xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กฉัตร” โอ่ปี 61 รัฐบาลแก้ปัญหาน้ำดีเยี่ยม ลดท่วม-แล้ง เพิ่มปริมาณน้ำ ประหยัดงบได้กว่า 2.6 หมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ (แฟ้มภาพ)
“พล.อ.ฉัตรชัย” เผยปี 62 รัฐบาลสนองพระราชกระแสรับสั่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำโครงการในพระราชดำริในหลวง ร.๙ ที่ยังไม่แล้วแสร็จมาสานต่ออีก 5 โครงการ พร้อมเผยผลงานบริหารจัดการน้ำปีที่ผ่านมาลดพื้นที่น้ำท่วม-น้ำแล้ง เพิ่มปริมาณน้ำมากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมา 4 เท่า ประหยัดงบประมาณแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท

วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแผนการบริหารจัดการน้ำในปี 2562 ว่าเรื่องดังกล่าวรัฐบาลได้พยายามทำและมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยก่อนหน้าที่รัฐบาลนี้จะเข้ามา ประเทศไทยไม่เคยมีแผนบริหารจัดการน้ำของประเทศ แต่เมื่อตนเข้ามา ได้เริ่มคิดว่าจะต้องมีแผนบริหารจัดการน้ำ ซึ่งถือเป็นแผนบริหารจัดการน้ำครั้งแรกของประเทศ มีระยะเวลา 20 ปี ตรงกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ขณะเดียวกัน เราได้ทำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ทรัพยากรน้ำ ที่ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว และอยู่ระหว่างการประกาศใช้กฎหมาย ขณะเดียวกัน มีการตั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ขึ้นมาทำหน้าที่ดูแลการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งทั้ง 3 เสาหลักนี้ จะสามารถเดินหน้าขับเคลื่อนการทำงาน โดยปัจจุบัน จากการเดินหน้าเรื่องดังกล่าว ทำให้ตั้งแต่ปี 2557 เราสามารถเพิ่มปริมาณน้ำได้ถึง 4 เท่าของรัฐบาลที่ผ่านมา กล่าวคือ เราทำ 4 ปี เท่ากับ 12 ปีย้อนหลัง และยังพบว่าสามารถลดพื้นที่น้ำท่วมได้ โดยในปี 2551-2553 มีพื้นที่น้ำท่วม 5.15 ล้านไร่ ปี 2554-2556 มีน้ำท่วมเฉลี่ย 5.66 ล้านไร่ และในช่วงรัฐบาลชุดนี้ เหลือ 1.67 ล้านไร่ ส่วนเรื่องภัยแล้ง ตั้งแต่ปี 2551-2554 มีหมู่บ้านที่ประสบปัญหาภัยแล้ง 22,813 หมู่บ้าน ปี 2555-2557 มี 20,915 หมู่บ้าน และในรัฐบาลนี้ ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน เหลือ 3,030 หมู่บ้าน

พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า ปัญหาภัยแล้งและพื้นที่น้ำท่วมที่ลดลง สะท้อนผ่านงบประมาณที่เราต้องชดเชยในทั้ง 2 ส่วนนี้ โดยในช่วงแรกชดเชยไป 50,281 ล้านบาท ช่วงที่ 2 เป็นช่วงที่เจอน้ำท่วมหนัก ชดเชยไป 89,755 ล้านบาท และในช่วงรัฐบาลชุดนี้ เหลือ 18,594 ล้านบาท จะเห็นว่าตัวเลขงบประมาณที่ต้องชดเชยนั้นลดลง ทำให้สามารถนำงบประมาณไปใช้บริหารจัดการประเทศในด้านอื่นๆ ได้ โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานของรัฐ ทั้งจากสำนักงบประมาณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) และกระทรวงมหาดไทย (มท.) อย่างไรก็ตาม โครงการบริหารจัดการน้ำหลายโครงการเพิ่งเริ่มต้น โดยในช่วงต้น เราทำไปหลายโครงการแต่เป็นโครงการขนาดเล็ก ส่วนโครงการขนาดใหญ่จะทำไม่ได้มาก มีเพียงประมาณ 10 กว่าโครงการ เพราะจะต้องสอดรับกับงบประมาณ รวมถึงจะต้องผ่านกระบวนการการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เพื่อรับฟังความคิดเห็น ซึ่งจะใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 2 ปี

“นายกฯ ได้กล่าวกับผมว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า ให้นำโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ยังไม่ได้ทำ มาทำต่อ ซึ่งขณะนี้เราได้ดำเนินการไปแล้ว 3 โครงการ และในปี 2562 จะทำอีก 5 โครงการ ทั้งนี้ โครงการบริหารจัดการน้ำต่างๆที่เราจะทำ ได้พูดคุยกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีการออกแบบใหม่ให้การก่อสร้างโครงการรุกพื้นที่ป่าน้อยที่สุด แต่แม้ว่าเราจะทำโครงการวันนี้ การแก้ปัญหาเรื่องน้ำต้องใช้เวลากว่าโครงการจะสมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ อย่างน้อยต้องใช้เวลา 4-5 ปี แต่แม้ว่ารัฐบาลจะเริ่มช้าไป แต่ในระยะยาวจะลดความเดือดร้อนของประชาชนได้ ซึ่ง 4 ปี เราสามารถประหยัดงบประมาณ 26,000 ล้านบาทซึ่งต่ำกว่าราคากลางที่เสนอของบประมาณ พร้อมกันนี้ ตนได้ย้ำทุกหน่วยงานว่า ทุกโครงการจะต้องไม่มีการล็อกสเปก หรือเขียนโครงการเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทใดบริษัทหนึ่งไม่ได้” พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น