาฯ ถือว่าเป็นหลักประกันว่ามีการเลือกตั้ง แต่ยอมรับว่าตนก็ไม่กล้าพูดแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะมีการเลือกตั้ง ดังนั้น ตนก็อยากจะให้เผื่อใจ

นอกจากนี้ยังได้ถามถึงอนาคตทางการเมืองว่าจะสามารถร่วมรัฐบาลกับ พรรคเพื่อไทย หรือพรรคพลังประชารัฐได้หรือไม่ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยอยากจะให้พรรคที่จะมาร่วมรัฐบาลต้องมีอุดมการณ์ตรงกับกันพรรค แต่ถ้าหากได้ไม่ถึง 100 เสียง หรือเป็นพรรคต่ำร้อย ตนก็จะลาออกจากหัวหน้าพรรค แล้วให้สมาชิกพรรคที่เหลือตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น