“มาร์ค” เปิดศูนย์เลือกตั้ง ปชป.เขตหนองจอก หวังไร้ ม.44 ออกมาช่วงเลือกตั้ง คาดวันเลือกตั้งไม่น่าจะเกินต้นมีนาคม แขวะ 4 รมต.ไม่ลาออกเรื่องของพฤติกรรม
วันนี้ (2 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เขตหนองจอก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานในการเปิดศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์ เขตหนองจอก พร้อมเปิดตัว น.ส.เบญญาภา เกษประดิษฐ์ อดีตผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ของพรรค เป็นผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 17 หนองจอก โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรค สมาชิก และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมในการเปิดศูนย์เป็นจำนวนมาก
หลังจากนั้น นายอภิสิทธิ์และคณะได้ลงพื้นที่เขตมีนบุรี เพื่อแนะนำตัวนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ทายาทผู้บริหารเครือโนเบิล เป็นผู้สมัคร ส.ส.ในเขตดังกล่าวซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างยิ่ง
โดยนายอภิสิทธิ์ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นที่มีกระแสข่าวว่าอาจจะมีการเลื่อนเลือกตั้ง ส.ส.ออกไปว่า กระบวนการการเลือกตั้งก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของกฎหมายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ตามรัฐธรรมนูญฯ การเลือกตั้งก็ต้องเกิดขึ้นภายใน 150 วัน หลังจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งประกาศใช้ ซึ่งกฎหมายเลือกตั้งก็บังคับใช้ตั้งแต่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา เพราะฉะนั้น การเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้นก่อนวันที่ 6 พฤษภาคม 2562 ขณะนี้ที่รอกันอยู่ก็คือ การตราพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ให้มีการเลือกตั้งและการกำหนดวันเลือกตั้ง ต้องอยู่ภายใน 60 วัน นับตั้งแต่ พ.ร.ฎ.มีผลบังคับใช้แล้วด้วย หาก พ.ร.ฎ.มีผลบังคับใช้ในวันนี้ (2 มกราคม) แปลว่าท้ายที่สุดวันเลือกตั้งก็จะต้องไม่เกินช่วงต้นเดือนมีนาคม ก็ต้องรอดูว่า พ.ร.ฎ.จะมีผลบังคับใช้เมื่อไหร่ และตนเชื่อว่าคงจะไม่มีอำนาจตามมาตรา 44 โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง เพราะจะบั่นทอนความเชื่อมั่นโดยส่วนรวม
“สำหรับพรรคการเมืองขณะนี้ก็สามารถเตรียมพร้อมในการเลือกตั้งได้ในระดับหนึ่ง เพียงแต่ว่าเมื่อมีพระราชกฤษฎีกามาบังคับก็จะมีกติกา เช่น ต่อไปนี้การหาเสียงหรือการทำอะไรที่มีผลต่อคะแนนเสียง ก็ต้องนับเป็นค่าใช้จ่าย แล้วก็จะต้องไม่เกินตามจำนวนที่ กกต.กำหนด และก็เรื่องความชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้ง วันรับสมัครก็จะตามมา ขณะนี้ทางพรรคก็เดินหน้าอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าได้กำชับสมาชิกและผู้สมัครทุกคนว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะฉะนั้น เมื่อมีพระราชกฤษฎีกามา เช่น ป้ายที่เคยติดไว้ แต่ไม่เป็นไปตามขนาดที่ กกต.กำหนดก็ต้องเอาลง และถ้ามีการดำเนินการอะไรต่อเนื่องก็ต้องนับเป็นค่าใช้จ่าย” นายอภิสิทธิ์กล่าว
สำหรับประเด็น 4 รัฐมนตรีที่สังกัดพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยังไม่ลาออกนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็อยู่ที่พฤติกรรม แต่ตนก็เคยพูดหลายครั้งว่าในอดีตอย่างเช่นช่วงที่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นช่วงรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มนั้น แล้วมีคนจะไปสมัครรับเลือกตั้งและมีส่วนได้เสียก็ต้องให้ออกจากการเป็นรัฐมนตรี เพราะว่าตรงนั้นเป็นเรื่องของหลักการและธรรมาภิบาล
