สนช. เลื่อนลงมติร่าง กม.ภาษีที่ดินฯ เป็นพรุ่งนี้ ด้าน รมช.คลัง แจง กม.ภาษีที่ดินฯ เป็นการปฏิรูปโครงสร้างระบบภาษีให้ทันสมัย ลดกักตุนที่ดินเพื่อเก็งกำไร ขณะที่สมาชิกห่วงเพดานภาษีเพิ่มภาระให้ปชช.เหตุปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว
วันนี่ (15 พ.ย.) ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.... โดย นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.... ชี้แจงถึงสาระสำคัญว่า เนื่องจากไม่มีการปรับมาเป็นเวลานาน และเพื่อให้อัตราการจัดเก็บภาษีควรเป็นแบบก้าวหน้า ไม่ใช่แบบถดถอยเหมือนในอดีต ไม่มีฐานภาษีซ้ำซ้อนกับภาษีเงินได้ จึงจำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้างระบบภาษีทรัพย์สินให้ทันสมัย เป็นสากล กระตุ้นให้เกิดการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รวมทั้งช่วยให้ท้องถิ่นมีงบประมาณเพียงพอในการพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง
นายวิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า เกษตรกรส่วนใหญ่จะมีภาระภาษีลดลงเมื่อเทียบกับภาระภาษีที่เสียในปัจจุบัน โดยใน 3 ปีแรกจะยกเว้นให้ แต่นิติบุคคลที่ทำเกษตรกรรมขนาดใหญ่จะมีภาระภาษีเพิ่มขึ้นกว่าที่เสียในปัจจุบัน และเก็บตั้งแต่ปีแรกเลย ส่วนผู้ที่มีรายได้น้อยและปานกลางที่อยู่อาศัยเพียงหลังเดียว และมีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท จะไม่ต้องเสียภาษี แต่ผู้ที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยหลายหลังจะมีภาระภาษีเพิ่มสูงขึ้น และผู้ที่เช่าอยู่อาศัยระยะยาวซึ่งปัจจุบันเป็นผู้รับภาระภาษีทางอ้อมอาจะได้รับประโยชน์จากภาษีที่ลดลง สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมส่วนใหญ่จะมีภาระภาษีใกล้เคียงหรือลดลงจากที่เสียอยู่ในปัจจุบัน แต่ธุรกิจขนาดใหญ่ซึ่งมีทรัพย์สินมูลค่าสูง จะมีภาระภาษีสูงขึ้นจากอัตราภาษีก้าวหน้า นอกจากนี้ ธุรกิจที่มีลักษณะเป็นบริการสาธารณะ เช่น สถานศึกษาเอกชน จะได้รับการบรรเทาภาระภาษี
สำหรับกลุ่มที่ดินรกร้าง จะมีภาระภาษีเพิ่มขึ้นสูง เพื่อกระตุ้นให้เจ้าของที่ดินนำที่ดินดังกล่าวมาใช้ประโยชน์ ช่วยลดปัญหาการกักตุนที่ดินเพื่อเก็งกำไร และอาจทำให้ผู้ที่ไม่มีที่ดินทำกินสามารถเข้าถึงที่ดินเพื่อใช้ประกอบอาชีพได้ อย่างไรก็ตาม อาจจะส่งผลกระทบให้ อปท. บางแห่ง มีรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลดลงบ้าง เมื่อเทียบกับปัจจุบัน แต่เมื่อมูลค่าของทรัพย์สินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต อปท. ก็จะมีทรัพย์สินที่เข้าสู่ฐานภาษีเพิ่มขึ้น และมีรายได้ภาษีเพิ่มขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ สมาชิกได้อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะประเด็นการกำหนดอัตราเพดานภาษี ที่อาจจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชน เพราะปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวจึงควรจะมีการปรับลดจำนวนให้เหมาะสมกว่านี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ประชุมมีการพิจารณาครบรายมาตรา นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้เสนอให้เลื่อนการลงมติวาระ 2 และวาระ 3 ออกไปในวันพรุ่งนี้ (16 พ.ย.) เนื่องจากการลงมติในวาระ 2 เป็นรายมาตรานั้นต้องใช้เวลามาก