“อภิสิทธิ์” ชี้ระเบียบหาเสียงของ กกต.ยังคลุมเครือ เห็นด้วยใช้กัญชาทางการแพทย์ ไม่ผูกขาด พร้อมดีเบตนโยบาย มอง 4 รัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งเป็นมารยาทที่สอนกันไม่ได้
วันนี้ (18 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่าทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. อาจกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้ว่า ตนไม่กังวลว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นวันไหน เพราะทุกคนทำงานเต็มที่เพื่อให้ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาและได้เดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชน เพราะสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ภารกิจสำคัญก็คือการอาสามาดูแลประชาชนหลังการเลือกตั้ง สิ่งสำคัญคือความพร้อมของนโยบายในการบริหารประเทศและบุคคลที่พร้อมทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชน
ส่วนการใช้ป้ายโฆษณาในการหาเสียงนั้น ทางพรรคประชาธิปัตย์มีการสอบถามไปยัง กกต.แล้วในบางเรื่อง ทางพรรคพร้อมปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ กกต.ก็ยังไม่มีความชัดเจนในบางเรื่อง เช่น วิธีการนับจำนวนป้าย กรณีที่หากติดป้ายไปจำนวน 100 ป้าย แต่ถูกทำลายไปจำนวน 30 ป้าย และหากได้มีการทำป้ายทดแทน 30 ป้าย จะนับจำนวนป้ายที่ทำทดแทนว่าเป็นป้ายใหม่ด้วยหรือไม่ ส่วนที่มองว่าน่าจะเป็นปัญหาก็คือระบบการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์เพราะวิธีปฏิบัติที่เขียนมายังไม่มีความชัดเจน อาทิ การหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องเขียนชื่อผู้ผลิตและจำนวนที่ผลิตไว้ด้านหน้าอย่างชัดเจน จึงยังไม่เข้าใจว่ากรณีที่เป็นข้อความสั้น หรือเอสเอ็มเอส หรือแบนเนอร์ต้องทำอย่างไร
สำหรับแนวคิดการนำกัญชามาใช้อย่างถูกกฎหมายนั้น พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าสนับสนุนให้มีการใช้ในทางการแพทย์ แต่ต้องไม่มีการผูกขาดด้วยการให้สัมปทานหรือให้สิทธิบัตร จนเป็นการตัดโอกาสของประชาชน แต่ผู้ปลูกต้องควบคุมด้วยว่าใช้ทางการแพทย์หรือเพื่อส่งออกเท่านั้น ซึ่งหากนำกัญชามาใช้ในทางการแพทย์อย่างเดียวก็คงไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นการใช้โดยเสรี เพราะผู้ปลูกต้องป้อนให้กับการแพทย์ หรือทำการส่งออก ส่วนที่บางพรรคการเมืองนำนโยบายปลูกกัญชาบ้านละ 1 ต้นมาใช้นั้นก็ต้องไปดีเบตกันในรายละเอียดว่าจะมีมาตรการควบคุมอย่างไร นอกจากว่าสามารถใช้ในทางสันทนาการได้ด้วยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงเรียกร้องให้ยกเลิกรายการเดินหน้าประเทศไทย เนื่องจากมี 4 รัฐมนตรีที่สังกัดพรรคการเมืองแต่ยังอยู่ในรัฐบาลซึ่งจะเป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นหรือไม่นั้น มองว่าการแข่งขันทุกอย่างมีทั้งกฎกติกา มารยาท ในส่วนของกฎกติกาก็ต้องให้ทาง กกต.เป็นผู้ชี้ขาด ส่วนเรื่องมารยาทเป็นสิ่งที่สอนกันไม่ได้