xs
xsm
sm
md
lg

พท.โวยแบ่งเขตเลือกตั้งพิสดาร ฉีกฐานเสียงกระทบ ส.ส.เอื้อบ้างพรรค เมินคุย คสช.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เด็ก พท.พาเหรดยื่นค้านการแบ่งเขตเลือกตั้งในหลายจังหวัด โวยพิสดารไม่ยึด ม.27 ตามกฎหมาย ส.ส. ชี้ฉีกฐานเสียงพรรคกระทบ ส.ส.7-8 เขต สงสัยเอื้อบางพรรคที่ประกาศปักธงหรือไม่ ปัดร่วมประชุม คสช.7 ธ.ค. ชี้ไม่มีอำนาจจัดเลือกตั้ง

วันนี้ (23 พ.ย.) ที่สำนักงาน กกต. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาผู้แทนพรรคการเมืองเดินทางมายื่นคำร้องคัดค้านการแบ่งเขตเลือกตั้งในหลายจังหวัด อาทิ จังหวัดสมุทรปราการ นครราชสีมา กรุงเทพมหานคร โดยในส่วนของพรรคเพื่อไทยนำโดยนายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.เชียงราย นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีต ส.ส.กทม. นายประเสริฐ ทรัพย์รวงทอง อดีต ส.ส.นครราชสีมา ยื่นหนังสือขอให้ กกต.คำนึงถึงกฎหมายในการแบ่งเขตเลือกตั้งหลังจาก  คสช.ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2561 เปิดทางให้ กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งโดยไม่ต้องคำนึงถึงกฎหมายและให้ถือเป็นที่สิ้นสุด

นายสามารถกล่าวว่า อยากให้ กกต.เปิดเผยข้อมูลรูปแบบการเลือกตั้งการแบ่งเขตที่มีการร้องและมีการเปลี่ยนแปลงว่าใครเป็นผู้ร้อง และแบบเดิมมีความไม่เหมาะสมอย่างไร เพราะถือเป็นการร้องเรียนนอกกรอบเวลาที่ กกต.เคยกำหนดไว้เท่ากับว่าไม่เคารพกติกา เป็นการตามใจคนที่ไม่เคารพกติกาด้วยการออกคำสั่งพิเศษให้ กกต.รับฟังความเห็นใหม่จนอาจจะมีการออกแบบพิสดาร โดยมีตัวอย่างจากกรณี จ.นครราชสีมา และกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ขอเรียกร้องให้กกตปฏิบัติหน้าที่โดยอิสระปลอดการแทรกแซงจากผู้มีอำนาจ เพราะ กกต.ต้องดูแลการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ ยุติธรรม ถ้าการแบ่งเขตเลือกตั้งไม่เป็นธรรม เท่ากับต้นทางของการเลือกตั้งมีปัญหา แม้ว่าจะเอาผิด กกต.ตามกฎหมายไม่ได้เนื่องจากมีคำสั่งหัวหน้า คสช.คุ้มครองอยู่ แต่จะมีผลต่อความสับสนและความไม่เชื่อมั่นของประชาชนทำให้การเลือกตั้งอาจไม่เป็นที่ยอมรับ ส่วนจะนำไปสู่ความวุ่นวายหรือไม่ คงยังบอกไม่ได้ในตอนนี้

ด้านนายประเสริฐกล่าวว่า ในพื้นที่ภาคอีสานมีปัญหาในหลายจังหวัด โดย จ.นครราชสีมา มีการแบ่งเขตแบบไม่ชอบมาพากลนอกเหนือจาก 3 รูปแบบที่ กกต.เคยกำหนด เดิมนครราชสีมา มี 15 เขต ลดไป 1 เขต เหลือ 14 เขต เราสืบค้นพบว่าจะมีแบบพิสดารซึ่งไม่ตรงกับ 3 รูปแบบที่ กกต.เคยแบ่งไว้ เช่น ในเขตอำเภอพิมาย มีประชากร 1 แสน 3 หมื่นคน เดิมเอา อ.พิมาย ไปรวมกับ อ.ชุมพวง บางตำบล แต่แบบพิสดารแบ่ง อ.พิมายออกเป็น 3 ส่วนๆ ละ 4 ตำบล ไปรวมกับ อ.โนนสูง อ.จักราช ซึ่งไม่เป็นไปตามมาตรา 27 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และที่ อ.สีคิ้ว ที่เดิมเอาบางตำบลไปรวมกับ อ.ด่านขุนทด แต่ตอนนี้จะเอา อ.เมืองฯ มารวมกับ อ.สีคิ้ว เท่ากับว่าไม่คำนึงถึงการเคยอยู่เขตเลือกตั้งเดียวกันมาก่อน เพราะ อ.สีคิ้วไม่เคยอยู่เขตเลือกตั้งเดียวกับ อ.เมืองฯ มาก่อน ถือได้ว่าแบ่งเขตเลือกตั้งขัดมาตรา 27 ชัดเจน นอกจากนี้ ลักษณะชุมชนก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

ขณะที่นายวิชาญกล่าวว่า กทม.เดิมมีเขตเลือกตั้งทั้งหมด 33 เขต ตอนนี้เหลือ 30 เขต มีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ ที่กระทบฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย 7 เขต สอดรับกับมีบางพรรคการเมืองออกมาระบุว่าจะปักธงในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า การแบ่งเขตเลือกตั้งจะไปเอื้อให้พรรคการเมืองนั้นหรือไม่ โดยตัวอย่างความผิดปกติในการแบ่งเขตเลือกตั้ง คือ เขตคลองสามวา ที่มีประชากรเกือบ 2 แสนคนซึ่งเต็มเขตอยู่แล้ว แต่กลับแบ่งคลองสามวาโดยเอาแขวงบางชันไปรวมกับสายไหม แล้วแบ่งสายไหมบางส่วน คือ แขวงคลองถนน ไปรวมกับบางเขน ทำให้เขตบางเขนมีราษฎรเกินจึงแบ่งบางเขนไปในพื้นที่จตุจักร แสดงให้เห็นว่ามีความผิดปกติในการแบ่งพื้นที่ เช่นเดียวกับที่เขตมีนบุรีที่มี 2 แขวง ก็เอาแขวงคลองแสนแสบไปรวมกับของคลองสามวา แล้วเอาแขวงมีนบุรีไปรวมกับคันนายาว ซึ่งพื้นที่ที่แบ่งเขตใหม่เป็นพื้นที่เดิมของพรรคเพื่อไทยทั้งสิ้น 7-8 เขต จึงสงสัยว่าเจาะจงที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ส.ส.หรือไม่ ขณะนี้แค่บัตรใบเดียวประชาชนก็สับสนอยู่แล้ว ยังมีการแบ่งเขตแบบตัดแขวงออกแล้วข้ามไปข้ามมาทำให้ประชาชนไม่สามารถลงในเขตเดิมได้ก็ยิ่งจะมีความสับสน เพราะจะกลายเป็นผู้สมัครอีกคนและคนละเบอร์ด้วย

นายสามารถยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่เข้าร่วมประชุมกับคสชและแม่น้ำ 5 สายในวันที่ 7 ธ.ค.เพราะเห็นว่า คสช.ไม่ได้มีอำนาจในเรื่องการจัดการเลือกตั้ง เพราะอำนาจดังกล่าวเป็นของ กกต. ถ้า กกต.เชิญพรรคก็พร้อมให้ความร่วมมือ แต่ คสช.เชิญก็ไม่รู้ว่าจะไปทำไม



กำลังโหลดความคิดเห็น