“อังคณา” แนะรัฐบาลยึดกติการะหว่างประเทศ ค้านผลักดัน “ฮาคีม” กลับบาห์เรน ชี้อันตราย สุ่มเสี่ยงต่อการถูกทรมาน
นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวกรณี นายฮาคีม อัล อาไรบี นักฟุตบอลชาวบาห์เรน ที่ได้การรับรองสถานะผู้ลี้ภัยจากสหประชาชาติ ให้พำนักในประเทศออสเตรเลีย ถูกควบคุมตัวอยู่ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 พ.ย. ตามหมายจับขององค์การตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล ที่ออกตามคำขอของรัฐบาลบาห์เรน และ นายฮาคีม อาจถูกส่งตัวกลับประเทศบาห์เรน รวมทั้งถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม หรือ อาจถูกซ้อมทรมาน ว่า ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันในอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติ หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (CAT) และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ขององค์การสหประชาชาติ
ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ดำเนินการหลายประการที่น่ายกย่องเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยและผู้แสวงหาที่พักพิง เช่น การริเริ่มทำบันทึกความเข้าใจเรื่องการไม่กักเด็กที่ติดตามผู้ปกครองที่แสวงหาที่พักพิง หรือความพยายามให้มีระบบคัดกรองผู้อพยพเข้าเมือง การปรับปรุง พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 รวมถึงความพยายามให้มีพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย รัฐบาลจึงควรให้ความสำคัญและเคารพหลักการไม่ผลักดันบุคคลสู่อันตราย (Non-refoulement) ตามข้อบทที่ 3 วรรคหนึ่ง ของอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมานฯ ที่เน้นย้ำว่า ‘รัฐภาคีต้องไม่ขับไล่ ส่งกลับ (ผลักดันกลับออกไป) หรือส่งบุคคลเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปยังอีกรัฐหนึ่ง เมื่อมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบุคคลนั้นจะตกอยู่ภายใต้อันตรายที่จะถูกทรมาน’
“ดิฉันหวังอย่างยิ่งว่า นายฮาคีม ซึ่งได้การรับรองสถานะผู้ลี้ภัยจากองค์การสหประชาชาติ จะได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายและกติการะหว่างประเทศ โดยมีหลักประกันว่ารัฐบาลไทยจะไม่ผลักดันเขากลับสู่อันตราย หรือมีความเสี่ยงที่จะถูกทรมาน”