“รสนา” เตือน สนช.อย่าปลดล็อกกัญชาเพื่อผูกขาด จี้ ถอนพ้นบัญชียาเสพติด ส่งเสริมคนไทยปลูกคนไทยใช้

อดีต ส.ว.กรุงเทพฯ ตั้งคำถาม สนช. จะปลดล็อกกัญชาเพื่อคนไทยทั้งประเทศ หรือปลดล็อกเพื่อนำไปสู่การผูกขาดกันแน่ ชี้ การย้ายกัญชาจากยาเสพติดประเภท 5 มาอยู่ประเภท 2 ไม่แก้ปัญหา แต่ปูทางไปสู่การผูกขาด จี้ถอนจากบัญชียาเสพติดโดยสิ้นเชิง ส่งเสริมให้คนไทยปลูก คนไทยซื้อทำยา เงินทองไม่รั่วไหล

วันนี้ (24 พ.ย.) น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กรุงเทพฯ ได้โพสต์ข้อความในหัวข้อ “หยุดการผูกขาดกัญชา หยุดปลดล็อกกัญชาเพื่อให้ใครผูกขาด” โดยระบุว่า ข่าวจากสื่อมวลชนว่า “กัญชาของกลางมีสารเคมีเอามาทำยาไม่ได้” เป็นข้อมูลที่ทำให้อดคิดต่อไม่ได้ว่า จะเป็นการชี้นำไปสู่การนำเข้ากัญชาจากต่างประเทศเพื่อมาผลิตยา ใช่หรือไม่!?

ถ้า สนช. รักชาติ เห็นแก่ชาติจริง ต้องกล้าๆ หน่อย ปลดล็อกกัญชาออกจาก พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ การย้ายกัญชาจากยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 เป็นประเภทที่ 2 ไม่ได้แก้ปัญหา ไม่ใช่การปฏิรูป แต่คือการวางเส้นทางไปสู่การผูกขาด ไม่เป็นผลดีในระยะยาวต่อประเทศ

การยกเลิกกัญชาออกจากกฎหมายยาเสพติด และส่งเสริมให้เกษตรกรไทยปลูกกัญชาเหมือนการปลูกยาสูบ ให้คนไทยปลูก คนไทยซื้อ (ทำยา) คนไทยใช้ยากัญชาจากกัญชาปลูกในประเทศ เงินทองไม่รั่วไหล ช่วยกระจายรายได้ให้เกษตรกรไทย นอกจากใช้ในประเทศแล้ว รัฐบาลควรมีวิสัยทัศน์ผลิตส่งออกไปต่างประเทศ

กัญชาไทยเป็นสายพันธุ์ดีที่สุดในโลก ราคาสูง ปลูกกัญชาขายได้กิโลกรัมละ 12,000 บาท! ปลูกมันสําปะหลังขายได้กิโลกรัมละ 2 บาท จะให้เกษตรกร ปลูกอย่างไหนจึงร่ำรวย พ้นจากความยากจน

กัญชาโทษน้อยกว่าเหล้า บุหรี่ สมควรปลดล็อกกัญชาออกจากกฎหมายยาเสพติดได้แล้ว

หาก สนช. ปลดล็อกกัญชา แต่ยังให้กัญชาอยู่ในกฎหมายยาเสพติดให้โทษ แพทย์แผนไทย แพทย์พื้นบ้านใช้ไม่ได้ เกษตรกรปลูกขายไม่ได้ กัญชาก็จะถูกผูกขาดอยู่มือของคนบางกลุ่มเท่านั้น

จับตาดูกฎหมายปลดล็อกกัญชาของ สนช. ว่า ปลดล็อกเพื่อประชาชนหรือปลดล็อกเพื่อให้กลุ่มทุนเข้ามาผูกขาดกันแน่!?!